รีวิว Fujifilm X-A3 กล้องสายชิล ตัวเล็กแต่ใจใหญ่ เหมาะกับผู้ใช้งานทุกระดับประทับใจ

รีวิว Fujifilm X-A3

สวัสดีครับเพื่อน ๆ พบกันอีกเช่นเคยนะครับ วันนี้เป็นคิวรีวิวของ Fujifilm X-A3 ครับ ซึ่งเป็นกล้องรุ่นใหม่ของค่าย Fujifilm ที่คนส่วนใหญ่ชื่นชอบกันอยู่แล้วซึ่ง กล้อง Mirrorless ยี่ห้อ Fujifilm X-A3 ตัวนี้อยู่ในซีรี่ย์เดียวกับ Fujifilm X-A2 ครับ ซึ่งเพื่อน ๆ ต้องเคยได้ยินชื่อนี้แน่นอนครับ เพราะกล้อง Fujifilm X-A2 เป็นกล้องที่ขายดีมาก ๆ ในประเทศไทยครับ

และสำหรับรีวิวนี้ ผมจะแบ่งเป็นหัวข้อต่าง ๆ ที่จะกล่าวถึงสเปคของกล้องแต่ละส่วน และข้อมูลต่าง ๆ ที่จำเป็นสำหรับเพื่อน ๆ ในการที่จะตัดสินใจเรื่องกล้อง ให้เข้าใจกล้องรุ่นนี้มากขึ้น และวันนี้จะมีอะไรน่าสนใจมาก ไปดูกันเลย

Fujifilm X-A3 ราคา Fujifilm X-A3 Mirrorless Camera

– 24.2MP APS-C CMOS Sensor
– 3″ 920k-Dot 180° Tilting Touchscreen
– Full HD Video at up to 60 fps
– Built-In Wi-Fi Connectivity
– 77-Point Autofocus System

฿14,290.00

รายละเอียดกล้อง Fujifilm X-A3

สเปคกล้อง Fujifilm X-A3

  • Sensor ใหม่ APS-C Size ความละเอียด 24.2 megapixel
  • หน้าจอหน้าจอ Touchscreen ขนาด 3.0 นิ้ว สามารถพลิกได้ 180 องศา
  • จุดโฟกัส 49 จุดสำหรับโหมดโฟกัสจุดเดียวและ 77 จุด สำหรับแบบ Zone, wide
  • และติดตามวัตถุ
  • โฟกัสเร็ว 0.3 วินาที
  • แปลงไฟล์ Raw ได้ภายในตัวกล้อง
  • Built-In Wifi สามารถแชร์ภาพจากกล้องไปยัง smartphone
  • บันทึก Video แบบ Full HD 1920×1080@60p
  • มี mode film simulation ใหม่ PRO Neg.HI, PRO Neg.STD
  • เปิดเครื่องพร้อมทำงานภายใน 0.5 วินาที

Background

ในตระกูลซีรี่ย์ X-A ของ Fujifilm นี้เป็นซีรี่ย์ที่ผลิตมาสำหรับนักเล่นกล้องมือใหม่ระดับเริ่มต้นครับ กล้อง Fujifilm X-A3 เป็นรุ่นที่ทำออกมาเพื่อแทนตัว Fujifilm X-A2 แต่ในความเป็นจริงมันอยู่ในระดับที่สูงกว่า X-A2 ครับ

และในปัจจุบันครับ กล้องรุ่นนี้กลายเป็นกล้องที่มีระดับสูงที่สุดของซีรี่ย์นี้แล้วครับ ส่วน Fujfifilm X-A2 ตัวเดิมนั้นก็ได้ถูกทดแทนตามตำแหน่งทางการตลาดแล้วครับ ด้วยเจ้า Fujifilm X-A10 ตัวนี้ ที่ผลิตออกมาได้ไม่นานนั่นเอง

รูปจาก medium.com

เมื่อกล้อง Mirroress อย่าง Fujifilm X-A3 ที่ได้ชื่อว่า เป็นกล้องที่ระดับสูงสุดของซีรี่ย์กล้องสำหรับระดับเริ่มต้น เรียบร้อยแล้ว จะเป็นอื่นไปไม่ได้ครับ สเปคมันต้องดีกว่า X-A ทั้งหมดที่มีอย่างแน่นอน สำหรับ Fujifilm X-A3 นี้จะมีอะไรพิเศษ ๆ ขึ้นมาบ้าง ติดตามกันต่อไปนะครับ

Sensor

อันดับแรกที่ สิ่งเราควรนำมาพิจารณาก่อนเพื่อน ๆ เลย คือ เซนเซอร์นั่นเองครับ เพราะตัวเซนเซอร์นี้ มีส่วนสำคัญต่อคุณภาพของรูปถ่ายอย่างมาก เซนเซอร์ของกล้องรุ่นนี้ เป็นเซนเซอร์ CMOS ขนาด APS-C มีความละเอียดมาให้ 24.2 ล้านพิกเซล ซึ่งมากกว่า X-A2 อยู่พอสมควร ที่มีจำนวนพิกเซลที่ 16 ล้านพิกเซล

รูปจาก medium.com

ในส่วนของขนาด APS-C โดยเป็นขนาดเซนเซอร์ ที่จะเล็กกว่ากล้องฟูลเฟรมประมาณ 1.5 เท่า ด้วยขนาดเซนเซอร์ขนาดนี้ ถือว่าเป็นเซนเซอร์ที่มีขนาดใหญ่เลยครับ ยิ่งเซนเซอร์ใหญ่ คุณภาพของรูปที่ถ่ายออกมา ก็จะได้คุณภาพที่ดีนั่นเอง และยังสามารถถ่ายรูปในเวลากลางคืนได้อย่างสวยงามคมชัดอีกด้วย นอกจากนี้ขนาดเซนเซอร์ขนาดนี้ ก็ยังใช้ในการถ่ายรูปแบบหน้าชัดหลังเบลอได้ดีมาก ๆ ครับ

หมายเหตุที่ 1 : การที่เซนเซอร์เล็กว่าฟูลเฟรม 1.5 เท่านั้น ทำหใ้เวลาที่เราจะเปลี่ยนเลนส์ครับ เราจะต้องเอาเลข 1.5 ไปคูณกับตัวเลขบนเลนส์ด้วยนั่นเอง เมื่อคูณแล้วเราก็จะได้ระยะการถ่ายที่แท้จริงครับ

และในส่วนของความละเอียด 24.2 ล้านพิกเซล ก็ถือว่ามากพอที่เราจะปรินท์รูปทำป้ายแปะโชว์ที่กำแพงได้อย่างคมชัด สวยงามมาก ๆ เลยครับ รูปไม่แตกอีกด้วย ขนาดของรูปที่ได้มานะครับ คือขนาด 6000 x 4000 ถ้าเรานำไปตัดตกแต่งบ้างเล็กน้อย ก็ยังไม่ค่อยเสียความละเอียดของไฟล์ไม่ค่อยมากเท่าไรครับ

หมายเหตุที่ 2 : เซนเซอร์ตัวนี้ไม่ใช่เซนเซอร์ X-Trans CMOS ที่ทางค่าย Fuji เอาไปพัฒนาต่อเพิ่มเติมนะครับ มันยังคงเป็น CMOS ปกติ เซนเซอร์ X-Trans จะอยู่ในกล้องที่มีระดับสูงกว่านี้ครับ

ปุ่ม และ Dial ในการปรับค่าต่าง ๆ

รูปจาก medium.com

ในภาพรวมนั้นครับ จะมีความคล้ายคลึงกับตัว Fujifilm X-A2 มากครับ มีความแมนนวลค่อนข้างสูง ถ้าฝึกสักพัก ก็น่าจะชินกับการใช้งานได้ไม่ยากครับ การปรับแต่งต่าง ๆ ก็จะมีความรวดเร็วมาก ในส่วนของค่าความเร็วชัตเตอร์ และรูรับแสง เราสามารถปรับได้ด้วยนิ้วเพียงนิ้วเดียวได้อย่างง่ายดายครับ

รูปจาก medium.com

ปุ่มด้านหลังของตัวกล้อง ก็จะเหมือน ๆ กับกล้อง X-A2 แต่ที่จะต่างคือ มีการย้ายปุ่มแฟลชครับ ถ้าปกติมันจะอยู่ด้านหลังตัวกล้อง แต่ตอนนี้จะไปอยู่ที่ด้านข้างของตัวกล้องแทนครับ

รูปจาก medium.com

ส่วนด้านหน้าครับ เราจะพบกับวงแหวนสำหรับปรับโหมดโฟกัส ถ้าเป็นคนที่เคยใช้กล้องยี่ห้ออื่น ๆ มาก่อน อาจจะมึนหน่อย ๆ ครับ อันที่จริงมันเป็นสิ่งที่ทางฟูจิให้มากับกล้องทุกตัวนั่นแหละครับ ปกติมาก ๆ แบรนด์นี้เค้าจะเน้นไปทางฟิลลิ่งครับ เน้นในส่วนของความแมนนวลครับ

รูปจาก medium.com

ชัตเตอร์

ในส่วนของสิ่งที่มีเพิ่มเข้ามาในกล้องรุ่น Fujifilm X-A3 และกล้องรุ่นอื่น ๆ ถ้าในปัจจุบันนี้จะเป็น ชัตเตอร์แบบอิเล็กทรอนิกส์ครับ ซึ่งจะมีอยู่ 2 สถานการณ์ที่มีประโยชน์มาก ๆ เลยครับ คือ

  1. สถานการณ์ที่เราต้องเงียบมากที่สุด เพราะว่าชัตเตอร์นี้จะเงียบมากครับ เช่น ถ่ายรูปสัตว์ ถ่ายรูปเด็กทารกที่กำลังนอนหลับ หรือถ่ายรูปแบบสตรีท โดยไม่เป็นการรบกวนชีวิตของคนที่เราถ่ายครับ
  2. สถานการณ์ที่เราใช้ค่ารูรับแสงกว้าง ใช้ในพื้นที่มีแสงจ้ามาก ๆ โดยชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์นี้ สามารถถ่ายรูปแบบความเร็วสูงมาก ๆ ได้ครับ เพื่อลดปริมาณแสงส่วนที่เกินเข้ามาในรูปได้นั่นเอง

ผมว่าจริง ๆ มันก็ไม่ได้จำเป็นต้องมีอะไรนะครับ เท่าที่มีก็ค่อนข้างมีประสิทธิภาพอยู่แล้ว แต่ถ้าเราไปเจอสถานการณ์ที่เราอาจจะคาดไม่ถึง ถ้าเรามีไว้ มันก็ดีอยู่นั่นเองครับ เราจะได้สามารถใช้ได้ทุกสถานการณ์นั่นเอง

รูปจาก medium.com

ถ้าในสถานการณ์ปกติครับ ผมยังแนะนำให้ใช้ชัตเตอร์แบบปกติเป็นหลักนะครับ เพราะ ชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์อาจจะเจอปัญหา Rolling Shuter ได้นั่นเอง ซึ่งจะทำให้สิ่งที่อยู่ในรูป มีการเอนเอียง โย้ไปเย้มาได้ครับ ทำให้รูปที่ถ่ายออกมา ดูไม่สมจริง และอาจจะดูเหมือนมีลายเส้นอยู่ในรูปบ้างครับ

การโฟกัสภาพ

มีการพัฒนาขึ้นในส่วนของจุดโฟกัสครับ คือ พัฒนาเพิ่มขึ้นเป็น 77 จุด ในโหมด Wide +Tracking ครับ อย่างไรก็ดี กล้องรุ่นนี้ ยังใช้การโฟกัสแบบ Contrast Detection อยู่นั่นเอง เมื่อเป็นแบบนี้การพัฒนาโฟกัสโดยรวม ก็ไม่ถือว่าหวือหวาอะไรมากมายครับ

จอภาพ

จอภาพความละเอียดของกล้องรุ่นนี่้ มีความละเอียด 920k จุด และทำการทัชสกรีนได้แล้ว โดยเราสามารถที่จะแตะหน้าจอ เพื่อทำการโฟกัสหรือแตะเพื่อทำการถ่ายรูปก้ได้ทันที การตอบสนองในการทัชสกรีน ทำได้อย่างรวดเร็วดีมาก หน้าจอสามารถพลิกขึ้นพลิกลงได้อย่างง่ายดาย อำนวยความสะดวกในการใช้งานได้หลากหลายสถานการณ์ครับ

โดยเราสามารถพลิกหน้าจอลง และพลิกขึ้นได้มากถึง 180 องศาเลยครับ ซึ่งเพิ่มขึ้นมากจากรุ่น X-A2 นั่นเอง ในส่นของตัว X-A2 ครับ ตัวนี้จะพบิกขึ้นมาได้แค่ 175 องศา แต่ในรุ่นนี้ 180องศา สบายหายห่วงครับ

รูปจาก medium.com

เวลาที่เราจะทำการพลิกจอเพื่อเซลฟี่แบบชิว ๆ ครับ เราต้องทำการดึงจอขึ้นขึ้นมาอีกทีนึงด้วยนะครับ ไม่อย่างงั้นจอที่แสดงผลมันจะไม่ยอมกลับหัวให้เราได้เซลฟี่นั่นเองครับ

รูปจาก medium.com

ถ่ายเซลฟี่

ทางฟูจิครับ ได้พัฒนาเจ้า Fujifilm X-A3 สามารถกดชัตเตอร์เพื่อถ่ายเซลฟี่ได้อย่างง่ายดายขึ้น โดยเราไม่ต้องกดชัตเตอร์เดิมอีกแล้วครับ แต่เราสามารถกดวงแหวนสีดำตามรูปได้เลยครับ ทีนี้เมื่อเราสามารถกดถ่ายชัตเตอร์ได้อย่างมั่นคง ถนัดมือขึ้นแล้ว ความสั่นไหวในการถ่ายรูปมันก็จะน้อยลง รูปที่ได้ออกมาก็จะคมชัดไม่สั่นไหวนั่นเองครับ

รูปจาก medium.com

มาพูดกันถึงเรื่องรูปกันบ้างนะครับ รูปเซลฟี่ที่เราถ่ายได้ทั้งหมด ด้วยโหมด Portrait Enhancer ซึ่งโหมดนี้คือโหมดสำหรับถ่ายรูปหน้าเนียนครับ เราสามารถปรับได้ถึง 3 ระดับเลยครับ ถ้าเราดูจากในรูป เราก็จะเห็นว่า สีผิวก็ยังเป็นสไตล์ฟูจิเหมือนเคยครับ จะออกเป็นสีชมพู ๆ สาว ๆ คงชอบกันครับ

แต่หลังจากที่ได้ลองถ่ายรูปออกมาดูเยอะ ๆ แล้ว สีของผิวอาจไม่ค่อยนิ่งนะครับ มันจะดูเหมือนเหวี่ยงไปเหวี่ยงมา มันจะดูอมส้ม ๆ กับอมชมพูผสมกันไปครับ



รูปจาก medium.com

ในส่วนของรูปทั้ง 3 รูปที่เพื่อน ๆ ได้ดูไปนั้น ถ่ายด้วยโหมด Portrait Enhancer ทั้งสามรูปเลยครับ แต่ว่าเราได้ทำการปรับระดับความหน้าเนียน คนละระดับกันเลย ดูเผิน ๆ คงดูไม่ค่อยออกใช่ไหมครับ งั้นเดี๋ยวจะซูมให้ดูใกล ๆ แล้วกันครับ

รูปที่ 1 : หน้าเนียนระดับที่ 1 จะเห็นได้ว่ารายละเอียดต่าง ๆ บนใบหน้าจะยังมีความชัดเจนอยู่ครับ

รูปจาก medium.com

รูปที่ 2 : หน้าเนียนระดับที่ 2 รูปนี้ถึงเราจะโฟกัสเข้าแล้วแน่ ๆ แต่เราจะเห็นว่ารายละเอียดบนใบหน้า จะเริ่มจางหายไปครับ

รูปจาก medium.com

รูปที่ 3 : หน้าเนียนระดับที่ 3 จะดูเนียนขึ้นไปอีกระดับครับ

รูปจาก medium.com

สำหรับรูปตัวอย่างทั้งหมดที่ถ่ายเซลฟี่มานี้ ได้มีการผ่านการเพิ่มและลดแสง (Exposure) มานิด ๆ หน่อย ๆ ครับ แล้วก็ลบสิวออกด้วย ส่วนสีสันของผิวพรรณ จะเป็นสีผิวจากกล้อง ไม่ได้มีการปรับแต่งใด ๆ ทั้งสิ้นแม้แต่นิดเดียวครับ

หลังจากที่ให้เพื่อน ๆ ไปลองถ่ายเซลฟี่ในสภาวะที่มีแสงปกติมา เราพบว่า กล้องรุ่นนี้ชอบวัดแสงออกมาเดี๋ยวก็มืด เดี๋ยวก็สว่าง เพราะฉะนั้นครับ ถ้าใครที่จะใช้โหมดนี้ในการถ่ายเซลฟี่ หรือโหมดอื่น ๆ ควรที่จะปรับระดับแสงให้เป็น โดยการใช้วงแหวนอันนี้ครับ

รูปจาก medium.com

สีสันของภาพ JPEG

นอกเหนือจากสีสันการเซลฟี่แบบสีชมพูอย่างด้านบนแล้ว สีสันแบบสไตล์ฟูจิ ที่ได้ชื่อว่าเป็นจุดแข็งอีกอย่างหนึ่ง ก็ยังคงใช้ได้ดีอยู่ โดยรูปทั้งหมดนั้น ไม่ได้มีการปรับแต่งสีใด ๆ นะครับ จะมีปรับก็แค่ Exposure และ Shadows เท่านั้น และก็ใช้ Film Simulation : Standard ทั้งหมดเลยครับ







รูปจาก medium.com

และนอกจาก Film Simulation แบบ Standard แล้ว เราก็ยังสามารถปรับสีให้เป็นแบบอื่นได้อีกนะครับ สำหรับ Film Simulation ที่คนนิยมฟูจิกันมาก ๆ จะเป็น Classic Chrome ที่สีดูกับว่าจะซีดลงไปหน่อยนึงนะครับ และมีคอนทราสต์สูงขึ้นหน่อยนึงด้วยครับ

การถ่ายรูปต่อเนื่อง

กล้องรุ่นนี้ มีสามารถยิงชัตเตอร์ต่อเนื่องได้ถึง 6 รูปต่อวินาที ระดับนี้ถือว่า กลาง ๆ สำหรับกล้องระดับเริ่มต้นครับ

วิดีโอ

Fujifilm X-A3 มีความสามารถถ่ายวิดีโอที่ 1080/60p ได้แล้วนะครับ ส่วนรุ่น X-A2 สามารถถ่ายได้แค่ 30p เท่านั้นเอง ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ จะหมายความว่า วิดีโอที่เราถ่ายจะมีความลื่นไหลได้ดีขึ้นมาก ๆ อย่างไรก็ดี Fujifilm X-A3 ยังไม่ถือว่าเป็นกล้องสำหรับงานถ่ายวิดีโอเต็มตัวนะครับ

เพราะถ้าเราเอาไปถ่าย Subject ที่มีการเคลื่อนไหวเข้าออก การออโต้โฟกัสจะยังไม่ทันใจเรานั่นเอง เพราะการออโต้โฟกัสของเขา ยังเป็นแบบ Contrast Detection อยู่ครับ

เลนส์คิต

สำหรับเลนส์คิตที่ติดมากับ Fujifilm X-A3 จะเป็นเลนส์ 16–50mm f3.5–5.6 OIS II ซึ่งมีความสามารถในการถ่ายรูปครอบคลุมตั้งแต่วิวสวย ๆ อาหารต่าง ๆ คน และอีกมากมาย เลนส์ตัวนี้ครับ สามารถเอาไปจ่อถ่ายสิ่งของขนาดเล็ก ๆ ได้ดีในระดับหนึ่งเลยล่ะครับ

รูปจาก medium.com

ข้อเสียที่พวกเรารู้ ๆ กันเป็นอย่างดีเลย คือ มันมีขนาดใหญ่ครับ จมูกของมันจะยื่นมายาวเลยครับ ดังนั้นถ้าเพื่อน ๆ จะซื้อมาแล้วต้องการใช้เลนส์คิตแบบยาว ๆ ตรงจุดนี้เพื่อน ๆ ต้องยอมรับครับ

รูปจาก medium.com

สำหรับลักษณะการซูมเลนส์คิตนี้นะครับ จะเป็นการซูมด้วยมือของเราเลยครับ ไม่ได้เป็นการซูมด้วยระบบไฟฟ้านะครับ ทำให้เวลาเราใช้งาน เราจะได้ใช้มือของเราทั้งสองข้างเลยล่ะครับ สำหรับการปรับกล้อง และเมื่อเราหมุนซูมเข้าออก เลนส์ก็จะยื่นไปข้างหน้าตามรูปเลยครับ

รูปจาก medium.com

ตัวเลนส์จะมีระบบกันการสั่นด้วยนะครับ และน้ำหนักของตัวเลนส์ จะอยู่ที่ประมาณ 195 กรัมเท่านั้นเองล่ะครับ

บอดี้กล้อง น้ำหนัก และการจับถือ

ในส่วนของหน่าตาบอดี้กล้อง การดีไซน์ดูแล้วทันสมัยมากครับ ในขณะเดียวกันก็ยังคงความฟูจิเอาไว้ได้อย่างดี มีความสวยงาม น่าใช้งานเหมือนเดิม เราสามารถแยกได้ครับว่า Fujifilm X-A3 กับรุ่นอื่น ๆ จะมีความแตกต่างกัน เอกลักษณ์ของแต่ละรุ่นจะไม่เหมือนกัน

เราจะดูออกได้อย่างง่าย ๆ เลยด้วยบริเวณสี่เหลี่ยมสีเงินที่อยู่รอบ ๆ เม้าท์เลนส์ บอดี้กล้องรุ่นนี้มีให้เลือกทั้งหมด 3 สีครับ คือ สีน้ำตาล สีชมพู และสีดำครับ

รูปจาก medium.com

น้ำหนักของบอดี้ไม่รวมเลนส์จะหนักแค่ 339 กรัมครับ โดยรวมเมมโมรี่การ์ดและแบตแล้ว ไม่หนักเลยใช่ไหมล่ะครับ แต่ว่าพอเราเอาเลนส์มาติดตั้งแล้ว มันจะดูเทอะทะไปหน่อยเท่านั้นเอง อาจจะขัดใจนิด ๆ ครับ

 รูปจาก medium.com

ตรงบอดี้จะมีกริปยื่นออกมาครับ เราจะจับได้อย่างกระชับมือเลยทีเดียว แต่ดู ๆ แล้วน่าจะเหมาะกับผู้หญิงมากกว่าผู้ชายอีกนะ เพราะมันมีขนาดเล็กนั่นเอง

แบตเตอรี่

ในส่วนของการชาร์จแบตเตอรี่ของ Fujifilm X-A3 จะเป็นการชาร์จแบบ เสียบกล้องเข้ากับปลั๊กโดยตรงเลยครับ ข้อดีคือเราไม่ต้องแกะเอาแบตออกมาจากเครื่อง ต่อกับแท่นชาร์จ แล้วจึงเอาไปเสียบปลั๊ก แบบต่อตรงนี้สะดวกสบายมากเลยครับ

รูปจาก medium.com

เมื่อชาร์จเต็มที่แล้ว จะสามารถถ่ายรูปได้ประมาณ 410 รูป ถือว่าเยอะมาก โอเคสุด ๆ ครับ

Wifi

อันนี้มีมาให้แน่นอน แถมยังใช้มือถือเป็นรีโมตได้อีกด้วย รุ่นนี้เป็นรุ่นแรกของซีรีส์ X-A เลยนะครับที่สามารถใช้มือถือเป็นรีโมตได้ ในส่วนของการตอบสนองของ Wifi Remote รวดเร็วดี ประทับใจมาก ๆ เลยครับ

รูปจาก medium.com

ราคา

ราคาเปิดตัวอยู่ที่ 23,990 บาทครับ

ข้อดี

  • เซนเซอร์มีขนาดค่อนข้างใหญ่ครับ ขนาด APS-C ความละเอียดสูงขึ้นมาก
  • มีชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์มาให้เราได้ใช้งาน
  • สามารถตั้งค่าปุ่มต่าง ๆ ได้ค่อนข้างรวดเร็วหากเราชินแล้ว
  • จอทัชสกรีนช่วยในการเลือกโฟกัสง่ายดายขึ้น ตอบสนองได้ดี
  • พลิกจอได้ 180 องศา ทำให้ใช้งานได้หลายโอกาส
  • สีสันของรูปสวยงามคมชัด แต่งนิดเดียวก็สวยแล้ว
  • การเซลฟี่ได้สีอมชมพู กดเซลฟี่ก็ง่ายมากขึ้น
  • ใช้มือถือเป็นรีโมทได้ ตอบสนองเร็วดี
  • บอดี้กล้องมีความสวยงาม

ข้อสังเกต

  • ตัวเซนเซอร์ยังไม่ใช่เซนเซอร์ X-Trans ฟูจิมักจะใส่เซนเซอร์ X-Trans ไว้ในกล้องที่อยู่ในซีรีส์สูงกว่านี้
  • อาจเกิดการผิดปกติในรูปจากการใช้ชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์
  • การโฟกัสยังเป็นแบบ Contrast Detection ซึ่งยังไม่ค่อยเร็วเท่าไร
  • วิดีโอถึงจะขนาด Full HD 60p ก็ตาม แต่การโฟกัสที่ได้ ยังไม่เหมาะกับการใช้งานวิดีโอ
  • ติดเลนส์คิต แล้วค่อนข้างใหญ่เทอะทะ ไม่ค่อยคล่องตัว

สรุป

Fujifilm X-A3 รูปจาก medium.com

เพื่อน ๆ ก็คงได้ทราบรายละเอียดต่าง ๆ ของ กล้อง Fujifilm X-A3 กันไปแล้วนะครับ ซึ่งก็น่าจะเพียงพอให้เพื่อน ๆ สามารถตัดสินใจได้ว่าเหมาะกับเพื่อน ๆ หรือไม่ ซึ่งกล้องตัวนี้ค่อนข้างเหมาะกับคนเริ่มต้นใช้งานกล้องอย่างยิ่งครับ ซึ่งการใช้ก็ไม่ได้ยากมากเลย แถมผลงานที่ได้ ก็ออกมาสวยงามมากจริง ๆ ครับ

เมื่อเพื่อน ๆ ทราบอย่างนี้แล้วอย่ารอช้าครับ ไปถอยมาซักตัว เอาไว้พกพาไปเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ เก็บภาพความประทับใจ มาแบ่งปันเพื่อน ๆ ในโซเชียล อวดรูปสวย ๆ กันได้เลยครับ กล้องสวย ใช้งานง่าย ทันทุกสถานการณ์กันได้เลยครับ

ขอบคุณข้อมูลจาก : https://medium.com

About the Author: Tangthon

สวัสดีครับ ผมตังค์ทอน ผู้ที่มีความสนใจของใช้ต่าง ๆ ทั้งภายในบ้าน และนอกบ้าน เพราะเป็นของใช้ที่มีประโยชน์ ช่วยอำนวยความสะดวกได้ดี และใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน ผมจึงอยากเขียนรีวิวแนะนำสินค้าต่าง ๆ รวมทั้งแนะนำวิธีการเลือกซื้อเพื่อให้ผู้ที่สนใจและกำลังมองหาสินค้านั้น ๆ ได้ทราบ เพื่อที่จะได้นำไปใช้ในการตัดสินใจ ให้สามารถเลือกได้ง่ายยิ่งขึ้น สิ่งไหนดี สิ่งไหนน่าใช้ ยี่ห้อไหนดี รุ่นไหนดีที่สุด สามารถหาคำตอบได้ จากในบทความเลยครับ

You might like