สวัสดีครับ เพื่อน ๆ คงคิดว่าการออกกำลังกายนั้นเป็นสิ่งที่ดี มีประโยชน์ ทำให้ร่างกายของเราแข็งแรงครับ ยิ่งถ้าเราออกกำลังกายในทุก ๆ วัน คงไม่เป็นอะไร ถ้าเกิดอาการเหนื่อยล้า พักสักหน่อยก็หายแล้ว แต่อันที่จริงแล้วครับ การพักผ่อนนั้น มีความสำคัญมาก ๆ มันไม่ใช่แค่นอนไม่พอเท่านั้นนะครับ แต่ว่าในวันหนึ่ง ๆ เราต้องเจอกับความเครียดมากมาย จากปัญหาเรื่องงาน ไหนจะปัญหาที่บ้านอีก
ยิ่งบางคนนะครับ อดนอน นอนน้อย พักผ่อนยังไม่เต็มที่เลย ก็ยังต้องฝืนตัวเองลุกขึ้นมาวิ่งตามตารางอีก แต่ว่าร่างกายจะไม่ไหวเอาครับ ต้องล้มป่วยกันไป ก็มีให้เห็นมากมายครับ เพื่อน ๆ ก็ต้องลองสังเกตตัวเองอยู่บ่อย ๆ นะครับ
หรืออาจจะหา Fitness Tracker อย่าง Samsung GearFit2 Pro ที่ช่วยในการเก็บข้อมูลส่วนตัวของเราครับ ทั้ง น้ำหนัก ประสิทธิภาพในการนอน อาหาร และน้ำที่เรากินเข้าไปในแต่ละวัน แถมยังมี Feature สำหรับดู Heart Rate วัด Performance ได้ด้วยครับ
ในส่วนของสัญญานต่อไปนี้ครับ ร่างกายของเราจะแสดงออกมาว่า มีอะไรบ้างที่ผิดปกติ ถ้าเพื่อน ๆ พบสัญญานดังกล่าวนะครับ วันนี้ทั้งวันอาจจะเป็นวันพักผ่อนของเพื่อน ๆ เลยก็ได้ พักผ่อน พักฟื้นให้คลายจากอาการเหนื่อยล้า ดีกว่าจะฝืนออกไปวิ่ง ในขณะที่เรายังไม่พร้อมนั่นเองครับ จะมีสัญญานอะไรที่เราต้องระวังบ้าง ไปดูกันเลย
อ่านเพิ่มเติม : รองเท้าวิ่งยี่ห้อไหนดี วิ่งมาราธอนได้ ที่น่าใช้ที่สุด ปี 2019
1. น้ำหนักตัวลดลงอย่างกะทันหัน
ถ้าเพื่อน ๆ พบว่า น้ำหนักขังตัวเองนั้น ลดลงไปมากกว่า 2% จากเมื่อวาน นั่นเป็นสัญญานบอกถึง ความผันผวนของระดับของเหลวในร่างกายของเราครับ มันอาจเป็นไปได้ครับว่า เพื่อน ๆ อาจจะดื่มน้ำไม่เพียงพอจากการออกกำลังกายเมื่อวาน ซึ่งนี่เป็นเหตุซึ่งเสี่ยงต่อภาวะ Dehydration ถ้าเพื่อน ๆ ฝืนออกไปวิ่งอีก
รูปจาก wingnaidee.com
ทางที่ดีครับ เพื่อน ๆ ควรหมั่นดูน้ำหนักของเราอยู่บ่อย ๆ ครับ ลองหา Fitness Tracker ที่เก็บข้อมูลส่วนตัว ทั้งเรื่องของน้ำหนักตัว และการดื่มน้ำครับ จะได้เตือนตัวเองได้ว่า น้ำหนักตัวของเราลดลงมากเกินไปไหม ดื่มน้ำเพียงพอแล้วหรือเปล่า
2. หัวใจเต้นแรงขึ้น
สำหรับการเต้นของหัวใจนั้น ถ้าเป็นไปได้ครับ เพื่อน ๆ ลองสำรวจตัวเองดูนะครับว่า อัตราการเต้นของหัวใจตอนเราพักผ่อน (Resting Heart Rate) ของตัวเรานั้นเป็นเท่าไร เราอาจจะลองวัดในตอนเช้าก่อนลุกจากที่นอนก็ได้ครับ ถ้าเกิดวันไหนเราจะออกไปวิ่ง
หากเรารู้สึกว่า หัวใจของเรามันเต้นเร็วเกินไป ลองวัดตราการเต้นของหัวใจเทียบกับ Resting Heart Rate ของเราดูครับ อัตราการเต้าของหัวใจที่ดูสูงเกินไป บางทีอาจจะเกิดจากความเครียดของเราก็ได้ครับ
ความเครียดนี้ เป็นได้ทั้งความเครียดของร่างกาย คือ ร่างกายถูกใช้งานหนักจนเกินกำลัง หรือความเครียดที่มาจากจิตใจ (Physical & Psychological Stress)ทั้งสองสาเหตุนี้ จะส่งผลให้หัวใจของเรา พยายามที่จะสูบฉีดโลหิตไปเลี้ยงกล้ามเนื้อ และสมองเพื่อให้ได้รับ Oxygen มากขึ้น ลองสำรวจตัวเองดูครับ ว่าวันนี้เราพร้อมออกไปวิ่งหรือเปล่า หรือเราเหนื่อยล้าเกิน วิ่งไม่ไหว ควรอยู่บ้านพักผ่อนจะดีกว่า
3. นอนหลับไม่เพียงพอ
ในการนอนหลับที่ดี หลับได้เพียงพอ และอยู่ในช่วงเวลาที่เหมาะสมนั้น จะทำให้ร่างกายของเราผลิต Growth Hormone มาทำการซ่อมแซมกล้ามเนื้อที่สึกหรอ หลังจากกล้ามเนื้อของเราถูกใช้งานมาอย่างหนักหน่วงได้ ถ้าหากเพื่อน ๆ พบว่าตัวเองนอนหลับไม่เพียงพอ หลาย ๆ วันติดต่อกัน นอกจาก Growth Hormone จะทำงานได้ไม่เต็มที่แล้ว ก็ยังส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกัน และการรับรู้ต่าง ๆ แย่ลงไปอีกด้วย
ยิ่งถ้าเพื่อน ๆ ฝืนตัวเอง ออกไปวิ่งตามรางฝึกอย่างเคยแล้ว แทนที่การวิ่งออกกำลังกาย จะช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรง อาจจะทำให้ร่างการของเราทรุดลงแทนก็ได้ครับ ทำงานหนักมาเพียงใด สิ่งที่ควรทำ คือการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอนะครับ จะเป็นการดีที่สุดเลย
4. อาการร่างกายขาดน้ำ
รูปจาก wingnaidee.com
เราสามารถสั่งเกตได้ง่าย ๆ เลยครับ ถ้าเราพบว่าปัสสาวะของเรา มีสีเหลืองเข้ม อันนี้นอกจากเพื่อน ๆ จะไปรับประทานวิตามิน หรืออาหารเสริมที่มีผลต่อสีของปัสสาวะนะครับ นี่อาจจะเป็นสัญญานบ่งบอกว่า ร่างกายของเราขาดน้ำได้ครับ
ยิ่งถ้าสีปัสสาวะเข้มขึ้นมากเท่าไร นั่นยิ่งอันตรายเลยครับ นั่นเป็นเพราะว่าร่างกายของเราต้องการน้ำมากนั่นเอง และต้องการพักผ่อนด้วย เพื่อน ๆ อาจจะหา Fitness Tracker อย่าง Samsung GearFit 2 Pro ที่สามารถบันทึกดูได้ว่า ในวันหนึ่ง ๆ เราดื่มน้ำได้มากน้อยแค่ไหน จะได้ช่วยเตือนเราในการดื่มน้ำให้เพียงพอ และในหลาย ๆ ครั้งครับ เราทำงานหนักจนลืมดื่มน้ำระหว่างวันก็มีครับ
5. ผลงานตกต่ำ
รูปจาก wingnaidee.com
ในส่วนของ Performance ของเรานั้น เป็นตัววัดที่ดีอย่างหนึ่งเลยครับ ที่ใช้วัดว่าเราอาจต้องการที่จะพักผ่อน มากกว่าการออกกำลังกาย สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่มี Fitness Tracker อาจบันทึก Performance หรือ เวลาวิ่งของเราเอาไว้ เพื่อที่จะได้รู้ว่าการวิ่งของเราดีขึ้น หรือแย่ลงอย่างไร
ถ้าเมื่อเพื่อน ๆ พบว่า Performance ของเรา ในการออกกำลังกายตกต่อเนื่อง ติดต่อกันหลาย ๆ วัน อาจไม่ได้หมายความว่าเราฝึกซ้อมไม่พอ ก้าวข้ามขีดจำกัดของความสามารถของเราไม่ได้นะครับ
แต่ว่านั่น อาจเป็นสัญญานบอกเราว่า ร่างกายของเรากำลังอ่อนล้า อ่อนเพลีย และต้องการการพักผ่อนที่เพียงพอ เพื่อที่จะได้กลับมาแข็งแรงสมบูรณ์เหมือนเดิม พร้อมกลับเข้าสู่สนาม เพื่อทำการฝึกซ้อมต่อไปครับ
สรุป
หลังจากที่เพื่อน ๆ ได้รู้ถึงสัญญานต่าง ๆ กันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะครับ ผมอยากแนะนำให้เพื่อน ๆ ครับ หมั่นคอยตรวจสอบดูตัวเองว่า เรามีสัญญานต่อไปนี้หรือไม่ ไม่ว่าเราจะทำการจดบันทึก หือหาตัวช่วยอื่น ๆ ก็ตาม
ในปัจจุบันนี้ครับ มีเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์มากมาย อย่างเช่น Fitness Tracke รุ่นใหม่ ๆ อย่างเจ้า Samsung Gear Fit2 Pro เจ้าตัวนี้ได้พัฒนาให้สามารถวัดได้มากกว่าผลงานวิ่ง แต่ก็ยังช่วยเราในการบันทึกกิจกรรม กับบันทึกข้อมูลส่วนตัวของเราไว้ และสามารถอ่านผลผ่านทางมือถทอด้วยแอป Samsung Health เพื่อให้เราสังเกตการเปลี่ยนแปลงได้นั่นเอง
ไม่ว่าผลงานของเราจะดีขึ้น หรือไม่ค่อยดี มีสัญญานที่อันตราย สุดท้ายจริง ๆ อยู่ที่ตัวเราครับ ว่าจะตัดสินใจพักผ่อนก่อน หรือจะฝืนลงไปวิ่งต่อ อย่าหลอกตัวเองเด็ดขาดนะครับ เราต้องรับรู้และยอมรับตัวเอง พร้อมกันนี้ ก็ต้องปรับเปลี่ยนและพัฒนาขึ้นด้วย ผมเชื่อครับว่าเพื่อน ๆ จะวิ่งดีดีขึ้น อึดขึ้น ไกลขึ้น พัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นอย่างแน่นอนครับ