สวัสดีค่ะ วันนี้จะมาพูดถึงเรื่องสุขภาพเส้นผมนะคะ ใครมีปัญหาเรื่องผมบ้างค่ะ ปัญหานี้มักกวนใจอยู่ตลอดเวลาใช่ไหมค่ะ เพราะคุณอาจเป็นคนที่ชอบทำสี ยืด ดัด เป็นประจำ โดยไม่เคยใช้ ทรีทเม้นท์ เลย ทำให้ผมแห้งเสีย
ยิ่งแย่กว่านั้นเคยเป็นไหมคะ ทำผมแล้วเกิดปัญหาผมช็อตเสีย โอ้ย เป็นอะไรที่ดูไม่จืดเลยว่าไหมค่ะ แน่นอนค่ะ ผมเสียขนาดนี้คงต้องใช้เวลาในการดูแล จะเข้าร้านเสริมสวยบ่อย ๆ ก็คงไม่ใด้นะคะ
เศรฐกิจ ข้าวของราคาแสนแพง ค่าเข้าร้านเสริมสวยก็เช่นกัน แล้วจะทำยังไงหละ? ที่จะเปลี่ยนผลเสีย ให้มีสภาพสลวย เงางาม มีน้ำหนัก และจัดทรงได้ง่าย การที่จะเปลี่ยนผมเสียให้มีน้ำหนัก สลวย สวยงามนั้น
ต้องใช้ตัวช่วยอย่าง ทรีทเม้นท์ จริงว่าคุณสระผมแล้วใช้แชมพู และครีมนวดผมเป็นประจำ แต่ก็ยังรู้สึกว่าสภาพเส้นผมยังไม่ดีพอ เพราะครีมนวดมีเนื้อบางเบาไม่สามารถปกปิดเกล็ดผมได้ แต่ปัญหาผมเสียจะหมดไป หากคุณใช้ทรีทเม้นท์
เพราะปัจจุบันทรีทเม้นท์ ได้ปรับปรุงสูตรให้ใช้งานได้ง่าย สะดวกมากยิ่งขึ้น ได้ออกแบบมาเพื่อคืนความชุ่มชื้น และบำรุงเส้นผม ช่วยให้ผมของคุณดูนุ่ม สลวย เป็นเงางาม อีกทั้งมีสูตรที่เหมาะแก่คนแพ้ง่าย
อย่าง ทรีทเม้นท์ ที่สกัดจากธรรมชาติ ที่มีโปรตีน อาหารผมที่ครบถ้วน ช่วยบำรุงเส้นผม ฟื้นฟูผมเสีย ให้นุ่มสลวย ไม่ชี้ฟู และขาดหลุดร่วงง่าย หมดปัญหาเรื่องหนังศีรษะมัน ถึงแม้ว่าเส้นผมจะเงางาม แต่เส้นผมไม่มันนะคะ
แล้ววันนี้ ตังค์ทอน จะมาแนะนำวิธีการเลือกทรีทเม้นท์ ให้เข้ากับสภาพเส้นผม รับรองว่าทำได้ง่านแสนง่าย ทำเองที่บ้านได้ บอกเลยว่าทุกบ้านควรต้องมี เพราะทรีทเม้นท์ จะตอบโจทย์เรื่องผลเสียได้ดีที่สุดค่ะ
10 อันดับ ที่คัดสรรมานี้ เป็นทรีทเม้นท์ ที่มีคุณภาพ และคนนิยมใช้กันเยอะรวมถึงร้านเสริมสวยด้วย บางทีของดีไม่จำเป็นต้องแพงเสมอไป ลองไปดูกันได้เลยค่ะ 10 อันดับ ทรีทเม้นท์ ยี่ห้อไหนดี ที่ตอบโจทย์เรื่องผมเสีย
10 อันดับ ทรีทเม้นท์ ยี่ห้อไหนดี ปี 2024 ช่วยฟื้นบำรุงผมแห้งเสีย ให้สุขภาพดีนุ่มสลวย
1. L’Oreal Professionnel NEW SERIE EXPERT ABSOLUT REPAIR MASQUE Resurfacing Mask
แบรนด์ : L’Oreal ปริมาณ : 250 มล.
L’Oreal Professionnel NEW SERIE EXPERT ABSOLUT REPAIR มาส์กเนื้อครีมสำหรับผมเสียมาก เนื้อครีมเหมาะสำหรับผมเส้นใหญ่ ช่วยฟื้นบำรุงผมแห้งเสียมาก ให้เส้นผมแลดูสุขภาพดี นุ่มสลวย
เงางามด้วยส่วนผสมอันทรงคุณค่าจากควินัว (QUINOA) และโปรตีน (PROTEIN) ที่ทำให้เส้นผมแลดูสุขภาพดี สารอาหารเข้าซ่อมแซมผมเสียได้อย่างตรงจุด เพื่อเส้นผมที่แข็งแรงจากภายในสู่ภายนอก
วิธีใช้ หลังสระผม เช็ดผมให้แห้งหมาด ชโลมมาส์กลงบนเส้นผม นวดให้ทั่ว ทิ้งไว้ 3-5 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำให้สะอาดเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด:แนะนำให้ใช้ “แอ็บโซลูท รีแพร์ มาส์ก” ควบคู่กับ “แอ็บโซลูท รีแพร์ แชมพู”
และ “แอ็บโซลูท รีแพร์ ลีฟ อิน เท็น อิน วัน ออยล์” เพื่อเป็นการฟื้นบำรุงผมแห้งเสีย เส้นผมแลดูสุขภาพดี นุ่มสลวย เงางาม ลอรีอัล โปรเฟสชั่นแนล ซีรี่ เอ็กซ์เปิร์ท แอ็บโซลูท รีแพร์ มาส์ก ตอบโจทย์ปัญหาเรื่องผมแน่นอนค่ะ
2. Cielo organic Hair Treatment
แบรนด์ : Cielo’rganic ปริมาณ : 190 ml
Cielo organic Hair Treatment เป็นทรีทเม้นท์ออร์แกนิค ที่มีคุณสมบัติอุดมไปด้วยวิตามินเอ อี ที่ช่วยให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหนังศีรษะ พร้อมการฟื้นฟูเส้นผมให้นุ่มสลวย และได้มาตรฐาน ECOCERT รับรอง
Cielo’rganic ประกอบด้วย 4 สารสกัดหลักจากธรรมชาต Argania Spinosa Kernel Oil (ช่วยฟื้นฟูเส้นผมและหนังศีรษะให้มีสุขภาพดี) Helianthus Annuus Seed Oil (ช่วยทำให้เส้นผมเงางาม บำรุงหนังศีรษะไม่แห้งกร้าน)
Olea Europaea (Olive) Jitlada Oilly (ช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระ ปกป้องหนังศีรษะและคืนความเงางามให้กับเส้นผม) Butyrospermum Parkii (Shea Butter) (เป็นสารให้ความชุ่มชื้น อุดมไปด้วยวิตามินเอ อี)
Cielo’rganic 1หลอด ใช้ได้นานกว่า 3 เดือน ใช้ปริมาณต่อครั้งน้อยมาก ล้างทำความสะอาดก็ง่าย กลิ่นหอมฟอลรัล หอมละมุน ผู้ดีมาก กลิ่นหอมเทียบเท่าน้ำหอมเค้าท์เตอร์แบรนด์ ต้องมีติดบ้านไว้สักหลอดแล้วค่ะ
3. แพนทีน โกลด์ โพส สไตล์ลิ่ง แฮร์ รีแพร์ มาสก์
แบรนด์ : Pantene ปริมาณ : 160 มล.
ใครกำลังมองหาทรีทเม้นท์ผมสูตรเข้มข้นเพื่อแก้ไขปัญหาผมเสียที่เกิดจากการจัดแต่งทรงผมอยู่ใช่หรือไม่? ขอแนะนำ แพนทีน โพสต์ สไตลิ่ง แฮร์ รีแพร์ มาส์ก ที่มีโปร-วิตามิน ผสมกับคอลลาเจนแท้
ช่วยฟื้นบำรุงผมเสียอย่างล้ำลึก ให้ผมมีสุขภาพดี เงางาม จัดทรงง่าย และเรียบลื่น การทำทรีทเม้นท์เพื่อให้ผมของคุณสามารถพักผ่อน รีเซ็ตความเสียหายจากการจัดแต่งทรงผม โดยใช้ร่วมกับแชมพูได้ดีที่สุด
แพนทีน โกลด์ โพส สไตล์ลิ่ง แฮร์ รีแพร์ มาสก์ ออกแบบมาเพื่อแก้ไขผมเสียที่เกิดจากการจัดแต่งทรงผม เป็นแบรนด์เดียวที่ได้รับการรับรองจากสถาบัน Swiss Vitamin และแนะนำให้ใช้สัปดาห์ละครั้ง
สำหรับผมเสียมาก และแห้งมาก ควรใช้ทุก ๆ 2-3 วัน จะช่วยให้สภาพผมเสียกลับมาเงางาม สลวย สวยเหมือนเดิม หรืออาจจะดีมากกว่าเดิมก็เป็นได้หากมีการใช้เป็นประจำ
4. BSC hair care Glossy Hair Treatment Wax
แบรนด์ : BSC ปริมาณ : 450 g.
BSC hair care Glossy Hair Treatment Wax ครีมทรีทเม้นท์สูตรเข้มข้น สามารถใช้เเทนครีมนวดได้ เหมาะสำหรับผมเเห้งเสียมาก ใครที่มีปัญหา ผมเเห้งเสีย เเตกปลาย ขาดความชุ่มชื้นสามารถใช้ทรีทเม้นท์ตัวนี้
เพื่อฟื้นฟูผมเเห้งเสียเห็นผลได้ตั้งเเต่ครั้งเเรกที่ใช้ ด้วยส่วนผสมของ Tsubaki Oil น้ำมันบำรุงเส้นผมโดยเฉพาะช่วยทำให้เส้นผมเงางาม ลดการพันกัน ทำให้เส้นผมทิ้งตัวสลวย Barley Protein ช่วยบำรุงให้เส้นผมมีความชุ่มชื่น
เนื้อครีมยังมีส่วนผสมของสารบำรุง Hya – Moist จากอนุพันธ์ไฮยาลูโลนิค เเอซิค มีคุณสมบัติเฉพาะทางที่สามารถกักเก็บความชุ่มชื่นได้ยาวนาน ทำให้เผมไม่หยาบกระด้างสัมผัสได้ถึงความนุ่มลื่นของเส้นผมได้ตั้งเเต่ทันทีที่เริ่มใช้
นวดให้ทั่วเส้นผมจากโคนจรดปลายผม หมักทิ้งไว้ประมาณ 2 นาที เเล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด ควรใช้สัปดาห์ 1-2 ครั้ง สำหรับสภาพผมที่เเห้งเสียมาก ๆ สามารถใช้เเทนครีมนวดที่ใช้อยู่ประจำ มีเลข อย 11-1-6400004472
5. วัตสัน ทรีทเม้นท์ แวกซ์ อะโวคาโด ฟอร์ ดราย ออร์ ดัล แฮร์
แบรนด์ : Watsons ปริมาณ : 500 มล.
วัตสัน ทรีทเม้นท์ แวกซ์ อะโวคาโด ฟอร์ ดราย ออร์ ดัล แฮร์ ครีมหมักผมสูตรเข้มข้น สูตรใหม่เพิ่มเคราติน สำหรับผมแห้ง และหยาบกระด้าง ไม่มีส่วนผสมของ Paraben, Mineral Oil, SLES, SLS, MI/MIT
และ Alcohol ที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง ผสานคุณค่าสุดยอดวิตามินบำรุงเส้นผมจากไบโอติน พร้อมด้วยอาหารบำรุงผมจากน้ำมันอะโวคาโด, น้ำมันมะกอก และวิตามิน อี ช่วยฟื้นบำรุงหนังศีรษะ และเส้นผม ให้ผมสวย นุ่มลื่น เงางาม จัดทรงง่าย แลดูมีสุขภาพดี
6. Green bio Super Treatment Cream
แบรนด์ : Green Bio ปริมาณ : 30 มล. จำนวน 24 ซอง
กรีนไบโอ ซุปเปอร์ ทรีทเม้นท์ ครีม Green bio Super Treatment Cream “ซองสีน้ำเงิน” ยกกล่อง ขนาดซอง ปริมาณ 30 มล. จำนวน 24 ซอง ใช้สำหรับหมักผม แทนครีมนวดผม ผมนุ่มสลวยเงางาม มีน้ำหนัก
เหมาะแก่คนที่มีสภาพผมแห้งเสีย ผมแตกปลาย ผมพันกัน และผมช็อต ปัญหาผมที่กังวลเหล่านี้จะหมดไปแค่ใช้ Green bio Super Treatment Cream คุ้มค่า เข้มข้น กลิ่นหอม ผสานคุณค่าจากเคราติน
สารสกัดจากไหม และน้ำมันดอกทานตะวัน กรีนไบโอ ซุปเปอร์ ทรีทเม้นท์ ครีม ปกป้องเส้นผมจากแสง UV ปกป้องเส้นผมจากความร้อน ป้องกันเส้นผมแตกปลาย ช่วยให้เส้นผมมีน้ำหนัก ช่วยให้เส้นผมเป็นประกายเงางาม
7. โลแลน อินเทนซ์ แคร์ เคราติน รีแพร์ & ไฮยาลูรอน มาส์ก
แบรนด์ : โลแลน ปริมาณ : 200 มล.
โลแลน อินเทนซ์ แคร์ เคราติน รีแพร์ & ไฮยาลูรอน มาส์ก ล่าสุดจากโลแลน อินเทนซ์ แคร์ ผสานคุณค่า 4 สารบำรุงเพื่อผมนุ่ม ชุ่มชื่น และแข็งแรง ไฮยาลูรอนิค แอซิด ช่วยให้เส้นผมอิ่มน้ำ มีน้ำหนัก เงางาม ช่วยกักเก็บความชุ่มชื่นในเส้นผม
โปร-เคราติน อีเอ็กซ์ ที่มีเคราตินโปรตีนช่วยบำรุงลึกถึงผมชั้นใน ให้เส้นผมแข็งแรง วิตามินอี กักเก็บความชุ่มชื่นให้เส้นผม โปรวิตามินบี5 ช่วยให้เกล็ดผมปิดเรียบเงางาม เหมาะกับเส้นผมที่แห้งเสียจากการทำเคมี
กักเก็บความชุ่มชื่น ให้เส้นผมอิ่มน้ำได้ถึง 1,000 เท่า (เทียบเท่าน้ำ 1 ลิตร) ทรีทเม้นท์สำหรับลดปัญหาสุขภาพของเส้นผม เพื่อการฟื้นบำรุงโครงสร้าง ผมเสียทุกประเภท ให้กลับมาแข็งแรงได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยเร็ว
8. Goat Milk Premium Keratin
แบรนด์ : Goat Milk ปริมาณ : 500g.
Goatmilk premium keratin พรีเมียมเคราติน สูตรนมแพะ เคราติน นำเข้าจากออสเตรเลีย สารสกัดธรรมชาติ ไม่มีซิลิโคน ผิวแพ้ง่ายใช้ได้ ช่วยเรื่องอะไรบ้าง? ปกป้องและฟื้นฟูสภาพเส้นผม ป้องกันปัญหารังแค
บำรุงรากผม ช่วยสร้างความนุ่มนวล ชุ่มชื่น ช่วยให้ผมดกขึ้น และเงางาม ช่วยให้ผมมีน้ำหนักจัดทรงง่าย ช่วยให้ผมนุ่มลื่นสวยทั้งวัน ลดการขาด หลุดร่วง คืนความชุ่มชื้นให้เส้นผม ช่วยให้ความชุ่มชื้นสูงต่อเนื่อง และยาวนาน อย่างต่ำ 72ชม.
วิธีใช้ ชโลมเคราตินให้ทั่วเส้นผมหลังการใช้ แชมพู หมักและนวดทิ้งไว้ 3-5 นาทีจากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด ใช้ได้ทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่อายุ 10 ปีขึ้นไป ไม่มีสารอันตราย เลขจดแจ้ง 5016400025399
เคราตินนมแพะตัวดัง คือประทับใจมาก ผมเงางาม ดูมีน้ำหนัก ไม่แห้งเสียชี้ฟู ผมพริ้วสวย เนื้อเคราตินเข้มข้น กลิ่นหอมมาก หวานละมุน หมักทิ้งไว้ 3 นาที หลังใช้ผมนิ่ม กลิ่นหอมติดผมด้วย ดีมาก
9. แคริ่ง ทรีทเม้นท์ สูตร AHA
แบรนด์ : Caring ปริมาณ : 250 มล.
แคริ่ง ทรีทเม้นท์ สูตร AHA สำหรับผมเสียที่ผ่านการทำสี ยืด ดัด, ทรีทเม้นท์บำรุงเส้นผมสูตรเข้มข้นพิเศษ ด้วยส่วนผสมของคอลลาเจน และสารสกัดจากผลไม้ Fruity Acid ที่จะซึมซาบสู่เส้นผม
บำรุงให้ผมนุ่มสลวยแข็งแรง มีน้ำหนัก พร้อมปรับสภาพเส้นผมไม่ให้พองฟูหลังการสระไดร์ วิธีการใช้งาน หลังสระผมทุกครั้ง ชโลมด้วย แคริ่ง นวดให้ทั่วศีรษะตั้งแต่โคนจรดปลาย ทิ้งไว้ประมาณ 3-5 นาที แล้วล้างออกให้สะอาด
ส่วนประกอบ Aqua,Cetearyl Alcohol,Stearyl Alcohol,Isopropyl Myristate,Cetyl Alcohol,Mineral Oil,Anaas Sativus (Pineapple) Fruit Extract,Vitis Vinifera (Grape) เลขที่ใบรับแจ้ง 10-1-5202180
10. H2O Treatment
แบรนด์ : Balen H2O+ ปริมาณ : 800 ml. x 3
เอชทูโอ ทรีทเม้นท์ ผลิตภัณฑ์บำรุง และฟื้นฟูผมแห้งเสีย และปรับสมดุลก่อนหลังการทำสารเคมี เอชทูโอ ทรีทเม้นท์ มีส่วนผสมของเม็ดคาร์บอน และเนื้อครีมบริสุทธิ์ ที่ช่วยปรับสภาพเส้นผมให้มีความแข็งแรง
ทำให้เส้นผมยืดหยุ่นมีสปริง และช่วยฟิ้นฟูผมที่เสียไร้น้ำหนักให้กลับมาชุ่มชื้นมีชีวิตชีวามีน้ำหนักประกายเงางาม และจัดทรงง่าย หมดห่วงเรื่องผมเสีย และชะล้างสารเคมี ที่ตกค้างที่หนังศีรษะ และเส้นผมจากการทำสี ดัด ยืด
การใช้ทรีทเม้นท์ควรทำความสะอาดเส้นผม ด้วยแชมพู หลังสระผมให้ชโลมทรีทเม้นท์ ลงบนเส้นผมให้ทั่ว นวดทิ้งเบา ๆ ไว้ 3-5นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด หากมีการ ทำสี ยืด ดัด สามารถใช้อบไอน้ำเพื่อบำรุงเส้นผม
เมื่อใช้ เอชทูโอ ทรีทเม้นท์ เห็นผลตั้งแต่ ครั้งแรกที่ใช้ รู้สึกได้ว่า ผมนิ่มขึ้น นุ่ม เงางาม จัดทรงง่ายขึ้น แล้วเอชทูโอ ทรีทเม้นท์ ปรับสมดุลเส้นผม ก่อน-หลัง ทำเคมี ทำให้ผมไม่เสีย ใบรับแจ้งเลขที่ 10-2-5624125
วิธีการเลือกทรีทเม้นท์ ต้องพิจารณาปัจจัยใดบ้าง?
1. เลือกจากประเภทของเส้นผม
สภาพผมของแต่ละคนเรียกได้ว่ามีความต่างกันทุกคน บางคนผมเส้นเล็กบาง บ้างก็ผมหนาเส้นใหญ่ ดังนั้นการเลือก ทรีทเม้นท์ ผมให้ได้ประสิทธิภาพแก่ตัวคุณเองมากยิ่งขึ้น สามารถเลือกสูตรที่บำรุงเส้นผมแต่ละประเภทโดยเฉพาะ เช่น
ผมแห้งเสีย ควรเลือกทรีทเม้นท์ที่มีส่วนผสม ที่เป็นน้ำมันบำรุงผมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันมะพร้าว โจโจ้บาออยล์ น้ำมันมะกอกหรือน้ำมันอาร์แกนก็จะช่วยให้ผมดูชุ่มชื้นมากขึ้นค่ะ
ผมขาดหลุดร่วง ควรเลือกส่วนผสมที่มีกรดไฮยาลูรอนิกหรือสาร Lipidure ส่วนผสมเหล่านี้มักจะมีอยู่ในแชมพูรักษาผมร่วง เพราะสารเหล่านี้จะช่วยลดผมขาดหลุดร่วงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ผมแตกปลาย ควรเลือกทรีทเม้นท์ที่มีส่วนผสมของเคราตินเข้มข้น เพราะเคราตินจะช่วยให้ผมกลับมาแข็งแรงมากขึ้นนั่นเอง
ผมหรือหนังศีรษะแพ้ง่าย ควรเลือกทรีทเม้นท์ที่ไม่มีส่วนผสมของซิลิโคน เพราะอาจจะทำให้เกิดอาการแพ้ได้ง่าย ควรเลือก ทรีทเม้นท์ ที่ทำจากสารสกัดธรรมชาติ
2. ทรีทเม้นท์ แบบต่างๆ
การทำทรีทเม้นท์ผมสามารถแบ่งได้เป็นหลายวิธี มีทั้งแบบให้บริการที่ร้านทำผมทั่วไป หรือจะประยุกต์ทำเองที่บ้านก็ได้
2.1 การทำเคราตินทรีทเม้นท์
การทำเคราตินทรีทเม้นท์ (Keratin treatment) เป็นการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเคราติน ซึ่งเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่มีอยู่ในเส้นผมธรรมชาติอยู่แล้ว ร่วมกับสารเคมีชนิดอื่นๆ เช่น ฟอร์มาดิไฮด์ (Formaldehyde)
ผู้ให้บริการอาจทำการสระผมเพื่อทำความสะอาดก่อน จากนั้นจะลงผลิตภัณฑ์เคราตินทรีทเม้นท์ทิ้งไว้บนผมประมาณ 30 นาทีแล้วจึงล้างออก
ประโยชน์ของการทำเคราตินทรีทเม้นท์ อาจมีดังนี้
- ช่วยให้เส้นผมดูเรียบเนียนขึ้น
- ช่วยให้ผมแข็งแรงขึ้น
- ช่วยให้ผมแลดูหนาขึ้น
- ช่วยให้ผมดูตรงขึ้น มันวาวดูสุขภาพดี
- ช่วยให้ผมจัดทรงง่ายขึ้น
2.2 การหมักผมด้วยน้ำมัน
การหมักผมด้วยน้ำมัน (Hot oil treatment) เป็นการลงผลิตภัณฑ์ที่มีสารสกัดน้ำมันจากพืชชนิดต่างๆ เพื่อปกป้องและฟื้นบำรุงเส้นผม เหมาะสำหรับผู้ที่มีผมแห้ง ผมแตกปลาย
สารสกัดน้ำมันจากพืชที่นิยม เช่น น้ำมันมะพร้าว น้ำมันมะกอก น้ำมันอัลมอนด์
ผู้ให้บริการอาจชโลมผลิตภัณฑ์น้ำมันสกัดทิ้งไว้บนเส้นผม แล้วคลุมด้วยหมวกคลุมอาบน้ำหรือผ้าขนหนูอุ่นๆ เป็นเวลา 20 นาทีก่อนจะล้างออก
ประโยชน์ของการหมักผมด้วยน้ำมัน อาจมีดังนี้
- ช่วยให้เส้นผมตรงมีน้ำหนักขึ้น
- ช่วยให้ผมและหนังศีรษะชุ่มชื้น ไม่ชี้ฟู
- ช่วยลดรังแคบนหนังศีรษะ
- ช่วยลดผมแตกปลาย
- การดูแลผม
การสระผมควรทำให้ถูกวิธี สาว ๆ ไม่ควรสระบ่อยเกินไปเพราะจะทำให้ผมแห้ง ควรสระ 2 วันครั้งและเลือกแชมพูที่อ่อนโยนต่อหนังศีรษะ
อย่าให้ผมโดนความร้อนบ่อย เช่น การหนีบผม เป่าผม ดัดผม จะทำให้ผมยิ่งแห้งเสียหงิกงอ แม้กระทั่งแสงแดดก็ด้วย ถ้าเลี่ยงได้ก็เลี่ยงเถอะค่ะเพื่อสุขภาพผมที่ดี หรือหากว่าใครที่จำเป็นต้องทำผมด้วยความร้อน
ควรหา น้ำมันใส่ผม มาใช้ก่อนและหลังทำผมก็ถือว่าจะช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้แก่เส้นผมได้อย่างดี ไม่ทำสีผมบ่อย ๆ สารเคมีเป็นตัวการทำร้ายผมที่รุนแรงสุด ๆ เพราะฉะนั้นถ้าอยากมีผมนุ่มสลวยก็ควรหลีกเลี่ยงสารเคมี
ซึ่งหากใครที่อยากทำสีผมจริง ๆ ควรเลือก น้ำยาย้อมผมที่ไม่มีแอมโมเนีย แทนแบบปกติก็จะช่วยให้เส้นแห้งเสียน้อยลง หมักผม การหมักผมก็เปรียบเสมือนการมาส์กบำรุงผิวหน้า ซึ่งคุณก็อาจจะเลือกใช้น้ำมันธรรมชาติ
เช่น น้ำมันมะพร้าว ในการหมักผมเป็นประจำ อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง ทำทรีทเม้นท์ผม การทำทรีทเม้นท์สามารถช่วยรักษาผมที่แห้งแตกปลายได้ โดยควรทำอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง ซึ่งถือว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุด
เพราะบำรุงได้แบบล้ำลึก จะทำให้เส้นผมชุ่มชื้นและมีน้ำหนักขึ้นได้อย่างน่ามหัศจรรย์มากเลย ซึ่งทรีทเม้นท์ก็มีหลากหลายสูตร ใช้แล้วเห็นผลต่างกันออกไป ถ้าควรเลือกสูตรที่ตรงกับสภาพเส้นผมของคุณ
สรุป
เป็นอย่างไรกันบ้างค่ะ กับบทความที่นำมาฝากเพื่อน ๆ เกี่ยวกับปัญหาสภาพเส้นผม ผมเสียควรแก้ให้ตรงจุด สิ่งแรกควรรู้ว่าสภาพเส้นผมของเราเป็นแบบไหน จากนั้นหา ทรีทเม้นท์ ที่ตอบโจทย์กับสภาพเส้นผม
ส่วนใหญ่ปัญหาเส้นผมของแต่ละคนจะแตกต่างกันเนื่องจาก กรรมพันธุ์ อาหารการกิน และไลฟ์สไตล์ ดังนั้นหากคุณรู้สึกว่าจับผมตัวเอง แล้วสากมือควรเลือก ทรีทเม้นท์บำรุงผมที่มีส่วนผสมของน้ำมะพร้าวหรือน้ำมันมะกอก
เพื่อช่วยบำรุงเส้นผมให้กลับมานุ่มสลวยอีกครั้ง แต่ถ้าหากว่าคุณหวีผมแล้วมีผมขาดร่วงเป็นจำนวนมากควรใช้ ทรีทเม้นท์ สูตรที่บำรุงรากผมให้แข็งแรงควบคู่กับการทาน วิตามินบำรุงเส้นผม จะช่วยลดปัญหาเส้นผมขาดหลุดร่วงได้ดียิ่งขึ้น
แต่ทั้งนี้ก็ยังมีปัญหาเส้นผมอีกมากมายเช่น ผมชี้ฟู ผมรีบแบน ผมมันเป็นรังแค ดังนั้นควรเลือกสูตรที่ระบุตรงกับปัญหาเส้นผมของคุณจะดีที่สุด อย่าใก็ขอให้เจอทรีทเม้นท์ที่ใช่ ใช้แล้วดี ผมสวยกันทุกคนนะคะ
