ปัญหาน้ำรั่วซึมจากดาดฟ้าเป็นหนึ่งในเรื่องกวนใจของเจ้าของบ้านหลายคน โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนที่มักเจอกับคราบชื้น รอยน้ำบนฝ้า หรือผนังลอกเสียหาย หากปล่อยไว้นานอาจลุกลามจนต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมมากขึ้น “กันซึมดาดฟ้า” จึงกลายเป็นทางออกยอดนิยมที่ช่วยป้องกันปัญหาเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์แบบกระป๋องที่ใช้งานง่าย สามารถทาได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องง้อช่างมืออาชีพก็ป้องกันน้ำซึมได้ดี
ในปัจจุบันมีน้ำยากันซึมให้เลือกหลากหลาย ทั้งสูตรยาง สูตรอะคริลิก หรือสูตรโพลียูรีเทน ที่เหมาะกับสภาพพื้นผิวและการใช้งานแตกต่างกันออกไป บทความนี้ ตังค์ทอน จะพาคุณไปทำความรู้จักกับน้ำยากันซึมดาดฟ้าอย่างละเอียด ตั้งแต่หลักการทำงาน วิธีเลือกซื้อ และเทคนิคการใช้งานให้ได้ผลลัพธ์ดีที่สุด เพื่อให้คุณสามารถดูแลบ้านได้ด้วยตัวเองอย่างมั่นใจ ไม่ต้องรอให้ปัญหาลุกลามถึงขั้นต้องรื้อซ่อมใหญ่
วิธีการเลือกซื้อกันซึมดาดฟ้า : แนะนำอย่างละเอียด สำหรับเจ้าของบ้านที่ไม่มีพื้นฐาน
หากคุณเคยเจอกับปัญหาน้ำซึมจากดาดฟ้า หรือกลัวว่าฝนตกหนักแล้วบ้านจะเสียหาย การใช้กันซึมดาดฟ้าถือเป็นทางเลือกที่ช่วยป้องกันปัญหาได้ตรงจุด แต่สำหรับมือใหม่ที่ไม่เคยใช้งานมาก่อน อาจไม่รู้ว่าควรเลือกแบบไหนให้เหมาะกับพื้นผิว วิธีใช้งาน หรือสภาพอากาศที่บ้านเราเผชิญทุกปี
บทความนี้จึงรวบรวมแนวทางการเลือกซื้อกันซึมดาดฟ้าแบบเข้าใจง่าย แบ่งเป็นหัวข้อชัดเจน พร้อมคำแนะนำที่แม้ไม่มีพื้นฐานเรื่องช่างก็สามารถทำตามได้ครับ
1. เลือกจากชนิดของกันซึมดาดฟ้า
ก่อนเลือกซื้อ เราควรรู้ว่ากันซึมดาดฟ้ามีหลายชนิด ซึ่งแต่ละแบบจะเหมาะกับการใช้งานต่างกัน หากเลือกผิดประเภท อาจทำให้กันน้ำได้ไม่ดี หรือเสื่อมสภาพเร็ว
- อะคริลิก (Acrylic) : เหมาะกับดาดฟ้าทั่วไป ทาได้ง่าย แห้งไว กลิ่นไม่แรง และยึดเกาะพื้นผิวปูนหรือคอนกรีตได้ดี เหมาะกับผู้ที่ต้องการทำเองที่บ้าน
- โพลียูรีเทน (Polyurethane) : โดดเด่นเรื่องความยืดหยุ่นสูง เหมาะกับพื้นผิวที่มีการขยายตัวหรือแตกร้าวบ่อย กันน้ำได้ดีมาก ทนแดดจัด แต่ราคาจะสูงกว่าชนิดอื่น
- ซีเมนต์ผสม (Cementitious) : เป็นแบบที่ผสมกับน้ำก่อนใช้งาน มีความแข็งแรง ทนทาน เหมาะกับการใช้ในงานโครงสร้าง เช่น ดาดฟ้าที่เตรียมจะปูกระเบื้องทับ แต่ยืดหยุ่นน้อย
2. พิจารณาความสามารถในการกันน้ำและความยืดหยุ่น
คุณสมบัติสำคัญของกันซึมดาดฟ้าคือ ต้องสามารถกันน้ำได้ดีแม้เจอฝนต่อเนื่อง และควรยืดหยุ่นพอที่จะรองรับการขยายตัวของพื้นผิวเมื่ออากาศร้อนจัด
- ค่าการยืดตัว (Elongation) : ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีค่าการยืดตัวตั้งแต่ 200% ขึ้นไป เพื่อป้องกันการแตกร้าวเมื่อตากแดดหรือเจอฝนบ่อย
- ความหนาเมื่อลงแห้ง : กันซึมที่มีความหนามากเมื่อแห้งจะกันน้ำได้แน่นหนากว่า แต่ต้องใช้ปริมาณมากและทาซ้ำหลายรอบ ควรตรวจสอบคำแนะนำจากผู้ผลิตก่อนใช้งาน
3. เลือกให้เหมาะกับพื้นผิวที่ใช้งาน
พื้นผิวที่คุณจะทากันซึมดาดฟ้ามีผลโดยตรงต่อการเลือกผลิตภัณฑ์ เพราะบางชนิดอาจไม่ยึดเกาะกับวัสดุบางประเภท
- พื้นปูนหรือคอนกรีต : สามารถใช้ได้เกือบทุกชนิด โดยเฉพาะอะคริลิกและซีเมนต์ผสม ซึ่งยึดเกาะได้ดี
- พื้นกระเบื้องหรือวัสดุเคลือบเงา : ควรใช้ชนิดที่เกาะผิวมันได้ดี เช่น โพลียูรีเทน เพราะจะไม่หลุดลอกง่าย
- พื้นโลหะหรือหลังคาเหล็ก : ต้องใช้กันซึมที่ออกแบบมาให้เกาะกับโลหะโดยเฉพาะ เช่น อะคริลิกสูตรพิเศษ
4. ตรวจสอบว่าสามารถใช้งานเองได้หรือไม่
สำหรับเจ้าของบ้านที่ต้องการทำเอง การเลือกกันซึมดาดฟ้าที่ใช้งานง่ายเป็นเรื่องสำคัญ
- เลือกชนิดพร้อมใช้งาน (Ready to Use) : เปิดกระป๋องแล้วสามารถทาได้ทันที ไม่ต้องผสมหรือเตรียมส่วนผสมให้ยุ่งยาก
- มีคำแนะนำชัดเจน : ควรมีฉลากหรือคู่มือบอกวิธีใช้อย่างละเอียด เช่น ต้องทากี่รอบ ใช้ลูกกลิ้งหรือแปรงแบบไหน และเวลากี่ชั่วโมงถึงจะแห้งสนิท
5. คำนวณปริมาณให้พอดีกับพื้นที่ใช้งาน
เพื่อความคุ้มค่า ควรตรวจสอบว่าแต่ละกระป๋องสามารถทาได้กี่ตารางเมตร โดยทั่วไปจะระบุไว้บนบรรจุภัณฑ์
- ตัวอย่างการคำนวณ : หากกันซึมดาดฟ้ากระป๋องหนึ่งทาได้ 10 ตร.ม. ต่อการทา 2 รอบ และคุณมีพื้นที่ 30 ตร.ม. อาจต้องซื้อ 3 กระป๋องขึ้นไป
- พิจารณาแบบแกลลอนหรือถัง : ถ้าพื้นที่ดาดฟ้ากว้าง อาจเลือกขนาดแกลลอนหรือถังใหญ่ เพราะคุ้มค่ากว่าการซื้อขนาดเล็กหลายกระป๋อง
6. พิจารณาความทนทานต่อสภาพอากาศ
ประเทศไทยมีทั้งฝนตกหนัก แดดจัด และความชื้นสูง จึงควรเลือกกันซึมดาดฟ้าที่รองรับสภาพอากาศแบบนี้ได้
- ทนรังสี UV : ช่วยให้ฟิล์มไม่ลอกหรือกรอบเมื่อโดนแดดจัดเป็นเวลานาน
- ทนน้ำขัง : หากดาดฟ้ามีโอกาสมีน้ำขัง ควรเลือกสูตรที่กันน้ำได้แม้เจอน้ำขังต่อเนื่อง
- แห้งไว : ยิ่งแห้งเร็ว ยิ่งสะดวกสำหรับงาน DIY โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนที่เวลาทำงานมีจำกัด
7. เช็กรีวิวจากผู้ใช้จริง และเลือกแบรนด์ที่เชื่อถือได้
แม้จะไม่มีความรู้เรื่องช่าง แต่การเลือกจากประสบการณ์ของผู้ใช้จริงก็ช่วยให้ตัดสินใจง่ายขึ้น
- อ่านรีวิวตามเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มขายของออนไลน์ : สังเกตว่ามีปัญหาเรื่องการยึดเกาะไหม กันน้ำได้นานแค่ไหน หรือใช้งานยากหรือไม่
- เลือกแบรนด์ที่มีชื่อเสียง : เช่น TOA, Dr.Fixit, Sika, Jotun หรือ Weber ซึ่งมีผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองและหาอะไหล่หรือคำแนะนำเพิ่มเติมได้ง่าย
สรุป
การเลือกซื้อ กันซึมดาดฟ้า ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงรู้จักประเภทของผลิตภัณฑ์ และเข้าใจพื้นผิวที่จะใช้งาน ก็สามารถเลือกได้อย่างมั่นใจ แม้จะไม่มีพื้นฐานเรื่องงานช่างก็ตาม การเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมตั้งแต่แรกช่วยป้องกันปัญหาน้ำรั่วซึมได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยืดอายุการใช้งานของดาดฟ้าในระยะยาว
10 อันดับ กันซึมดาดฟ้า ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 ใช้งานสะดวก ยืดหยุ่น ทนต่อสภาพอากาศ
ต่อไปนี้จะเป็น 10 อันดับ กันซึมดาดฟ้า ที่มีคุณภาพที่ดี เหมาะสำหรับการใช้งาน โดยเราได้คัดสรรมาเป็นอย่างดีแล้ว สามารถดูจากรีวิวด้านล่างได้เลยครับ
1. TOA อะคริลิคทากันซึม รูฟซีล 1 กก. รุ่น 201
ราคา 213 บาท
กันซึมแน่น ทนแรงสั่นสะเทือน ใช้งานได้นานกว่า 7 ปี
TOA รูฟซีล 1 กก. รุ่น 201 ราคา 213 บาท เป็นกันซึมคุณภาพสูงแบบไฮบริดที่ผสมผสานโพลียูรีเทนและอะคริลิก ค่าความยืดตัวสูงถึง 680% ช่วยป้องกันการรั่วซึมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ใช้งานได้ทั้งบนคอนกรีต ผนังก่ออิฐฉาบปูน กระเบื้องลอนคู่ หรือแม้แต่เมทัลชีท ยึดเกาะแน่น ทนต่อทุกสภาพอากาศและแรงสั่นสะเทือนได้ดี เหมาะทั้งดาดฟ้าและผนังภายนอก
สูตรนี้ไม่มีสารปรอทและตะกั่ว ปลอดภัยกับผู้ใช้งานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ใช้งานสะดวก จะทาด้วยแปรง ลูกกลิ้ง หรือพ่นก็ได้ ทนทานนานกว่า 7 ปี ไม่ต้องซ่อมบ่อย คุ้มค่าในระยะยาวสำหรับบ้านทุกหลัง.
2. BEGER วัสดุกันซึม Roofseal Cool
ราคา 600 บาท
กันซึมแน่น เย็นบ้าน สีสวย ใช้งานง่าย
BEGER Roofseal Cool ราคา 600 บาท เป็นวัสดุกันซึมสูตรน้ำแบบไฮบริดที่รวมข้อดีของโพลียูรีเทนและอะคริลิกเข้าไว้ด้วยกัน ให้ค่าความยืดตัวสูงถึง 600% ช่วยปกปิดรอยร้าวและป้องกันน้ำขังได้ยาวนานกว่า 30 วัน เหมาะสำหรับดาดฟ้าและพื้นที่ต้องการความทนทานเป็นพิเศษ
จุดเด่นอีกอย่างคือช่วยสะท้อนความร้อนจากแสงแดด ลดอุณหภูมิภายในบ้าน พร้อมคุณสมบัติทนรังสียูวี สีไม่ซีดไว มีให้เลือกกว่า 6 เฉดสี เพิ่มความสวยงามไปพร้อมกับการใช้งาน ใช้งานสะดวก จะทาด้วยแปรง ลูกกลิ้ง หรือพ่นก็ทำได้สบาย เหมาะกับทั้งงานบ้านและอาคาร
3. จระเข้ ซีเมนต์ทากันซึม ชนิดยืดหยุ่น รุ่น เฟล็กซ์ชิลด์
ราคา 180 บาท
กันซึมแน่น ยืดหยุ่นสูง ใช้ได้แม้ในบ่อปลา
จระเข้ ซีเมนต์กันซึม รุ่น เฟล็กซ์ชิลด์ ราคา 180 บาท เป็นสูตรส่วนผสมเดี่ยว ใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยาก ให้ความยืดหยุ่นสูง เหมาะกับพื้นผิวที่มีการเคลื่อนตัวเล็กน้อย ปิดรอยร้าวได้เรียบสนิท และทนทานต่อแรงดันน้ำสูง รวมถึงแสงแดด ใช้งานได้ทั้งภายนอกและภายใน
ปลอดสารพิษ 100% จึงใช้ได้แม้ในสระว่ายน้ำหรือบ่อเลี้ยงปลา รองรับพื้นผิวหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นโลหะ ไม้ โฟม เรซิ่น หรือกระเบื้องเดิมที่รั่วซึมก็สามารถทาทับได้โดยไม่ต้องรื้อออก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการกันซึมแบบปลอดภัยและยืดหยุ่นในราคาคุ้มค่า
4. WEBER กาวเวเบอร์ TAI – 2 IN 1
ราคา 390 บาท
ปูกระเบื้องแน่น กันน้ำได้ในขั้นตอนเดียว
WEBER กาวเวเบอร์ TAI – 2 IN 1 ราคา 390 บาท เป็นกาวซีเมนต์ชนิดผสมเดียวที่รวมคุณสมบัติทั้งยึดเกาะแน่นและกันน้ำในตัว เหมาะสำหรับงานปูกระเบื้องภายใน เช่น ห้องน้ำ ห้องครัว หรือพื้นผิวที่ต้องการความทนทานต่อความชื้น ใช้ได้กับกระเบื้องขนาดใหญ่ หินอ่อน หรือหินแกรนิต
เพียงผสมน้ำและพักไว้ 3–4 นาที ก็พร้อมใช้งานโดยไม่ต้องเติมสารอื่นเพิ่มเติม ปราศจากสารระเหยอันตราย ปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน แต่ไม่เหมาะสำหรับภายนอกอาคารหรือพื้นผิวโลหะและพลาสติก เหมาะสำหรับช่างหรือเจ้าของบ้านที่ต้องการความสะดวกและประสิทธิภาพในขั้นตอนเดียว
5. Nippon Paint Roofseal สีทาดาดฟ้ากันรั่วซึม
ราคา 520 บาท
กันซึมแน่น เสริมใยไฟเบอร์ ทนทานยาวนาน
Nippon Paint Roofseal ราคา 520 บาท เป็นสีทาดาดฟ้าชนิดอะคริลิกที่ผสานเทคโนโลยี Fiber Strength เสริมด้วยเส้นใยไฟเบอร์กลาส เพิ่มความแข็งแรงให้ฟิล์มสี ไม่หลุดล่อนง่าย ทนต่อน้ำขังได้นานถึง 60 วันโดยที่ฟิล์มไม่บวม ไม่ลอก และยังให้ความยืดหยุ่นสูงถึง 670%
เหมาะสำหรับใช้งานทั้งภายนอกและภายในอาคาร ปลอดภัยด้วยปริมาณสารระเหยต่ำ สามารถสะท้อนความร้อนได้ดี ช่วยให้บ้านเย็นลงในช่วงแดดแรง กระป๋องขนาด 4 กก. ใช้ได้กับพื้นที่ 2–4 ตารางเมตร เหมาะสำหรับเจ้าของบ้านที่ต้องการทั้งความทนทานและความเย็นในหนึ่งเดียว.
6. SIKA ซีเมนต์กันซึม TOP SEAL-107
ราคา 420 บาท
กันซึมง่าย ไม่ต้องเติมน้ำ ไม่ทำให้เหล็กเป็นสนิม
SIKA TOP SEAL-107 ราคา 420 บาท เป็นซีเมนต์กันซึมชนิด 2 ส่วนผสม ที่ออกแบบมาให้ใช้งานง่าย เพียงนำซีเมนต์และน้ำยาโพลีเมอร์ดัดแปลงมาผสมรวมกันโดยไม่ต้องเติมน้ำเพิ่ม เหมาะสำหรับงานซ่อมแซมรอยแตกร้าวขนาดเล็ก ทั้งในงานใหม่และโครงสร้างเก่า
สามารถใช้ในบริเวณที่มีความชื้นสูง เช่น สระว่ายน้ำ บ่อน้ำ หรือห้องน้ำ โดยไม่ทำปฏิกิริยากับเหล็ก จึงมั่นใจได้ว่าโครงสร้างจะไม่เกิดสนิม เหมาะกับงานกันซึมที่ต้องการทั้งความทนทานและความสะดวกในการใช้งาน
7. สิงห์ปูนกันน้ำซึม น้ำรั่ว วอเตอร์ซีล SW01
ราคา 559 บาท
กันซึมแน่น ใช้ทาทับกระเบื้องเดิมได้ ไม่ต้องรื้อ
สิงห์ปูนกันน้ำซึม น้ำรั่ว วอเตอร์ซีล SW01 ราคา 559 บาท ผลิตจากปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ Type-1 ผสมทราย เหมาะสำหรับรอยร้าวขนาดเล็กไม่เกิน 0.75 มม. ใช้งานได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร ให้ความทนทานสูง ไม่ลอกหรือแตกร้าวง่ายแม้ใช้งานกลางแจ้ง
จุดเด่นอยู่ที่สามารถทาทับกระเบื้องเดิมที่รั่วซึมได้เลย ไม่ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการรื้อพื้นเก่าออก ใช้กับพื้นผิวหลากหลายทั้งเหล็ก ไม้ เรซิ่น หรือโฟม เพียงพื้นผิวสะอาดปราศจากฝุ่น เหมาะสำหรับงานซ่อมแซมแบบเร่งด่วนที่ต้องการประสิทธิภาพและความคุ้มค่า
8. SISTA อะคริลิกกันซึม D100 PLUS
ราคา 210 บาท
กันซึมเข้มข้น ใช้งานง่าย กันซึมรอยร้าวเล็กจบในขั้นตอนเดียว
SISTA อะคริลิกกันซึม D100 PLUS ราคา 210 บาท มาพร้อมเนื้ออะคริลิกโพลีเมอร์สูตรน้ำที่เข้มข้น ใช้งานง่าย ไม่ต้องผสมน้ำก่อนใช้ มีความยืดหยุ่นสูง ไม่เปราะแตก ช่วยซ่อมแซมรอยร้าวขนาด 2 – 5 มม. บนดาดฟ้าและหลังคาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ยึดเกาะได้ดีกับพื้นผิวหลากหลาย ทั้งคอนกรีต ไม้ กระเบื้อง หรืออะลูมิเนียม และสามารถทาสีทับได้หลังแห้ง ป้องกันน้ำซึม รังสียูวี และสะท้อนความร้อนได้ในตัว เหมาะกับงานซ่อมแซมที่ต้องการความรวดเร็วและคงทนในราคาคุ้มค่า
9. ฮีโร่ ลักซ์ รูฟซีล พียู ไฮบริด วอเตอร์พรูฟ น้ำยากันรั่วซึม
ราคา 209 บาท
กันซึมทนจัด แห้งไว ใช้ได้นานถึง 7 ปี
ฮีโร่ ลักซ์ รูฟซีล พียู ไฮบริด วอเตอร์พรูฟ ราคา 209 บาท มาพร้อมสูตร PU Hybrid ที่ผสมโพลียูรีเทนและอะคริลิก ช่วยให้เนื้อฟิล์มยืดหยุ่น ทนสภาพอากาศรุนแรง และใช้งานได้นานถึง 7 ปี แห้งไวใน 20 – 30 นาที และแข็งตัวภายใน 2 – 3 ชั่วโมง
รองรับการเสริมตาข่ายเพื่อเพิ่มความแข็งแรง และทนต่อน้ำขังได้นานถึง 60 วัน มีให้เลือก 3 สี (ขาว เทา ใส) พร้อมพื้นผิวกึ่งเงา กลิ่นบางเบาไม่ฉุน ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับงานซ่อมดาดฟ้าหรือหลังคาที่ต้องการความทนทานและความเรียบร้อยในราคาประหยัด
10. BESBOND ซีเมนต์กันซึม SUPER FLEX 2K
ราคา 469 บาท
กันซึมยืดหยุ่นดี ผิวเนียน พร้อมตกแต่งต่อได้
BESBOND ซีเมนต์กันซึม SUPER FLEX 2K ราคา 469 บาท เป็นกันซึมชนิด 2 ส่วนผสม ประกอบด้วยปูนซีเมนต์และน้ำยาโพลีเมอร์ ใช้ผสมเข้าด้วยกันก่อนใช้งาน เหมาะทั้งการทาหรือฉาบ โดยเนื้อซีเมนต์ปาดง่าย แนบสนิทกับรอยร้าวได้ดี ให้ผิวเรียบสวย
ออกแบบมาสำหรับโครงสร้างที่มีแรงสั่นสะเทือน เช่น รอยต่อพื้นกับผนัง หรือบริเวณแตกร้าวบ่อย ใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะปล่อยผิวเปลือย ทาสีทับ หรือปูกระเบื้องทับก็ทำได้อย่างมั่นใจ เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าทั้งในด้านความยืดหยุ่นและการใช้งานต่อยอด
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับกันซึมดาดฟ้า (FAQ)
1. กันซึมดาดฟ้าต่างจากการทาสีกันน้ำทั่วไปอย่างไร?
กันซึมดาดฟ้าออกแบบมาเพื่อสร้างชั้นฟิล์มที่ยืดหยุ่นและป้องกันการรั่วซึมได้แม้มีรอยร้าวเล็ก ๆ ต่างจากสีกันน้ำทั่วไปที่แค่ช่วยลดความชื้น แต่ไม่ได้ป้องกันน้ำซึม 100%
2. ต้องทากันซึมดาดฟ้ากี่รอบถึงจะได้ผลดี?
โดยทั่วไปแนะนำให้ทา 2–3 รอบ เพื่อให้ได้ความหนาที่เพียงพอสำหรับการกันน้ำ ควรทาแต่ละรอบหลังจากชั้นก่อนหน้าแห้งสนิท
3. กันซึมดาดฟ้าอยู่ได้นานกี่ปี?
อายุการใช้งานอยู่ที่ประมาณ 3–7 ปี ขึ้นอยู่กับคุณภาพของผลิตภัณฑ์ การเตรียมพื้นผิว และสภาพอากาศ หากอยู่ในพื้นที่แดดแรงหรือฝนชุก ควรตรวจเช็กทุก 2–3 ปี
4. กันซึมดาดฟ้าทาเองได้ไหม หรือควรจ้างช่าง?
ถ้าเป็นกันซึมชนิดพร้อมใช้ (เช่น แบบอะคริลิก) และพื้นผิวไม่ซับซ้อน คุณสามารถทาเองได้ แต่ถ้าพื้นผิวกว้าง มีรอยแตกร้าวเยอะ หรืออยู่ในจุดเสี่ยง ควรจ้างช่างเพื่อความมั่นใจ
5. กันซึมดาดฟ้าสามารถทาทับพื้นกระเบื้องได้หรือไม่?
บางยี่ห้อสามารถทาบนกระเบื้องได้ แต่ต้องเป็นสูตรที่ “ยึดเกาะผิวมัน” ได้ดี แนะนำให้ทำความสะอาดพื้นผิวให้แห้ง สะอาด และไม่มีฝุ่นหรือคราบมันก่อนทา
6. สามารถทากันซึมดาดฟ้าในช่วงหน้าฝนได้หรือไม่?
ไม่แนะนำให้ทาช่วงฝนตก เพราะผลิตภัณฑ์ต้องแห้งสนิทเพื่อสร้างฟิล์มกันน้ำ ควรเลือกวันที่แดดออก และดูพยากรณ์อากาศล่วงหน้าอย่างน้อย 2–3 วันก่อนลงมือ
7. พื้นผิวมีรอยแตกร้าว ต้องอุดก่อนหรือทากันซึมได้เลย?
ควร อุดรอยแตกร้าวด้วยวัสดุซ่อมรอยร้าว ก่อนทากันซึม เพราะถ้าทาลงไปเลยโดยไม่ซ่อมก่อน น้ำอาจซึมผ่านรอยร้าวได้อยู่ดี
8. กันซึมดาดฟ้ามีกลิ่นแรงหรือไม่? ใช้ภายในบ้านได้ไหม?
กันซึมแบบอะคริลิกทั่วไปมีกลิ่นไม่แรง และใช้ภายในบ้านได้ แต่ควรเปิดหน้าต่างหรือใช้พัดลมช่วยระบายอากาศในช่วงใช้งาน เพื่อความปลอดภัย
9. พื้นต้องแห้งสนิทก่อนทากันซึมหรือไม่?
ใช่ครับ พื้นต้อง แห้งสนิทและไม่มีความชื้น เพราะถ้าทาบนพื้นเปียก ชั้นกันซึมจะไม่เกาะดี อาจลอกหรือเกิดฟองอากาศภายหลัง
10. ซื้อกันซึมดาดฟ้ากี่กระป๋องถึงจะพอ?
ขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่และจำนวนรอบที่ต้องทา โดยทั่วไป 1 กระป๋อง (ประมาณ 5 กก.) ทาได้ราว 10–12 ตร.ม. สำหรับการทา 2 รอบ แนะนำให้คำนวณพื้นที่ล่วงหน้าแล้วเผื่อไว้เล็กน้อย
บทส่งท้าย
กันซึมดาดฟ้า ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามในการดูแลบ้าน เพราะช่วยป้องกันปัญหาน้ำรั่วซึมที่อาจลุกลามจนเสียหายหนักในระยะยาว การเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ พร้อมการเตรียมพื้นผิวและลงมือทาอย่างถูกวิธี จะช่วยยืดอายุการใช้งานของบ้านให้คงทนแข็งแรงไปได้อีกหลายปี หากคุณกำลังมองหาวิธีดูแลบ้านจากปัญหาน้ำซึมที่ต้นตอ การลงทุนกับกันซึมดาดฟ้าถือเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและตอบโจทย์ระยะยาวที่สุดอย่างแท้จริง