ในยุคที่สมาร์ตโฟนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน การเลือกมือถือที่ตอบโจทย์การใช้งานโดยไม่กระทบกระเป๋าสตางค์จึงเป็นสิ่งสำคัญ ปัจจุบัน มือถือราคาไม่เกิน 10000 บาท มีให้เลือกหลากหลายรุ่น ทั้งแบรนด์ดังและแบรนด์น้องใหม่ ที่มาพร้อมฟีเจอร์ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นกล้องสวย แบตอึด จอใหญ่ หรือรองรับการใช้งานทั่วไปได้ลื่นไหล
ในบทความนี้ ตังค์ทอน ได้รวบรวม มือถือราคาไม่เกิน 10000 บาท ที่คุ้มค่าที่สุดในช่วงราคานี้มาแนะนำ พร้อมทั้งเราก็มีวิธีการเลือกซื้ออย่างละเอียดมาฝากด้วย เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกซื้อได้ง่ายขึ้น
วิธีเลือกซื้อมือถือราคาไม่เกิน 10000 บาท ฉบับเข้าใจง่าย
แม้งบจะไม่เกิน 10,000 บาท แต่การเลือกซื้อมือถือให้คุ้มค่าและตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันก็ยังทำได้ไม่ยาก หากเรารู้ว่าควรพิจารณาอะไรบ้างก่อนตัดสินใจซื้อ ในบทความนี้เราจะพาไปดูวิธีเลือกซื้อมือถือแบบเข้าใจง่าย สำหรับผู้เริ่มต้นหรือคนที่ไม่เคยซื้อโทรศัพท์เองมาก่อนก็อ่านได้สบาย ๆ
1. กำหนดการใช้งานของตัวเองให้ชัดเจน
ก่อนจะดูสเปกหรือเลือกแบรนด์ สิ่งแรกที่ต้องทำคือ “ถามตัวเองว่าใช้มือถือทำอะไรบ้าง” เพราะมือถือที่เหมาะสำหรับแต่ละคนไม่เหมือนกัน
- ใช้งานทั่วไป : เช่น โทรศัพท์ เล่น LINE ดู YouTube เล่น Facebook รุ่นระดับเริ่มต้นที่มี RAM 4GB ก็เพียงพอ
- ถ่ายรูปบ่อย : ให้เน้นกล้องที่มีความละเอียดสูง (12MP ขึ้นไป) และมีระบบ AI ปรับภาพอัตโนมัติ
- เล่นเกม : ควรเลือกมือถือที่มี RAM 6GB และชิปประมวลผลระดับกลางขึ้นไป เช่น Helio G85, Snapdragon 680
- เน้นแบตอึด ใช้ได้นาน : ให้ดูมือถือที่มีแบตเตอรี่ 5,000 mAh ขึ้นไป และมีระบบชาร์จไว
2. เลือกขนาดหน้าจอและความละเอียดให้เหมาะกับการใช้งาน
หน้าจอมีผลต่อการใช้งานทั้งด้านความสะดวกและสายตา
- ขนาดหน้าจอ : หน้าจอ 6.5 นิ้วเป็นขนาดที่ได้รับความนิยม เพราะใหญ่พอดี เห็นชัด เล่นโซเชียลหรือดูวิดีโอได้เต็มตา
- ประเภทจอ : จอ IPS LCD เป็นมาตรฐานที่เพียงพอในงบนี้ ส่วนบางรุ่นอาจมีจอ AMOLED ให้สีสดใสกว่า ซึ่งเหมาะกับคนที่ดูวิดีโอบ่อย
- ความละเอียด : แนะนำอย่างน้อย HD+ หรือ Full HD+ เพื่อให้ภาพคมชัดและไม่ปวดตา
3. พิจารณาเรื่องประสิทธิภาพ: ชิปเซต, RAM และพื้นที่เก็บข้อมูล
- ชิปประมวลผล (CPU) : ในช่วงราคานี้ ชิปยอดนิยมที่คุ้มค่าคือ MediaTek Helio G series และ Qualcomm Snapdragon 600 series ซึ่งให้ความแรงระดับกลาง เล่นโซเชียลหรือเกมเบา ๆ ได้
- RAM (หน่วยความจำชั่วคราว) : เลือกอย่างน้อย 4GB เพื่อให้เปิดแอปได้ลื่นไหล แต่หากเล่นเกมหรือเปิดหลายแอปพร้อมกัน ควรเลือก 6GB
- พื้นที่เก็บข้อมูล (ROM) : อย่างน้อยควรมี 64GB เพื่อให้ติดตั้งแอปและถ่ายรูปได้เยอะ หากเลือก 128GB ได้จะดีที่สุด เพราะมือถือบางรุ่นไม่รองรับ microSD card เพิ่ม
4. กล้องถ่ายรูป : อย่าดูแค่ตัวเลข
แม้มือถือในงบนี้จะไม่เท่ารุ่นเรือธง แต่ก็มีหลายรุ่นที่ถ่ายภาพสวยได้ในระดับน่าพอใจ
- กล้องหลัง : ควรเลือกกล้องที่มีอย่างน้อย 13MP ขึ้นไป พร้อมระบบ AI หรือ Night Mode
- กล้องหน้า : สำหรับคนที่ชอบเซลฟี่ ให้ดูรุ่นที่มี กล้องหน้า 8MP ขึ้นไป และมีโหมดบิวตี้ (Beauty Mode)
- เคล็ดลับ : อ่านรีวิวภาพถ่ายจริงจากผู้ใช้งาน หรือดูตัวอย่างภาพในรีวิววิดีโอ จะช่วยให้เห็นคุณภาพที่แท้จริง
5. แบตเตอรี่และระบบชาร์จ
ขนาดแบตเตอรี่: ควรเลือกอย่างน้อย 5,000 mAh เพื่อให้ใช้งานได้ทั้งวันโดยไม่ต้องชาร์จบ่อย
- รองรับชาร์จไว (Fast Charging) : จะช่วยให้ไม่ต้องรอนานเมื่อต้องชาร์จ เช่น 18W หรือ 33W
- พอร์ตชาร์จ : แนะนำให้เลือกแบบ USB-C เพราะรองรับการชาร์จและโอนข้อมูลเร็วกว่า Micro USB
6. ระบบปฏิบัติการและการอัปเดต
- Android เวอร์ชันใหม่ : พยายามเลือกมือถือที่ใช้ Android 12 หรือใหม่กว่า เพื่อความปลอดภัยและฟีเจอร์ทันสมัย
- แบรนด์ที่มีการอัปเดตสม่ำเสมอ : เช่น Xiaomi, Samsung, realme บางรุ่นได้รับอัปเดตนาน 1-2 ปี
ไม่แนะนำมือถือที่ใช้ Android Go เวอร์ชันเบา หากคุณต้องการเปิดหลายแอปพร้อมกันหรือเล่นเกม
7. ความทนทานและคุณภาพประกอบ
แม้จะอยู่ในช่วงราคาประหยัด แต่ความแข็งแรงก็สำคัญ
- วัสดุตัวเครื่อง : ส่วนมากในงบนี้จะเป็นพลาสติก แต่ควรจับถือแล้วรู้สึกแน่น ไม่ก๊องแก๊ง
- กันน้ำกันฝุ่น : อาจไม่มีคุณสมบัติ IP อย่างชัดเจน แต่บางรุ่นก็มีซีลป้องกันละอองน้ำเบื้องต้น
- มีเคสและฟิล์มติดมาให้หรือไม่ : บางแบรนด์แถมมาให้ในกล่อง ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย
8. พิจารณาการรับประกันและบริการหลังการขาย
- ควรซื้อจากร้านที่น่าเชื่อถือ เช่น ร้านแบรนด์โดยตรง ห้างใหญ่ หรือร้านออนไลน์ที่มีรีวิวดี
- รับประกันศูนย์ 1 ปี เป็นมาตรฐาน หากมีปัญหาสามารถส่งซ่อมหรือเปลี่ยนได้
- เช็กศูนย์บริการใกล้บ้าน ของแบรนด์นั้น ๆ ว่ามีหรือไม่ เพื่อความสะดวกในอนาคต
สรุป : มือถือไม่เกิน 10000 บาท เลือกให้ดี ใช้ได้นาน
แม้งบจำกัดแต่หากรู้วิธีเลือก มือถือราคาต่ำกว่าหมื่นก็ให้ประสบการณ์ใช้งานที่ดีได้ไม่แพ้รุ่นแพง ๆ สำคัญคือต้องเลือกให้ตรงกับไลฟ์สไตล์ของคุณ ไม่จำเป็นต้องตามสเปกสูงสุดในงบ แต่ควรเลือกให้ “เพียงพอ” และ “คุ้มค่า” กับการใช้งานจริงในแต่ละวัน
10 อันดับ มือถือไม่เกิน 10000 บาท ปี 2025 ดีไซน์สวย สเปกแรง คุ้มค่า เล่นเกมลื่น ราคาไม่แพง
ต่อไปนี้จะเป็น มือถือราคาไม่เกิน 10000 บาท ทั้ง 10 รุ่น ที่เราได้คัดสรรมาแล้วว่า มีคุณภาพดี สเปกแรง และกำลังได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้ สามารถดูจากรีวิวด้านล่างได้เลยครับ
1. สมาร์ทโฟน OPPO A5 Pro
ราคาเริ่มต้น 7,999 บาท
สมาร์ทโฟนดีไซน์พรีเมียม พร้อมแบตฯ อึดและชิปแรง ในราคาคุ้มค่า
OPPO A5 Pro 5G ราคาเริ่มต้นเพียง 7,999 บาท มาพร้อมดีไซน์สวยหรูที่ดูพรีเมียมเกินราคา โดดเด่นด้วยหน้าจอคมชัดและตัวเครื่องที่ทนทานต่อน้ำและฝุ่น ใช้งานได้อุ่นใจในชีวิตประจำวัน ขับเคลื่อนด้วยชิป MediaTek Dimensity 6300 ที่ให้ประสิทธิภาพลื่นไหล ไม่ว่าจะใช้งานทั่วไปหรือเล่นเกมเบา ๆ ก็สบาย
จุดเด่นอีกอย่างคือ แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 5800mAh ใช้งานได้ตลอดวันโดยไม่ต้องกังวลเรื่องชาร์จบ่อย นอกจากนี้ยังรองรับการเชื่อมต่อ 5G และมีกล้องอัจฉริยะที่ถ่ายภาพออกมาคมชัด สีสวยสมจริง เหมาะกับทั้งสายโซเชียลและคนที่ชอบถ่ายรูป หากคุณกำลังมองหาสมาร์ทโฟนที่คุ้มค่า ใช้งานได้รอบด้าน รุ่นนี้คือหนึ่งในตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม
2. Vivo Y39
ราคาเริ่มต้น 7,999 บาท
แบตฯ อึด 6500mAh พร้อมกล้อง 50MP และดีไซน์หรูหราในราคาคุ้มเกินต้าน
Vivo Y39 สมาร์ทโฟน 5G ราคาเริ่มต้นเพียง 7,999 บาท มาพร้อมดีไซน์บางเบาหรูหราด้วยแหวนกล้องเคลือบเซรามิกที่ดูพรีเมียมเหนือระดับ จอใหญ่ 6.68 นิ้ว เหมาะสำหรับดูหนัง เล่นเกม หรือใช้งานโซเชียลได้แบบเต็มตา โครงสร้างแข็งแรง ให้สัมผัสที่มั่นใจในทุกวัน
จุดเด่นคือแบตเตอรี่ความจุสูงถึง 6500mAh ใช้งานได้ทั้งวันแบบไม่ต้องพึ่งพาวเวอร์แบงก์ พร้อมกล้องหลัง ความละเอียด 50MP ที่ถ่ายภาพได้สวย คมชัดทุกช็อต ฟีเจอร์ AI อัจฉริยะช่วยปรับภาพให้ดูดีแม้ในมือมือใหม่ เหมาะกับผู้ที่มองหามือถือสเปกครบ ดีไซน์ดี ใช้งานได้คุ้มค่าทุกบาท
3. Samsung Galaxy A06
ราคาเริ่มต้น 4,999 บาท
มือถือ 5G สเปกครบ จอใหญ่ แบตอึด กล้องชัด ในราคาสบายกระเป๋า
Samsung Galaxy A06 ราคาเริ่มต้นเพียง 4,999 บาท เป็นสมาร์ทโฟนสุดคุ้มที่ให้คุณสัมผัสประสบการณ์การใช้งานที่ลื่นไหลในงบเบา ๆ มาพร้อมหน้าจอใหญ่ขนาด 6.7 นิ้ว ดูหนังหรือเล่นเกมได้เต็มตา ดีไซน์เรียบหรู พกพาง่าย ใช้งานได้ทุกวันไม่มีเบื่อ และยังรองรับ 5G เพื่อการเชื่อมต่อที่รวดเร็วทันใจ ไม่สะดุดแม้ใช้งานหลายแอปพร้อมกัน
ด้านกล้องก็ไม่ธรรมดา ด้วยกล้องหลัก ความละเอียดสูง 50MP ถ่ายภาพได้ชัดเป๊ะทุกช็อต จะถ่ายวิวหรือถ่ายคนก็สวยคมชัด พร้อมแบตเตอรี่ 5,000mAh ที่ใช้งานได้ยาวนานทั้งวันโดยไม่ต้องชาร์จบ่อย ถือเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับนักเรียน นักศึกษา หรือใครที่ต้องการมือถือดี ๆ ราคาจับต้องได้
4. Vivo Y28
ราคาเริ่มต้น 5,499 บาท
จอบาง เบา แบตอึด 6000mAh พร้อมกล้องชัด 50MP ใช้งานลื่นทุกแอป
Vivo Y28 ราคาเริ่มต้นเพียง 5,499 บาท เป็นสมาร์ทโฟนที่เน้นความลื่นไหลในการใช้งาน ไม่ว่าจะเปิดหลายแอปพร้อมกันหรือสลับไปมาระหว่างแอปก็ทำได้อย่างราบรื่น ด้วยระบบปฏิบัติการ Android 14 ที่ทันสมัยและเสถียร หน้าจอใหญ่ 6.68 นิ้ว ให้ภาพสวยเต็มตา ขอบจอบาง น้ำหนักเบา จับถนัดมือ และดีไซน์เรียบหรูที่ดูดีในทุกมุม
โดดเด่นด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 6,000mAh ใช้งานได้ยาวนานตลอดวัน เหมาะกับคนที่ต้องใช้โทรศัพท์ทั้งวันโดยไม่อยากชาร์จบ่อย กล้องหลัง ความละเอียด 50MP ถ่ายภาพได้คมชัด สีสันสมจริง จะถ่ายวิวหรือถ่ายคนก็สวยสบายมือ รุ่นนี้จึงเหมาะกับทั้งนักเรียน นักศึกษา หรือใครที่มองหามือถือที่สเปกครบ ใช้งานง่าย และราคาสบายกระเป๋า
5. Xiaomi Redmi Note 14
ราคาเริ่มต้น 7,499 บาท
กล้อง 108MP พร้อม OIS ถ่ายนิ่ง คมชัดทุกช็อต ในราคาคุ้มค่าเกินสเปก
Xiaomi Redmi Note 14 ราคาเริ่มต้นเพียง 7,499 บาท คือสมาร์ทโฟนที่ออกแบบมาสำหรับสายถ่ายภาพโดยเฉพาะ มาพร้อมกล้องหลัก ความละเอียด 108MP ที่เก็บรายละเอียดได้ครบทุกเม็ด พร้อมระบบกันสั่น OIS ช่วยให้ภาพนิ่งและคมชัดแม้ในขณะเคลื่อนไหว เหมาะสำหรับการถ่ายรูปขณะเดินทาง ถ่ายวิดีโอ หรือเก็บโมเมนต์ประทับใจแบบมืออาชีพ
จอใหญ่ 6.67 นิ้ว ให้ภาพเต็มตา ใช้ดูหนัง เล่นเกม หรือใช้งานโซเชียลได้อย่างจุใจ พร้อมแบตเตอรี่ 5,110mAh ที่เพียงพอต่อการใช้งานทั้งวันโดยไม่ต้องชาร์จระหว่างวัน รองรับ 5G สำหรับการเชื่อมต่อที่เร็วแรง และมาพร้อม Android 14 ที่ลื่นไหลทันสมัย รุ่นนี้เหมาะมากสำหรับคนที่ชอบถ่ายรูป และต้องการมือถือสเปกครบในราคาที่เอื้อมถึง
6. Infinix Note 40 Pro+
ราคาเริ่มต้น 11,999 บาท
จอใหญ่สะใจ เล่นเกมลื่นไหล แบตอึด กล้องเทพ ครบจบในเครื่องเดียว
ใครที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟน 5G ที่ตอบโจทย์ทั้งสายเกมและคอนเทนต์ต้องห้ามพลาด Infinix Note 40 Pro+! ด้วยหน้าจอขนาด 6.78 นิ้ว มอบประสบการณ์การรับชมที่เต็มตา สีสันสดใส เล่นเกมก็ไหลลื่นไม่มีสะดุด แถมแบตเตอรี่ขนาด 4,600 mAh ยังใช้งานได้ยาวนานตลอดวัน ไม่ต้องกังวลเรื่องแบตหมดระหว่างวันอีกต่อไป
เท่านั้นยังไม่พอ กล้องหลังความละเอียด 108MP ยังให้ภาพถ่ายที่คมชัด เก็บทุกรายละเอียดได้อย่างน่าประทับใจ ในราคาเริ่มต้นเพียง 11,999 บาท ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่คุ้มค่าและน่าจับจองเป็นเจ้าของสุด ๆ
7. TCL Stylus
ราคาเริ่มต้น 7,690 บาท
จอใหญ่คมชัด กล้อง AI สุดล้ำ แบตอึด รองรับ 5G ครบเครื่องเรื่องสร้างสรรค์
ใครที่ชอบขีดเขียน วาดภาพ หรือต้องการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ต้องถูกใจ TCL Stylus แน่นอน! เพียงแค่หยิบปากกา Stylus ก็พร้อมจดโน้ต วาดไอเดีย หรือสร้างสรรค์ GIF สนุก ๆ ได้ทันที บนจอแสดงผล 6.81″ FHD+ NXTVISION ที่ให้ภาพคมชัด สีสันสดใสเต็มตา
นอกจากนี้ ระบบกล้อง AI ยังช่วยให้การถ่ายภาพสวยงามเป็นเรื่องง่าย พร้อมหน่วยความจำ ROM 256GB และรองรับ microSD สูงสุด 1TB เก็บทุกไฟล์สำคัญได้จุใจ แบตเตอรี่ 4000mAh พร้อมชาร์จไว 18W ก็พร้อมลุยไปกับคุณได้ทั้งวัน ในราคาเริ่มต้นเพียง 7,690 บาท คุ้มค่าเกินราคาจริง ๆ ครับ
8. Infinix Hot 50Pro+
ราคาเริ่มต้น 6,499 บาท
สเปคคุ้มค่า เล่นเกมลื่น แบตอึดทนทาน ในราคาเบา ๆ สบายกระเป๋า
หากคุณกำลังมองหาสมาร์ทโฟนราคาสุดคุ้มค่า แต่ยังได้จอใหญ่เต็มตาถึง 6.7 นิ้ว พร้อมประสิทธิภาพที่ลื่นไหล ไม่ว่าจะดูหนัง ฟังเพลง หรือเล่นเกมสบาย ๆ Infinix Hot 50Pro+ ตอบโจทย์แน่นอนครับ แบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh ใช้งานได้ยาวนาน ไม่ต้องกังวลเรื่องแบตหมดระหว่างวัน
แถมกล้องความละเอียด 50MP ยังให้ภาพถ่ายที่คมชัด สวยงาม ในราคาเริ่มต้นเพียง 6,499 บาท บอกเลยว่าคุ้มเกินคุ้ม ใครที่มองหาสมาร์ทโฟนราคาประหยัดแต่สเปคลงตัว ต้องจัดรุ่นนี้เลยครับ!
9. Honor X7c
ราคาเริ่มต้น 5,999 บาท
ดีไซน์สวย จอใหญ่คมชัด แบตอึดสุดพลัง กล้อง 108MP เก็บทุกช็อตประทับใจ
Honor X7c เป็นสมาร์ทโฟนที่ผสานดีไซน์ทันสมัยเข้ากับฟีเจอร์ที่ครบครันได้อย่างลงตัว หน้าจอขนาด 6.77 นิ้ว มอบประสบการณ์การรับชมที่เต็มอิ่ม ไม่ว่าจะดูหนัง เล่นเกม หรือท่องโซเชียลก็เพลินตา แถมยังมาพร้อมประสิทธิภาพการประมวลผลที่พร้อมตอบสนองทุกการใช้งานของคุณได้อย่างราบรื่น
ไฮไลท์เด่นอยู่ที่แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 6,000 mAh ใช้งานได้ยาวนานตลอดวันแบบไม่ต้องกังวลเรื่องแบตหมด และกล้องหลังความละเอียด 108MP + 2MP เก็บภาพคมชัดทุกรายละเอียด ในราคาเริ่มต้นเพียง 5,999 บาท ใครที่มองหาสมาร์ทโฟนคุ้มค่า ฟีเจอร์ครบ ต้องลองพิจารณารุ่นนี้เลยครับ!
10. ZTE Neo 3 GT
ราคาเริ่มต้น 8,999 บาท
แรงจัดเต็ม เล่นเกมมันส์ไม่สะดุด แบตอึด ชาร์จไว ระบายความร้อนเยี่ยม
เหล่าเกมเมอร์เตรียมตัวให้พร้อม! ZTE Neo 3 GT มาพร้อมขุมพลัง 5G ที่จะทำให้การเล่นเกมของคุณลื่นไหลแบบที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน เก็บข้อมูลเกมและไฟล์ต่าง ๆ ได้จุใจ ไม่ต้องกลัวเต็ม ด้วยเทคโนโลยี Direct Power ดึงพลังงานโดยตรง ช่วยลดความร้อนและยืดอายุแบตเตอรี่ 6,000 mAh ให้ใช้งานได้ยาวนานต่อเนื่อง
แถมยังมาพร้อมชาร์จเร็ว 80W เติมพลังได้ในพริบตา ระบบระบายความร้อน VC Cooling System ช่วยให้เครื่องไม่ร้อน เล่นเกมหนัก ๆ ได้สบาย ๆ พร้อมระบบปฏิบัติการ Android 15 รุ่นใหม่ล่าสุด ในราคาเริ่มต้นเพียง 8,999 บาท ใครที่มองหาสมาร์ทโฟนสำหรับเล่นเกมโดยเฉพาะ ต้องจัด ZTE Neo 3 GT แล้วครับ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับมือถือราคาไม่เกิน 10000 บาท
1. มือถือไม่เกิน 10,000 บาท ใช้งานได้ดีแค่ไหน?
แม้จะเป็นรุ่นประหยัด แต่มือถือในงบนี้สามารถใช้งานพื้นฐานได้อย่างลื่นไหล เช่น โทรศัพท์ แชท โซเชียลมีเดีย ถ่ายรูป ดูวิดีโอ หรือแม้แต่เล่นเกมเบา ๆ ได้สบาย เพียงเลือกสเปกให้เหมาะกับการใช้งาน เช่น RAM 4–6GB และชิปประมวลผลระดับกลาง
2. มือถือในงบนี้เล่นเกมได้ไหม?
เล่นได้ครับ โดยเฉพาะเกมที่ไม่กินทรัพยากรสูง เช่น ROV, Free Fire, Subway Surfers, Cookie Run ฯลฯ หากเน้นเล่นเกม ควรเลือกรุ่นที่ใช้ชิปอย่าง Helio G88 หรือ Snapdragon 680 และ RAM อย่างน้อย 6GB จะช่วยให้เล่นได้ลื่นและไม่กระตุก
3. ควรเลือกระหว่าง RAM 4GB กับ 6GB ดี?
- หากใช้งานทั่วไป เช่น โทร แชท หรือดู YouTube – RAM 4GB ก็เพียงพอ
- แต่ถ้าชอบเปิดหลายแอปพร้อมกัน, เล่นเกม, หรืออยากใช้ลื่นในระยะยาว – ควรเลือก RAM 6GB จะดีกว่า เพื่อรองรับการใช้งานได้ยาว ๆ โดยไม่ต้องเปลี่ยนเครื่องบ่อย
4. มือถือราคานี้มีกล้องดีไหม?
มือถือหลายรุ่นในราคานี้มาพร้อมกล้องหลัง 50MP พร้อมโหมด AI, HDR, หรือแม้แต่โหมดกลางคืน ซึ่งสามารถถ่ายภาพในชีวิตประจำวันได้ดีระดับหนึ่ง แต่หากต้องการภาพคุณภาพสูงระดับโปร อาจต้องขยับไปงบที่สูงขึ้น
5. ควรเลือกมือถือแบรนด์ไหนดีในงบ 10,000 บาท?
แบรนด์ที่น่าเชื่อถือและมีศูนย์บริการรองรับในไทย ได้แก่:
- Samsung – ระบบเสถียร อัปเดตยาว งานประกอบดี
- Xiaomi / Redmi / POCO – สเปกแรงคุ้มราคา แต่บางรุ่นอาจมีโฆษณาในระบบ
- realme / OPPO / vivo – เหมาะกับผู้เริ่มต้น ใช้งานง่าย กล้องดี
- Infinix / Tecno – สเปกแรงในราคาคุ้มค่า เหมาะกับสายเกม
6. ซื้อออนไลน์ได้ไหม ปลอดภัยหรือเปล่า?
ซื้อออนไลน์ได้แน่นอน โดยควรเลือกจาก:
- ร้านที่เป็น Official Store บน Lazada / Shopee
- ร้านที่มีคะแนนรีวิวสูง / รีวิวภาพจริงจากลูกค้า
- เช็กเงื่อนไขประกัน / การคืนสินค้าให้ชัดเจน
7. มือถือราคาไม่เกิน 10,000 บาท อยู่ได้นานแค่ไหน?
ถ้าเลือกสเปกดี เช่น RAM 6GB, ROM 128GB และระบบที่อัปเดตได้ต่อเนื่อง เครื่องก็สามารถใช้งานได้ยาว 2–3 ปีสบาย ๆ โดยไม่ต้องเปลี่ยนใหม่เร็ว ๆ ยิ่งถ้าใช้งานไม่หนัก จะอยู่ได้ยาวนานกว่านั้น
บทส่งท้าย
มือถือราคาไม่เกิน 10000 บาท ในปัจจุบันสามารถตอบโจทย์การใช้งานพื้นฐานได้อย่างครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานทั่วไป เล่นโซเชียล ดูหนัง ฟังเพลง หรือแม้แต่เล่นเกมเบา ๆ ก็ทำได้อย่างลื่นไหล หากผู้ซื้อเข้าใจวิธีเลือกให้เหมาะกับความต้องการ เช่น ดูที่ชิปประมวลผล RAM ความจุ และความคุ้มค่าด้านแบตเตอรี่หรือกล้อง ก็จะสามารถเลือกสมาร์ทโฟนที่ดีในงบจำกัดได้อย่างมั่นใจ ทั้งยังประหยัดเงินในกระเป๋าโดยไม่ต้องแลกกับคุณภาพการใช้งานมากนัก นับว่าเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและเหมาะกับผู้ใช้งานทุกกลุ่มในยุคที่เทคโนโลยีเข้าถึงได้ง่ายขึ้นเรื่อย ๆ