เมื่อพูดถึง กาแฟเวียดนาม หลายคนอาจนึกถึงกลิ่นหอมเข้มข้น รสชาติที่มีเอกลักษณ์ และวิธีการชงที่ไม่เหมือนใคร ประเทศเวียดนามไม่เพียงแต่เป็นหนึ่งในผู้ส่งออกกาแฟรายใหญ่ของโลก แต่ยังมีวัฒนธรรมการดื่มกาแฟที่ลึกซึ้งและน่าหลงใหล ตั้งแต่กาแฟดริปที่ให้รสสัมผัสที่ช้าและลุ่มลึก ไปจนถึงกาแฟไข่ที่ผสมผสานความหวานมันแบบลงตัว กาแฟเวียดนามไม่ได้เป็นเพียงเครื่องดื่ม แต่เป็นประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวและความประณีต หากคุณกำลังมองหาสิ่งใหม่ในโลกของกาแฟ กาแฟเวียดนามอาจเป็นคำตอบที่คุณต้องลองสักครั้งในชีวิต
ในวันนี้ ตังค์ทอน จะมาแนะนำ 10 อันดับ กาแฟเวียดนาม ยี่ห้อไหนอร่อย ให้กับทุกคนที่สนใจลิ้มลองได้ทราบกัน รวมทั้งเราก็มีวิธีการเลือกซื้อกาแฟเวียดนาม มาฝากอีกด้วย สำหรับใครที่เป็นคอกาแฟ และสนใจลิ้มลองกาแฟเวียดนาม ไม่ควรพลาดเลย
วิธีการเลือกซื้อกาแฟเวียดนาม ต้องพิจารณาปัจจัยใดบ้าง?
สำหรับใครที่ต้องการเลือกซื้อกาแฟเวียดนาม แต่ยังไม่แน่ใจว่าต้องพิจารณาอย่างไร วันนี้เรามีรายละเอียดมาฝากด้วย ดังนี้
1. เลือกประเภทกาแฟที่เหมาะกับความต้องการ
กาแฟเวียดนามมีหลายประเภทให้เลือก ทั้งแบบเมล็ดกาแฟ (Whole Bean) และแบบบดสำเร็จ (Ground Coffee) หากคุณมีเครื่องบดกาแฟที่บ้านและต้องการความสดใหม่ ควรเลือกแบบเมล็ดกาแฟ เพื่อให้สามารถบดได้ตามความละเอียดที่ต้องการก่อนชง ในขณะเดียวกัน หากคุณต้องการความสะดวก แบบบดสำเร็จอาจตอบโจทย์ได้ดีกว่า นอกจากนี้ยังมีแบบกาแฟสำเร็จรูป (Instant Coffee) ที่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการประหยัดเวลา แต่ยังคงได้สัมผัสรสชาติแบบเวียดนามแท้
2. พิจารณาสายพันธุ์กาแฟ
เวียดนามเป็นหนึ่งในผู้ผลิตกาแฟรายใหญ่ของโลก โดยเฉพาะสายพันธุ์โรบัสต้า (Robusta) ที่มีรสชาติขมเข้มและคาเฟอีนสูง เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบกาแฟเข้มข้น อย่างไรก็ตาม กาแฟอาราบิก้า (Arabica) ซึ่งมีรสชาติหวานละมุนและกลิ่นหอมผลไม้ ก็เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นในเวียดนาม คุณควรพิจารณาว่าสายพันธุ์ไหนตรงกับรสนิยมของคุณมากที่สุด
3. ตรวจสอบวิธีการคั่ว
ระดับการคั่วมีผลต่อรสชาติของกาแฟโดยตรง กาแฟเวียดนามมักนิยมคั่วในระดับกลางถึงเข้ม (Medium-Dark to Dark Roast) เพื่อดึงความเข้มข้นของรสชาติออกมา หากคุณชอบกาแฟที่มีรสชาติกลมกล่อมและไม่ขมจนเกินไป ควรเลือกกาแฟคั่วระดับกลาง แต่ถ้าคุณต้องการสัมผัสรสชาติที่หนักแน่นและหอมไหม้เล็กน้อย กาแฟคั่วเข้มอาจเหมาะกับคุณมากกว่า
4. เลือกแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ
ในตลาดมีแบรนด์กาแฟเวียดนามหลากหลาย เช่น Trung Nguyen, G7 หรือ King Coffee ที่ได้รับความนิยมและการยอมรับในระดับสากล ควรเลือกแบรนด์ที่มีชื่อเสียงเพื่อให้มั่นใจในคุณภาพ หากคุณชื่นชอบการทดลอง คุณอาจเลือกแบรนด์ท้องถิ่นหรือกาแฟจากเกษตรกรรายย่อย เพื่อสนับสนุนการผลิตแบบยั่งยืนและสัมผัสรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละพื้นที่
5. ตรวจสอบส่วนผสมและสารเติมแต่ง
กาแฟเวียดนามบางยี่ห้ออาจมีการเติมส่วนผสมอื่น เช่น เนย น้ำตาล หรือกลิ่นวานิลลา เพื่อเพิ่มความหอมและรสชาติที่เข้มข้นยิ่งขึ้น หากคุณต้องการกาแฟที่บริสุทธิ์ ควรอ่านฉลากเพื่อให้มั่นใจว่าเป็นกาแฟแท้ 100% และปราศจากสารเติมแต่งใด ๆ แต่หากคุณชื่นชอบรสชาติที่ซับซ้อน การเลือกกาแฟที่มีการเติมกลิ่นหอมอ่อน ๆ ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ
6. เลือกขนาดบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสม
การเลือกซื้อกาแฟในปริมาณที่เหมาะสมก็สำคัญเช่นกัน หากคุณดื่มกาแฟบ่อย ควรเลือกบรรจุภัณฑ์ขนาดใหญ่เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย แต่หากคุณต้องการทดลองรสชาติใหม่ ๆ การซื้อบรรจุภัณฑ์ขนาดเล็กจะช่วยลดความเสี่ยงที่กาแฟจะไม่ถูกใจ นอกจากนี้ ควรเลือกบรรจุภัณฑ์ที่ปิดสนิทและป้องกันความชื้น เพื่อรักษาคุณภาพของกาแฟให้คงอยู่ได้นาน
7. พิจารณาราคาที่เหมาะสม
ราคาของกาแฟเวียดนามมีตั้งแต่ราคาย่อมเยาไปจนถึงระดับพรีเมียม คุณควรเปรียบเทียบราคาในแต่ละแบรนด์และเลือกราคาที่คุ้มค่ากับคุณภาพ หากเป็นกาแฟระดับพรีเมียม มักจะใช้เมล็ดกาแฟคัดพิเศษหรือมีกรรมวิธีการผลิตที่ซับซ้อน ซึ่งอาจเหมาะสำหรับโอกาสพิเศษหรือเป็นของฝาก
10 อันดับ กาแฟเวียดนาม ยี่ห้อไหนอร่อย ปี 2025 รสชาติเข้มข้น มีกลิ่นหอม ชงได้หลายวิธี
หลังจากที่ทุกท่านได้รับทราบวิธีการเลือกซื้อกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ต่อไปก็จะได้พบกับ 10 อันดับ กาแฟเวียดนาม ที่เราได้คัดสรรมาไว้ตรงนี้เรียบร้อยแล้ว สามารถดูรีวิวด้านล่างได้เลย
1. Chon Cafe กาแฟขี้ชะมดคั่วบด
ราคา 100 บาท
กลิ่นหอมเข้ม รสชาติเป็นเอกลักษณ์ เลือกความเข้มได้ตามใจ
Chon Cafe กาแฟขี้ชะมดคั่วบด ผลิตจากเมล็ดกาแฟสายพันธุ์โรบัสต้า 70% ผสานความพิเศษของกระบวนการผ่านขี้ชะมดที่ช่วยเสริมกลิ่นและรสชาติให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทางแบรนด์นำเสนอ 3 ระดับความเข้มที่แตกต่างกัน โดยแบ่งตามสีของบรรจุภัณฑ์: ห่อสีดำสำหรับผู้ชื่นชอบกาแฟเข้มข้น, ห่อสีน้ำตาลสำหรับรสชาติกลางๆ ที่กลมกล่อม และห่อสีเงินที่ให้ความต้นตำรับนุ่มนวลลงตัว
ตัวกาแฟมีกลิ่นหอมเข้มข้นพร้อมสัมผัสนุ่มลื่นคอ สามารถนำไปชงได้หลากหลายวิธี ทั้งกาแฟดำแบบคลาสสิก หรือปรับเพิ่มรสชาติด้วยน้ำตาล น้ำผึ้ง นมสด หรือส่วนผสมอื่น ๆ ได้ตามความชอบ ไม่ว่าจะชงผ่านเครื่องชงกาแฟ, Moka Pot, Syphon หรือการดริป กาแฟนี้ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ในราคาเพียง 100 บาท
2. Nguyên Quy กาแฟขี้ชะมดคั่วบด สูตรเข้มข้น
ราคา 119 บาท
กลิ่นหอมละมุน รสชาติกลมกล่อม เข้มกำลังดี ชงได้หลากหลายสไตล์
Nguyên Quy กาแฟขี้ชะมดคั่วบดสูตรเข้มข้น เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบกาแฟที่มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์และรสชาติกลมกล่อมไม่เข้มจนเกินไป โดดเด่นด้วยกลิ่นอันนุ่มละมุนและรสชาติที่สมดุลของกาแฟขี้ชะมด ให้คุณสัมผัสความเข้มข้นที่ลงตัว ชงดื่มได้ง่ายและหลากหลายวิธี เช่น การใช้เครื่องชงกาแฟ, หม้อต้ม Moka Pot, Syphon หรือการดริป
บรรจุภัณฑ์แบบห่อขนาด 500 กรัม สามารถถ่ายเก็บในภาชนะที่มีฝาปิดสนิทเพื่อรักษาคุณภาพของกาแฟ เหมาะกับการชงได้ทั้งแบบร้อนและเย็น พร้อมเพิ่มอรรถรสด้วยน้ำตาล นมสด หรือส่วนผสมตามใจคุณ สำหรับคอกาแฟที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์กาแฟพิเศษ กาแฟสูตรนี้ถือว่าตอบโจทย์ได้อย่างลงตัว
3. Duchess Coffee Capsule AsianDelight
ราคา 189 บาท
กาแฟแคปซูลรสขมอมเปรี้ยว หอมสดชื่น พร้อมเสิร์ฟง่ายในทุกเช้า
Duchess Coffee Capsule AsianDelight มาพร้อมกับรสชาติขมอมเปรี้ยวอ่อน ๆ ผสานกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ สร้างความสดชื่นและความกระปรี้กระเปร่าในทุกแก้ว กาแฟนี้ใช้เมล็ดพันธุ์คุณภาพจากเวียดนามที่ผ่านการคั่วบดอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้ได้รสชาติที่เข้มข้น กลมกล่อม และลงตัว เหมาะสำหรับสายคอกาแฟดำที่ชื่นชอบความสะดวกสบาย
แคปซูลกาแฟนี้สามารถชงได้ง่ายด้วยเครื่องชงกาแฟ พร้อมเติมความหวานจากน้ำตาล น้ำผึ้ง หรือเพิ่มความพิเศษด้วยนมสดหรือคาราเมลตามใจชอบ บรรจุในกล่องที่มี 10 แคปซูล ซึ่งสะดวกต่อการใช้งาน สำหรับผู้ที่มองหาตัวเลือกที่หลากหลาย Duchess ยังมีสูตรอื่น ๆ อย่าง Sip & Savour และ Duchess Single Origin ที่มาพร้อมกับรสชาติหลากหลายให้คุณได้เลือกสรรอีกด้วย ในราคาเพียง 189 บาท!
4. กาแฟเวียดนาม G7 Black Instant Coffee
ราคา 58 บาท
กาแฟสำเร็จรูปเข้มข้น หอมกรุ่น สะดวกทั้งชงร้อนและเย็น
G7 Black Instant Coffee เป็นกาแฟสำเร็จรูปชื่อดังจากเวียดนามที่โดดเด่นด้วยรสชาติที่เข้มข้นและกลิ่นหอมกรุ่นของกาแฟคั่ว เมล็ดกาแฟสายพันธุ์โรบัสต้าผ่านกระบวนการคั่วอย่างพิถีพิถัน ช่วยให้ได้รสชาติเข้มข้นที่ถูกใจคอกาแฟแบบเน้น ๆ อีกทั้งยังใส่ใจสุขภาพด้วยสูตรที่ปราศจากแคลอรี คอเลสเตอรอล และไขมันทรานส์
ตัวกาแฟสามารถชงได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเมนูร้อนหรือเย็น กรณีเมนูเย็นแนะนำให้ใช้ 2 ซองเพื่อเพิ่มความเข้มข้น สามารถเติมน้ำตาล ครีมเทียม หรือนมสดตามความชอบเพื่อเพิ่มอรรถรสในการดื่มได้ง่าย ๆ ในราคาเพียง 58 บาท กาแฟนี้จึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคอกาแฟสายเข้มและสายสุขภาพที่ต้องการความสะดวกในทุกวัน
5. บอน อโรมา กาแฟสำเร็จรูป โกลด์
ราคา 139 บาท
กาแฟ Freeze Dried กลิ่นหอมสดชื่น รสชาติกลมกล่อม ชงดื่มง่ายทุกเวลา
บอน อโรมา กาแฟสำเร็จรูป โกลด์ โดดเด่นด้วยกระบวนการผลิตแบบ Freeze Dried ที่แช่เย็นในอุณหภูมิต่ำกว่า -40 องศาเซลเซียส ช่วยคงรสชาติและกลิ่นกาแฟไว้ได้อย่างเป็นธรรมชาติ ใช้เมล็ดกาแฟอาราบิก้าคุณภาพจากบราซิลที่ให้รสชาติเข้มข้น มีกลิ่นหอมสดชื่น และรสขมอมเปรี้ยวเล็กน้อย ชงดื่มได้ทั้งแบบร้อนและเย็น
กาแฟบรรจุในขวดโหลแก้วที่มีฝาปิดแน่นหนา ช่วยรักษาคุณภาพได้อย่างดี วิธีชงง่าย ๆ เพียง 1 ช้อนชาในน้ำร้อน พร้อมเติมน้ำตาล น้ำผึ้ง หรือส่วนผสมอื่น ๆ ตามใจชอบ นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นเบสสำหรับสร้างสรรค์เมนูกาแฟอื่น ๆ ได้หลากหลาย เช่น ลาเต้ คาปูชิโน่ หรือกาแฟเย็นสดชื่น ในราคาเพียง 139 บาท ถือเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์คนรักกาแฟที่ต้องการความสะดวกและคุณภาพ!
6. กาแฟเวียดนาม Mr.Viet
ราคา 249 บาท
กาแฟเวียดนามพรีเมียม 3 สูตร หอมอร่อย หลากหลายรสชาติ
Mr.Viet เป็นกาแฟเกรดพรีเมียมจากเวียดนามที่ตอบโจทย์คอกาแฟด้วย 3 สูตรที่โดดเด่นและแตกต่าง เริ่มต้นด้วย Mr.Viet ฉลากสีแดง ใช้กาแฟสายพันธุ์อราบิก้า 100% มีกลิ่นหอมของดาร์กช็อกโกแลตและส้ม รสชาติจะเข้มข้นอมเปรี้ยวเล็กน้อย เหมาะสำหรับชงด้วยเครื่องชงกาแฟหรือการดริป ถัดมาคือ Mr.Viet ฉลากสีเหลือง ผสมกาแฟสายพันธุ์อราบิก้า 70% และโรบัสต้า 30% ให้รสชาติกลมกล่อมและมีกลิ่นหอมของคาราเมลและช็อกโกแลต เหมาะกับการชงดริปหรือใช้เครื่องชงกาแฟเช่นกัน
สุดท้าย Mr.Viet ฉลากสีฟ้า ใช้กาแฟสายพันธุ์โรบัสต้า 100% โดดเด่นด้วยกลิ่นหอมของถั่วและดาร์กโกโก้ ให้ความสดชื่น เหมาะสำหรับการชงดื่มในตอนเช้าหรือระหว่างวัน ทั้งหมดนี้มาในบรรจุภัณฑ์ที่สะดวกและคุ้มค่า ในราคาเพียง 249 บาท คุณสามารถเลือกสูตรที่เหมาะกับความชอบของคุณหรือเปลี่ยนบรรยากาศการดื่มกาแฟในแต่ละวันได้อย่างลงตัว!
7. กาแฟเวียดนาม เกรดพรีเมี่ยม KING COFFEE
ราคา 368 บาท
ผสมเมล็ดกาแฟ 4 สายพันธุ์ เข้มข้น หอมละมุน
KING COFFEE คือกาแฟเวียดนามเกรดพรีเมียมที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ด้วยการผสมผสานเมล็ดกาแฟจาก 4 สายพันธุ์ ได้แก่ อราบิก้า, โรบัสต้า, เอ็กเซลซ่า และคาติมอร์ โดยเฉพาะสายพันธุ์โรบัสต้าที่คัดสรรอย่างพิถีพิถันจากเมืองบวนมาถัว ประเทศเวียดนาม ผสมกับเทคนิคการคั่วเฉพาะของแบรนด์ ส่งผลให้ได้กาแฟที่มีรสชาติเข้มข้น กลิ่นหอมยาวนาน และรสสัมผัสที่นุ่มละมุน
ไม่ว่าจะชงดื่มแบบกาแฟดำ หรือเพิ่มน้ำตาล ครีมเทียม หรือนมสด ก็สามารถปรับรสชาติได้ตามชอบ อีกทั้งยังเหมาะสำหรับผู้ที่ดูแลสุขภาพหรือควบคุมน้ำหนัก ผลิตภัณฑ์สามารถเก็บรักษาได้นานถึง 2 ปี มอบประสบการณ์กาแฟระดับพรีเมียมในราคาเพียง 368 บาทที่คุณไม่ควรพลาด!
8. King coffee Espresso กาแฟดำ เวียดนาม
ราคา 106 บาท
กาแฟดำรสเข้ม ขมกลมกล่อม พร้อมกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์
King Coffee Espresso คือกาแฟดำสไตล์เวียดนามที่ตอบโจทย์คอกาแฟสายเข้ม ด้วยรสชาติที่มีความขมเข้มข้นและกลมกล่อม โดดเด่นด้วยกลิ่นหอมเฉพาะตัวจากเมล็ดกาแฟอราบิก้าคุณภาพเยี่ยม ซึ่งผ่านกระบวนการบดอย่างพิถีพิถัน ตัวกาแฟมาในรูปแบบซองสำเร็จรูป ชงง่ายและสะดวกต่อการพกพา
นอกจากจะมีไขมันต่ำเหมาะกับผู้ดูแลสุขภาพแล้ว ยังสามารถเติมน้ำตาล นมสด หรือครีมเทียมเพื่อเพิ่มรสชาติได้อีกด้วย กาแฟนี้มีบอดี้ที่แน่น ให้สัมผัสละมุน ช่วยเพิ่มความสดชื่นและกระตุ้นความกระปรี้กระเปร่า เหมาะสำหรับเริ่มต้นวันใหม่หรือเติมพลังในช่วงบ่าย ในราคาเพียง 106 บาท King Coffee Espresso เป็นตัวเลือกที่ลงตัวสำหรับคอกาแฟทุกคน!
9. กาแฟเวียดนาม Trung Nguyen Legend Classic
ราคา 168 บาท
กาแฟ 3 in 1 กลิ่นหอมละมุน รสชาติเข้มข้น พร้อมดื่มทุกที่ทุกเวลา
Trung Nguyen Legend Classic เป็นกาแฟ 3 in 1 ที่มอบความสะดวกสบายสำหรับคอกาแฟ ด้วยส่วนผสมของผงกาแฟสำเร็จรูป ครีมเทียม และน้ำตาลกลูโคสในปริมาณที่ลงตัว กาแฟนี้ผลิตจากเมล็ดกาแฟสดคุณภาพเยี่ยม โดยผ่านการคั่วและบดอย่างพิถีพิถัน พร้อมใช้เทคโนโลยีนาโนเพื่อรักษาความหอมและรสชาติที่เข้มข้น
แพ็คเกจมาในรูปแบบกล่องสีขาวหรูหรา บรรจุ 24 ซอง เหมาะสำหรับพกพาไปดื่มได้ทุกที่ เพียงชงกับน้ำร้อน 75 มิลลิลิตร ก็จะได้กาแฟรสกลมกล่อม หอมละมุนในทันที คุณสามารถเติมน้ำตาล นมสด หรือครีมเทียมเพิ่มเติมเพื่อรสชาติที่หลากหลาย หรือเพิ่มน้ำแข็งเพื่อเปลี่ยนเป็นกาแฟเย็นสดชื่นในราคาเพียง 168 บาท ถือเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าและตอบโจทย์ทั้งร้อนและเย็น!
10. กาแฟเวียดนาม G7 Espresso Coffee
ราคา 149 บาท
กาแฟ 3 in 1 รสชาติเข้มข้น กลิ่นหอมละมุน พกพาสะดวก ชงง่ายทุกที่ทุกเวลา
G7 Espresso Coffee เป็นกาแฟ 3 in 1 ที่เหมาะสำหรับคอกาแฟสายเข้มโดยเฉพาะ ตัวกาแฟถูกผลิตจากเมล็ดกาแฟคุณภาพเยี่ยมที่ผ่านการคั่วบดอย่างพิถีพิถัน ทำให้ได้รสชาติที่ขมเข้มแบบธรรมชาติ พร้อมบอดี้ที่หนาและสัมผัสละมุน
บรรจุในกล่องที่มีซองกาแฟจำนวน 15 ซอง พกพาสะดวกและเหมาะสำหรับชงดื่มได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นเมนูร้อนหรือเย็น สำหรับเมนูเย็น แนะนำให้ละลายกาแฟด้วยน้ำร้อนก่อนแล้วจึงเติมน้ำแข็งเพื่อให้รสชาติดียิ่งขึ้น สายสุขภาพยังดื่มได้สบายใจ เพราะปราศจากคอเลสเตอรอล และมีไขมันกับน้ำตาลในปริมาณต่ำ นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มน้ำตาล ครีมเทียม หรือนมสด เพื่อปรับรสชาติได้ตามใจ ราคาเพียง 149 บาท คุ้มค่าสำหรับคนรักกาแฟแบบเข้มข้น!
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับกาแฟเวียดนาม
1. กาแฟเวียดนามแตกต่างจากกาแฟทั่วไปอย่างไร?
กาแฟเวียดนามมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นทั้งในด้านรสชาติและวิธีการชง โดยส่วนใหญ่ใช้เมล็ดกาแฟโรบัสต้า (Robusta) ซึ่งมีรสชาติขมเข้มและคาเฟอีนสูงกว่ากาแฟอาราบิก้า (Arabica) นอกจากนี้ การชงกาแฟแบบดริป (Vietnamese Phin) ยังเป็นเอกลักษณ์ที่ช่วยเพิ่มความเข้มข้นและเนื้อสัมผัสที่นุ่มลึก อีกทั้งกาแฟเวียดนามยังนิยมดื่มคู่กับนมข้นหวาน ทำให้ได้รสชาติที่หวานมันเป็นพิเศษ
2. ทำไมกาแฟเวียดนามถึงนิยมใช้เมล็ดกาแฟโรบัสต้า?
เวียดนามเป็นผู้ผลิตเมล็ดกาแฟโรบัสต้ารายใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งเมล็ดชนิดนี้เติบโตได้ดีในสภาพอากาศและพื้นที่ของประเทศ กาแฟโรบัสต้าให้รสชาติที่เข้มข้นและคาเฟอีนสูง จึงเหมาะสำหรับการชงแบบดริปที่ต้องการดึงรสชาติที่หนักแน่นออกมา
3. Phin Filter คืออะไร?
Phin Filter เป็นอุปกรณ์ชงกาแฟแบบดั้งเดิมของเวียดนาม ลักษณะคล้ายแก้วโลหะที่มีตัวกรองสำหรับใส่ผงกาแฟและน้ำร้อน วิธีการชงนี้จะทำให้น้ำกาแฟหยดผ่านผงกาแฟอย่างช้า ๆ ซึ่งช่วยดึงรสชาติและกลิ่นของกาแฟออกมาอย่างเต็มที่
4. กาแฟเวียดนามมีแบบสำเร็จรูปหรือไม่?
ใช่ กาแฟเวียดนามมีแบบสำเร็จรูปที่สะดวกต่อการดื่ม เช่น กาแฟ 3-in-1 ซึ่งผสมกาแฟ น้ำตาล และนมข้นหวานไว้ในซองเดียว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลิ้มรสกาแฟเวียดนามแบบรวดเร็ว
5. กาแฟเวียดนามดื่มอย่างไรให้อร่อยที่สุด?
หนึ่งในวิธีที่นิยมคือการชงด้วย Phin Filter แล้วเติมนมข้นหวานเพื่อเพิ่มรสชาติ หรืออาจเติมน้ำแข็งเพื่อดื่มแบบเย็นที่สดชื่น อีกทางเลือกหนึ่งคือกาแฟไข่ (Egg Coffee) ซึ่งเป็นเมนูพิเศษที่ผสมไข่แดง ตีให้ฟูจนเนียนนุ่ม แล้วนำมาราดบนกาแฟร้อน
6. ควรเลือกซื้อกาแฟเวียดนามแบบไหน?
ควรเลือกกาแฟที่ตรงกับความต้องการของคุณ เช่น แบบเมล็ดกาแฟสำหรับคนที่ชอบบดเอง แบบบดสำเร็จสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวก หรือแบบสำเร็จรูปที่ง่ายต่อการชง นอกจากนี้ ให้พิจารณาแบรนด์ที่มีคุณภาพและตรวจสอบระดับการคั่วที่เหมาะกับรสนิยมของคุณ
7. กาแฟเวียดนามดีต่อสุขภาพหรือไม่?
กาแฟเวียดนามมีประโยชน์ต่อสุขภาพเช่นเดียวกับกาแฟทั่วไป เช่น ช่วยเพิ่มความตื่นตัวและกระตุ้นการเผาผลาญ แต่ควรบริโภคในปริมาณที่เหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมนูที่ใส่นมข้นหวาน อาจต้องระวังเรื่องปริมาณน้ำตาลที่สูง
8. สามารถใช้เมล็ดกาแฟเวียดนามกับเครื่องชงกาแฟแบบอื่นได้ไหม?
ได้ เมล็ดกาแฟเวียดนามสามารถใช้กับเครื่องชงกาแฟทั่วไป เช่น เครื่องเอสเพรสโซ่ เครื่องดริป หรือแม้แต่เครื่องชงแบบเฟรนช์เพรส แต่ควรปรับความละเอียดของผงกาแฟให้เหมาะสมกับเครื่องที่ใช้
9. กาแฟเวียดนามเหมาะสำหรับเป็นของฝากหรือไม่?
กาแฟเวียดนามเป็นของฝากที่ได้รับความนิยมมาก เนื่องจากมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ และมีผลิตภัณฑ์หลากหลายรูปแบบให้เลือก เช่น เมล็ดกาแฟ แพ็กเกจแบบดริป หรือกาแฟสำเร็จรูป
10. สามารถหาซื้อกาแฟเวียดนามได้ที่ไหน?
กาแฟเวียดนามสามารถหาซื้อได้ทั้งในซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านขายของนำเข้า หรือร้านค้าออนไลน์ที่นำเข้าสินค้าจากเวียดนามโดยตรง เช่น Shopee, Lazada หรือ Amazon
บทส่งท้าย
กาแฟเวียดนามเป็นมากกว่าเครื่องดื่ม ด้วยรสชาติที่เข้มข้น กลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ และวัฒนธรรมการดื่มที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ ตั้งแต่วิธีการชงแบบ Phin Filter ไปจนถึงเมนูพิเศษอย่างกาแฟไข่ ทุกแก้วสะท้อนถึงความประณีตและวิถีชีวิตของคนเวียดนาม หากคุณเป็นคนรักกาแฟ การลองสัมผัสกาแฟเวียดนามสักครั้งอาจเปิดประสบการณ์ใหม่ที่น่าจดจำและเติมเต็มความหลงใหลในโลกของกาแฟได้อย่างลงตัว