แบตเตอรี่รถยนต์ เป็นอุปกรณ์สำคัญที่เราต้องดูแลรักษาเป็นอย่างดี เพราะแบตเตอรี่รถยนต์นี้จะช่วยในเรื่องของการสตาร์ทรถ การป้อนกระแสไฟฟ้าเพื่อใช้งานกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในรถยนต์ของเรา ทั้งระบบส่องสว่างภายในตัวรถ และภายนอกรถ ระบบเครื่องเสียงที่ติดตั้งอยู่ภาย และอุปกรณ์อื่น ๆ เมื่อใช้ไปสักระยะเวลาหนึ่งจนแบตเตอรี่หมดอายุแล้ว เราก็จะต้องซื้อแบตลูกใหม่มาเปลี่ยน บางคนอาจจะยังเลือกไม่ถูกว่า ควรเลือกแบตเตอรี่ยี่ห้อไหนดี
ในวันนี้ครับ ตังค์ทอน จะมาแนะนำ 10 อันดับ แบตเตอรี่รถยนต์ ยี่ห้อไหนดี คุณภาพเยี่ยม กำลังไฟเสถียร ทนทานใช้งานได้ เพื่อให้ทุกคนได้มีตัวเลือกที่ดี สามารถใช้งานได้มีประสิทธิภาพ และจะมาแนะนำวิธีการเลือกซื้อให้ทุกคนได้ทราบกันด้วย ถ้าใครที่กำลังมองหาแบตเตอรี่ลูกใหม่อยู่แล้วก็ สามารถหาคำตอบได้จากบทความนี้เลย
วิธีเลือกซื้อแบตเตอรี่รถยนต์ ต้องดูจากอะไรบ้าง?
ต่อไปเราจะมาดูกันว่าในการเลือกซื้อ แบตเตอรี่ มาใช้งานนั้น เราต้องพิจารณาปัจจัยใดบ้าง ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะได้เลือกได้อย่างถูกต้องเหมาะต่อการใช้งานนั่นเอง รายละเอียดจะมีดังต่อไปนี้
1. เลือกจากประเภทของแบตเตอรี่
ในปัจจุบันนั้นแบตเตอรี่จะสามารถแบ่งออกได้ 4 ประเภทใหญ่ ๆ ซึ่งก็จะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้
แบตเตอรี่แบบน้ำ หรือ แบตเตอรี่เปียก (Conventional Battery)
สำหรับแบบนี้จะมีความทนทานที่สูง สามารถใช้งานได้ดี ราคาประหยัด คุ้มค่าคุ้มราคา และถ้ามีการดูแลรักษาที่ดีแล้วด้วยล่ะก็ จะสามารถใช้งานได้อย่างยาวนานมากขึ้น
แบตเตอรี่แบบกึ่งแห้ง (Maintenance Free : MF)
สำหรับแบบกึ่งแห้งจะเป็นแบบที่ได้รับความนิยมมากที่สุด มีความคุ้มค่าคุ้มราคา เพราะมีการสูญเสียน้ำช้ากว่าแบบน้ำ ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และสามารถใช้งานได้นาน แบตแบบกึ่งแห้งนี้จึงเป็นตัวเลือกแรกที่คนนิยมซื้อมาใช้งานกัน
แบตเตอรี่แบบแห้ง (Sealed Maintenance Free : SMF)
ถ้าถามว่าแบตเตอรี่แบบไหนใช้งานได้ง่ายที่สุด ก็ต้องบอกเลยว่าเป็นแบบแห้ง สำหรับแบตประเภทนี้เป็นแบตที่มีความทนทานเป็นอย่างมาก ไม่จำเป็นต้องดูแลรักษามากก็ได้ มีอายุการใช้งานเฉลี่ยอยู่ที่ 1.5-2 ปี ทำให้เป็นแบตที่เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีเวลาดูแลรักษา
แบตเตอรี่แบบไฮบริด
แบบประเภทนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ทดแทนแบบน้ำที่มีการสตาร์ทสูงกว่า และมีอัตราการระเหยที่น้อยกว่าแบบน้ำและแบบกึ่งน้ำกึ่งแห้ง ที่ไม่ต้องคอยเติมน้ำกลั่นบ่อย ๆ สำหรับแบตเตอรี่แบบไฮบริดนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ใช้งานได้ดีเช่นเดียวกัน
2. เลือกจากขนาดและขั้วแบตเตอรี่
ให้คุณตรวจสอบพื้นที่ในรถของคุณว่าจะต้องใช้แบตเตอรี่ที่มีขนาดเท่าใดเพื่อที่จะสามารถใส่ได้อย่างพอดี และนอกจากนี้ รถแต่ละรุ่นก็จะมีตำแหน่งของขั้วแบตที่แตกต่างกันออกไปด้วย ถ้าเป็นขั้วซ้ายจะลงท้ายด้วยตัว L และถ้าเป็นขั้วขวาก็จะลงท้ายด้วยตัว R รวมไปถึงต้องดูด้วยว่าใช้แบบขั้วธรรมดาหรือขั้วจม ในส่วนนี้สามารถดูได้จากคู่มือของรถของคุณ
3. ตรวจสอบความจุและกำลังสตาร์ทที่เหมาะสม
ในส่วนของกำลังสตาร์ทนั้นจะวัดจากปริมาณกระแสไฟฟ้าที่แบตเตอรี่แบบกรดตะกั่วแต่ละก้อนสามารถส่งไปยังเครื่องยนต์ เพื่อทำการสตาร์ทรถ จำเป็นที่ต้องเลือกให้เหมาะสมกับรถของเราด้วย โดยทั่วไปแล้วรถยนต์จะใช้ความจุแบตเตอรี่ดังต่อไปนี้ รถคันเล็ก คือ 1,000-1,500 ซี.ซี. รถเก๋งขนาดกลาง-ใหญ่ คือ 1,500 -3,000 ซี.ซี. และ รถกระบะ หรือรถ คือ SUV 2,000-3,000 ซี.ซี.
10 อันดับ แบตเตอรี่รถยนต์ ยี่ห้อไหนดี ปี 2024 คุณภาพเยี่ยม มีทั้งแบบแห้ง แบบกึ่งแห้ง และแบบน้ำ
ทุกคนคงได้ทราบแล้วว่าวิธีการเลือกซื้อนั้นต้องพิจารณาอย่างไร เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งาน ต่อจากนี้ไป จะมาพบกับ 10 อันดับแบตเตอรี่รถยนต์ ที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ในตอนนี้ จะมีรุ่นไหนบ้างนั้นมาดูกันเลย
1. GS Battery รุ่น 46B24R-MF
ราคา 1,424 บาท
สำหรับรถเก๋ง กำลังไฟสตาร์ทสูง พร้อมใช้ในทันที
GS Battery รุ่น 46B24R-MF สำหรับยี่ห้อ GS Battery เป็นแบตเตอรี่ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่าง มั่นใจได้ในคุณภาพ โดยไม่ต้องดูแล มาพร้อมกับกำลังไฟสตาร์ทที่สูง ที่ติดตั้งแล้วพร้อมใช้งานได้ในทันที มีความทนทาน ไม่ต้องดูแลน้ำกลั่นตลอดอายุการใช้งาน เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีเวลาดูแลรถ ช่วยให้รถสามารถสตาร์ทติดได้ง่าย และรุ่นนี้ยังมีหูหิ้วคู่แบบพับมาให้ ทำให้สามารถขนย้ายได้อย่างสะดวก และการติดตั้งก็ไม่ยุ่งยาก
2. แบตเตอรี่รถยนต์ FB HYBRID F-135
ราคา 2,650 บาท
กำลังไปเสถียร เหมาะกับรถขนาดใหญ่ ทนทานแข็งแรง
แบตเตอรี่รถยนต์ FB HYBRID F-135 สำหรับแบตลูกนี้เหมาะสำหรับรถกระบะเครื่องยนต์ที่ใหญ่ มาพร้อมกำลังไฟแอมป์สูงถึง 85 แอมป์ ทำให้สามารถใช้งานกับรถที่ต้องการความแรง ทนทานต่องานหนัก ได้เป็นอย่างดี แบตลูกนี้ออกแบบมาให้น้ำกลั่นระเหยช้า ทำให้ไม่จำเป็นที่จะต้องเติมน้ำกลั่นทุกเดือน เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีเวลาดูแลรักษา รวมไปถึงก็ยังมีขั้วทั้ง L และ R มาให้ สามารถเลือกให้ตรงกับความต้องการได้เลย
3. แบตเตอรี่ AMARON รุ่น 55B24L HI-LIFE
ราคา 2,295 บาท
แบตอึดทน ใช้งานได้นาน จ่ายกระแสไฟฟ้าได้คงที่
แบตเตอรี่ AMARON รุ่น 55B24L HI-LIFE สำหรับแบตรุ่นนี้ เป็นแบบที่นำเข้ามาจากประเทศอินเดีย มาพร้อมกับประสิทธิภาพที่สูงกว่าทั่วไป โดยสามารถให้กระแสไฟฟ้าที่แรงกว่า 66 และคงทนกว่าถึง 70% มีทั้งแบบขั้ว L และขั้ว R มาให้เลือกใช้งานกัน สามารถใช้งานได้กับรถที่หลากหลาย สามารถสตาร์ทรถติดได้ง่าย ถึงแม้ว่าจะไม่ได้สตาร์ทเป็นเวลา และยังสามารถเก็บประจุไฟได้นานมากขึ้น ถ้าใครกำลังมองหาแบตที่ทนทาน รุ่นนี้ตอบโจทย์
4. GS แบตเตอรี่รถยนต์ รุ่น MFX-90L
ราคา 2,235 บาท
กำลังไฟแรง ทนต่อการกัดกร่อน ไม่จำเป็นต้องเติมน้ำกลั่น
GS แบตเตอรี่รถยนต์ รุ่น MFX-90L สำหรับแบตเตอรี่ GS รุ่นนี้ เป็นแบตอีกรุ่นหนึ่งที่มีความคุ้มค่าเป็นอย่างมากต่อการใช้งาน เหมาะสำหรับใช้งานรถญี่ปุ่น มาพร้อมกับกำลังการสตาร์ทที่อยู่ในระดับสูง สามารถให้กำลังไฟได้ค่อนข้างสูงเลยทีเดียว สามารถสตาร์ทรถได้ง่ายดาย การดูแลรักษาก็ถือว่าไม่ยุ่งยาก ไม่จำเป็นต้องเติมน้ำกลั่น ไม่ต้องดูแลรักษามาก็ได้ เพราะแบตเตอรี่นี้มีความทนทานเป็นอย่างมากอยู่แล้ว
5. แบตเตอรี่รถเก๋ง 3K รุ่น PMF50L / R
ราคา 1,425 บาท
คุณภาพสูง มีทั้งแบบขั้ว L และ R ไม่ต้องเติมน้ำกลั่น
แบตเตอรี่รถเก๋ง 3K รุ่น PMF50L / R สำหรับแบตเตอรี่ 3K นั้นแค่ชื่อก็สามารถมั่นใจได้ในคุณภาพแล้ว นั้นแค่ชื่อก็สามารถมั่นใจได้ในคุณภาพแล้ว โดยมาพร้อมกับยอดขายอันดับ 1 สำหรับแบตรุ่นนี้จะเป็นแบบกึ่งแห้ง สามารถดูแลรักษาได้ง่ายโดยไม่ต้องเติมน้ำกลั่นตลอดอายุการใช้งาน มาพร้อมกับแรงดันไฟฟ้า 12 โวลท์ความจุไฟฟ้า 50 แอม สามารถสตาร์ทรถได้อย่างง่าย เครื่องยนต์เดินเรียบ และยังเป็นแบบที่เหมาะสำหรับรถเก๋งอีกด้วย
6. แบตเตอรี่รถยนต์ Yuasa battery 50B24L/R
ราคา 1,410 บาท
แบตอึดทนทาน พร้อมใช้งานได้ทันที ไม่เกิดค่าขี้เกลือ
แบตเตอรี่รถยนต์ Yuasa battery 50B24L/R สำหรับแบตเตอรี่รุ่นนี้มีกำลังไฟที่สูงตลอดอายุการใช้งาน มีความทนทาน สามารถใช้งานหนัก ๆ ได้อย่างสบาย การดูแลรักษาง่ายไม่จำเป็นจะต้องดูแลน้ำกลั่นตลอดอายุการใช้งาน อีกทั้งก็ไม่ต้องวนเรื่องการเกิดคราบขี้เกลือหลังการติดตั้งด้วย โดยมาพร้อมกับฝาแบบ 2 ชั้นทำให้ปิดได้อย่างมิดชิด แบตรุ่นนี้จะช่วยให้คุณสามารถสตาร์ทรถติดได้ง่าย และมีกำลังการสตาร์ทที่สูง
7. แบตเตอรี่รถยนต์ FB รุ่น F 135
ราคา 2,655 บาท
อึดถึกทนทาน ใช้งานได้นาน 7 ปี มีทั้งขั้วแบบ R และ L
แบตเตอรี่รถยนต์ FB รุ่น F 135 แบตเตอรี่สำหรับรถปิคอัพทั่วไป โดยจะมีให้เลือกใช้งาน ทั้งแบบขั้ว แบบ R และ L สำหรับจุดเด่นของแบตรุ่นนี้คือมีความถึกทนสุด ๆ สามารถใช้งานได้อย่างยาวนานสูงสุด 7 ปีกันเลยทีเดียว สามารถทนทานต่อทุกสภาพอากาศและความชื้นได้เป็นอย่างดี ทำให้รถกระบะนิยมนำไปใช้งานกัน ถ้าใครที่ใช้งานรถกระบะหรือปิคอัพเป็นหลัก แบตเตอรี่รุ่นนี้เหมาะสมเป็นอย่างมาก
8. GS Battery รุ่น LN3 MF
ราคา 2,999 บาท
คุ้มค่าคุ้มราคา กำลังไฟสูง จ่ายไฟได้อย่างเสถียร
GS Battery รุ่น LN3 MF สำหรับจุดเด่นของแบตเตอรี่ GS รุ่นนี้เลยก็คือ CCA สูงถึง 790 ทำให้เหมาะแก่การใช้งานกับรถ SUV ขนาดใหญ่ และรถยุโรปต่าง ๆ มาพร้อมกับกำลังการสตาร์ทเครื่องยนต์ที่สูง สามารถจ่ายไฟได้อย่างสม่ำเสมอ การรักษาระดับแรงดันไฟก็ถือว่าอยู่ในระดับที่ดีมาก ตัวแบตมีความทนทานต่อแรงบีบอัดภายนอก ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน และรุ่นนี้มีขั้วแบตที่เป็นปลายคั่วเสมอกับหน้าแบบ รถที่มีสายจับขั้วสั้นสามารถจับได้ง่าย
9. แบตเตอรี่รถยนต์ 3K รุ่น Max95R
ราคา 2,125 บาท
จ่ายไฟได้อย่างเสถียร ดูแลรักษาง่าย เหมาะกับรถปิคอัพและรถกระบะ
แบตเตอรี่รถยนต์ 3K รุ่น Max95R สำหรับแบตรุ่นนี้ เป็นรุ่นที่มีคุณภาพที่ยอดเยี่ยม ทนทานแข็งแรง ทนทานแข็งแรง มาพร้อมความจุ 75 แอมป์ เหมาะสำหรับใช้งานกับรถกระบะ รถปิคอัพ และรถเก๋งขนาดใหญ่ เป็นแบบที่ดูแลรักษาได้ง่ายเพราะเป็นแบตกึ่งแห้ง สามารถจ่ายไฟได้อย่างเสถียร มีกำลังการสตาร์ทที่สูง อีกครั้งยังมีราคาที่เหมาะสม สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
10. แบตเตอรี่ NIKO NK135R
ราคา 2,040 บาท
ใช้กับรถได้อย่างหลากหลาย ติดตั้งได้ง่าย ทนทานสูง
แบตเตอรี่ NIKO NK135R มาพร้อมกับความจุ 70 แอมป์ เป็นแบตเตอรี่แบบน้ำแบบน้ำ (เติมน้ำกลั่น) มีความทนทานที่สูงเหมาะสำหรับใช้งานกับรถเก๋ง รถกระบะ รถตู้ และอีกหลายประเภท สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าได้อย่างเสถียร ช่วยให้รถสตาร์ทติดง่าย และยังมีการรับประกันสินค้ามาให้อีก 1 ปีด้วย
สัญญาณเตือนของแบตเตอรี่รถยนต์ที่ควรรู้
แบตเตอรี่นั้นมีระยะเวลาการใช้งานในตัวมันเอง แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าถึงเวลาที่เราจะต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่แล้ว สำหรับสัญญาณผิดปกตินั้นจะมีดังต่อไปนี้
1. เครื่องยนต์สตาร์ทติดยาก
ถ้าพบว่าเครื่องยนต์สตาร์ทติดได้ยาก ให้สันนิษฐานได้เลยว่าเกิดจากการที่แบตเตอรี่ในรถยนต์ของเรานั้นเสื่อมสภาพลงแล้วอย่างแน่นอน ยิ่งถ้าเราสตาร์ทอีกหลาย ๆ ครั้ง แล้วยังไม่ติด ก็สามารถมั่นใจได้เลยว่าแบตเสื่อมเรียบร้อยแล้ว ที่เป็นอย่างนั้นเพราะว่าไม่สามารถเก็บประจุไฟไว้ได้นั่นเอง ถึงเวลาเปลี่ยนรูปใหม่แล้ว
2. เกิดความผิดปกติกับระบบไฟในรถ
ในส่วนของความผิดปกติที่จะเกิดขึ้นในรถของเรา ก็จะมี ไฟสว่างน้อยลง ระบบไฟต่างๆดูแปลกไปจาก เวลาขับรถแล้วเปิดไฟกระพริบปรากฏว่าไฟกระพริบเร็วมากยิ่งขึ้น ที่เป็นอย่างนั้นก็เพราะว่าภายในแบตเตอรี่มีกระแสไฟฟ้าที่น้อยลงแล้ว นี่จึงเป็นอีกสัญญาณหนึ่งที่บอกให้เราต้องเปลี่ยนแบต
3. หน้าปัดรถยนต์จะมีไฟขึ้นเตือน
ถ้าที่หน้าปัดรถยนต์ของเรานั้นมีไฟเตือนเป็นรูปแบตเตอรี่อยู่ เมื่อเราทำการสตาร์ทเครื่องยนต์ไปเสร็จเรียบร้อยแล้ว ไฟเตือนก็จะหายไป แต่ถ้าไฟเตือนนั้นไม่หายไป ก็อาจจะมีสาเหตุเกิดขึ้น หนึ่งในนั้นเกิดจากการที่แบตเตอรี่เสื่อมสภาพอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นอย่าลืมตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย
บทส่งท้าย
เป็นอย่างไรกันบ้างครับได้รับทราบข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับแบตเตอรี่รถยนต์ที่เรานำมาฝากกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถูกใจกันหรือไม่ และถ้าใครที่กำลังประสบปัญหาแบตเตอรี่เสื่อม กำลังมองหาแบตเตอรี่ลูกใหม่ที่จะนำมาเปลี่ยนให้กับรถยนต์ของคุณ สามารถสั่งซื้อแบบออนไลน์โดยกดลิงค์ที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ได้เลย เมื่อกดสั่งซื้อแล้วก็รออยู่บ้านได้อย่างสบายใจ อีกไม่นานแบตเตอรี่ลูกใหม่ก็จะมาส่งถึงหน้าบ้านคุณ