สวัสดีครับเพื่อน ๆ กล้อง Mirrorless จิ๋วแต่แจ๋ว เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพ คงเป็นคำพูดที่เหมาะกับ Nikon 1 J5 มาก ๆ ครับ โดยรุ่นนี้เป็นรุ่นใหม่ล่าสุดจากค่าย Nikon ที่มาพร้อมกับสเปกที่น่าใช้มาก ๆ เลยครับ ต้องบอกว่ากล้อง Nikon 1 J5 นี้ปรับปรุงระบบจากเดิมมาค่อนข้างมากครับ เพื่อที่จะได้ตอบสนองต่อผู้ใช้งานได้มากขึ้นนั่นเอง
ครั้งนี้ครับเราได้ลองใช้งาน Nikon 1 J5 มาสักระยะหนึ่งแล้ว ก็ได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากเยอะพอสมควร เลยอยากที่จะมาแนะนำเพื่อน ๆ ว่ากล้องตัวนี้มีอะไรดีบ้าง เพื่อที่จะได้เป็นข้อมูลให้เพื่อนในการตัดสินใจซื้อ กล้อง Mirrorless เพื่อไว้ถ่ายรูปสวย ๆ ถ่ายวิดีโอเจ๋ง ๆ เวลาที่เราไปเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ ครับ
– 20.8 ล้านพิกเซลที่มีประสิทธิภาพ
– 105 ตรวจจับออโต้โฟกัสจุด
– 20 เฟรมต่อวินาทีถ่ายภาพต่อเนื่องด้วย AF-C
– 1080/60 จุดความสามารถวิดีโอและ 180 องศาเอียงหน้าจอสัมผัส
฿12,900
รายละเอียดของกล้อง Nikon 1 J5
สเปคกล้อง Nikon 1 J5
- 20.8 megapixel CX 1inch BSI CMOS sensor (13.2mm x 8.8mm)
- Nikon 1 series lens mount
- RAW + JPEG shooting, manual controls
- 3inch, 1037k dot tilting touchscreen
- Take full-resolution photos while recording video
- 1080p, fullHD video, electronic VR, 120fps at 720p
- 4K video recording at 14.99fps
- ISO160-ISO12800
- Wi-Fi and NFC connectivity, with remote shooting
- 20fps continuous shooting with continuous AF, 60fps fixed AF
- 105 phase detection AF points, 171 contrast detect AF points
- Built-in pop-up flash
- MicroSD card slot
ดีไซน์และการออกแบบ
รูปจาก techxcite.com
เรามาเริ่มดูกันเลยดีกว่าครับ ในส่วนของรูปร่างหน้าตาของเจ้า Nikon1 J5 ตัวนี้ออกแบบมาให้หน้าตาดูทันสมัยมากครับ แต่ก็ยังมีการเสริมความคลาสสิคให้กับตัวกล้อง ด้วยลายหุ้มหนุงรอบ ๆ ตัวบอดี้ ทำให้มีความสวยงาม ดูแล้วเป็นการผสมผสานของทรงเรทโทร กับกล้องดิจิตอลได้อย่างลงตัวเลยทีเดียว
แต่รวม ๆ ก็เหมือนจะขาด ๆ เกิน ๆ อยู่หน่อย ๆ ครับ ถ้าจะแบบสวย ๆ เท่ ๆ ไปเลยก็น่าจะมีกระโหลกกล้องนูนขึ้นมาครับ เอาแบบให้เป็นทรงกล้องแบบคลาสสิคให้สุด ๆ ไปเลย จะสวยกว่า แต่ตรงจุดนี้ก็แล้วแต่สไตล์แต่ละคนละกันครับ
รูปจาก techxcite.com
เจ้า Nikon1 J 5 ใช้เซ็นเซอร์ขนาด 13.2 มม., x8.8 มม. หรือที่ทาง Nikon เรียกว่า CX ครับ ซึ่งต้องบอกเลยครับว่ามันค่อนข้างที่จะเล็กไปหน่อย และยังเป็นจุดที่โดนโจมตีอยู่เสมอเลยครับ ว่าเป็นกล้องที่มีขนาดของเซนเซอร์เล็กกว่าคู่แข่งรุ่น ๆ อื่น ๆ ในท้องตลาด
แต่ก็ต้องอย่าลืมนะครับ ว่าด้วยเซนเซอร์ที่มีขนาดเล็ก ทำให้ตัวกล้องและเลนส์ย่อขนาดเล็กลงไปด้วยได้นั่นเองครับ นี่ถือเป็นข้อดีอย่างหนึ่งเลยทีเดียว
สำหรับ Nikon1 J5 ถ้าใคร ๆ เห็นนะครับ ก็ต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันแน่ ๆ ว่ามันเป็นกล้องที่มีขนาดเล็กมาก ๆ เบา บาง พกพาได้อย่างง่าย และสะดวกสุด ๆ เหมาะมากในการพกพาไปเที่ยวถ่ายรูปกันแบบชิว ๆ เลยครับ ในส่วนของความละเอียดของเซนเซอร์จะอยู่ที่ 20.8 ล้านพิกเซล ปรับตั้งค่า ISO ได้ตั้งแต่ 160 ถึง 12800 ซึ่งในส่วนของการใช้งานถือว่าเพียงพอครับ
ตัวเลนส์กล้อง Nikon 1 J5 ที่ได้มา
รูปจาก techxcite.com
ตัวเลนส์ที่ได้มาตั้งแต่แรกเลยครับ เป็นเลนส์ 1 Nikkor 10-30mm F3.5-5.6 VR ขนาดของเลนส์จะเล็กพอ ๆ กับตัวกล้องครับ ระบบการซูมจะเป็นแบบไฟฟ้าครับ เวลาที่เราได้เปิดกล้อง ตัวเลนส์มันจะยืดออกมาครับ พร้อมกันนี้หน้าเลนส์จะเปิดออกมาคล้ายกับกล้องคอมแพ็คครับ
ซึ่งในจุดนี้ ผมชอบมาก ๆ เลย เนื่องจากไม่ต้องมากังวลเรื่องฝาปิดหน้าเลนส์ และคนที่ใช้กล้องคอมแพ็คมาก่อนคงชอบครับ เพราะเราใช้แค่หมุนวงแหวนบนตัวเลนส์กล้องเท่านั้น ก็จะซูมเข้าออกในทิศทางที่เรากำหนดไว้ได้เลย แต่ถ้าเพื่อน ๆ คนไหนเคยใช้งานกล้องมาแล้ว อาจจะรู้สึกขัดใจนิดหน่อยนะครับ เพราะมันจะไม่ได้รวดเร็วเหมือนกับการที่เราใช้มือถือควบคุมนั่นเอง
หน้าจอ Nikon 1 J5
รูปจาก techxcite.com
จุดเด่นของ Nikon1 J5 อีกอย่างหนึ่งนะครับ คือ หน้าจอกล้องที่สามารถบิดพับได้ถึง 108 องศาครับ ซึ่งคงจะโดนใจเพื่อน ๆ ที่ชื่นชอบการเซลฟี่อย่างแน่นอน เพราะเพื่อน ๆ สามารถถือกล้องได้เองอย่างไม่ยากเย็นครับ แถมบอดี้ของกล้องก็มีความเล็กกะทัดรัดมาก ๆ ครับ ทำให้เพื่อน ๆ ใช้มือเดียวถ่ายรูปได้สบาย ๆ เลยครับ
รูปจาก techxcite.com
ในส่วนของหน้าจอ Nikon1 J5 เป็นแบบทัชสกรีน หน้าจอขนาด 3 นิ้ว ซึ่งทำงานได้อย่างสะดวกและลื่นไหลครับ โดยเฉพาะการเลือกจุดโฟกัสผ่านจอกล้อง ในเรื่องของสีสันและความคมชัดหน้าจอ ทำออกมาได้ดีมากครับ ส่วนปุ่มบริเวณด้านหลังของตัวกล้อง จะมีปุ่มควบคุมหลักครับ ไว้ใช้สำหรับการควบคุมกล้อง
แต่ว่าด้วยขนาดตัวกล้องที่เล็กครับ ก็อาจจะทำให้เพื่อน ๆ ที่มือใหญ่ใช้งานยากซักหน่อย โดยเฉพาะวงแหวนด้านหลัง จรงจุดนี้ต้องอาศัยความคุ้นเคยนิดนึงครับในการใช้งาน แต่ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรครับ น่าจะใช้งานได้อย่างไม่มีปัญหาอะไร
วัสดุที่นำมาใช้ผลิตตัวกล้อง และปุ่มการใช้งานต่าง ๆ
รูปจาก techxcite.com
ในส่วนของตัวกล้อง Nikon1 J5 นั้นจากสเปคบอกว่า โครงสร้างนั้นทำมาจากอะลูมิเนียม และแมกนีเซียมอัลลอยครับ ทำให้ตัวกล้องมีความแข็งแรงทนทาน หายห่วงเรื่องความแข็งแรงครับ น้ำหนักก็เบามาก แค่ 231 กรัม อันนี้ยังไม่รวมแบตนะครับ ก็ยังถือว่าเบาอยู่ดีครับ ซึ่งถือได้ว่าเป็นจุดเด่นของ Nikon 1 J5 เลยครับ
มีจุดที่น่าสังเกตอีกอย่างนะครับ คือ ขนาดของกริป ขนาดของมันออกจะเล็กไปหน่อย ไม่นูนออกมาครับ ทำให้เวลาเราใช้งานเหมือนจะจับไม่ค่อยถนัดครับ
รูปจาก techxcite.com
มาถึงด้านข้างของกล้องกันบ้าง อีกด้านหนึ่งนั้น จะเป็นพอร์ตเชื่อมต่อต่าง ๆ ครับ เช่น USB และ HDMI และก็ยังมีปุ่มเปิดแฟลชอยู่ด้วยครับ อีกทั้งยังได้มีการเพิ่มฟีเจอร์เข้าไปอีกทั้ง Wifi และ NFC เพื่อใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนของเพื่อน ๆ ได้อย่างสะดวกมากครับ โดยเฉพาะการแชร์ไฟล์ถือว่าทำได้อย่างง่ายดายสุด ๆ ครับ
รูปจาก techxcite.com
สำหรับด้านบนของตัวกล้องครับ ตรงด้านขวาจะมีก้านเปิดปิดกล้อง รวมถึงปุ่มชัตเตอร์ แล้วก็จะมีวงแหวนไว้ใช้ควบคุมกล้อง ที่มีปุ่มอัดวิดีโอจะมีจุดสีแดงในตำแหน่งดังกล่าว เวลาเพื่อน ๆ จะใช้งานวงแหวนควบคุมกล้อง เพื่อน ๆ ต้องใช้นิ้วโป้งในการหมุนครับ
แต่ในส่วนอัดวิดีโอ ใช้นิ้วชี้ควบคุมปุ่มจะดีกว่า ถนัดกว่าครับ พร้อมกับวงแหวนในการเลือกโหมดการถ่ายรูป ทั้งหมดนี้ทำให้เราใช้งานได้อย่างรวดเร็วและสะดวกมาก ๆ ครับ
ด้านบนของตัวกล้อง Nikon1 J5 ตรงส่วนบริเวณด้านขวานั้น มีก้านเปิด-ปิดกล้องรวมถึงปุ่มชัตเตอร์ และมีวงแหวนสำหรับควบคุมกล้องที่มีปุ่มอัดวีดีโอจุดสีแดงในตำแหน่งดังกล่าว เวลาใช้งานวงแหวนควบคุมกล้องต้องใช้นิ้วโป้งหมุน แต่สำหรับปุ่มอัดวีดีโอนั้นใช้นิ้วชี้จะสะดวกกว่า พร้อมกับวงแหวนเลือกโหมดการถ่ายภาพซึ่งใช้งานได้สะดวกและรวดเร็ว
รูปจาก techxcite.com
มาดูด้านบนของตัวกล้องกันแบบเต็ม ๆ ครับ การออกแบบเรียบง่ายดีครับ แถมยังซ่อนแฟลชเอาไว้ในตัวกล้องได้อย่างเนียนมาก ซ่อนไว้ตรงด้านซ้ายของตัวกล้อง ดูสบายตาดีครับ จะขัดใจอยู่นิดหน่อยตรงปุ่มอัดวิดีโอที่อยู่ตรงด้านหลังครับ เพราะมันเหมือนจะกดยากอยู่หน่อย ๆ
แต่เจ้า แต่ Nikon1 J5 ก็ทดแทนมาด้วยคุณสมบัติการถ่ายวิดีโอระดับ 4K มาให้เลยครับ ถ้าดูจากสเปคที่มาตั้งแต่แรกสามารถถ่ายวิดีโอ 4K ได้ในความเร็ว 15p ซึ่งดูที่ตัวเลขมันอาจจะดูน้อยไปหน่อยสำหรับเฟรมเลทนี้ครับ ในส่วนการถ่ายวิดีโอจะเป็นแบบ Full HD ทำได้ยอดเยี่ยมมาก ๆ เลยครับ ด้วยเฟรมเรท 60p ครับ
รูปจาก techxcite.com
มาดูด้านล่างกันบ้างครับ เราจะพบกับช่องใส่แบตเตอรี่ ซึ่งความจุแบตรุ่นนี้จะอยู่ที่ 850 mAh จากสเปคที่ระบุมาบอกว่า ถ่ายรูปได้ประมาณ 230 รูป ซึ่งหลังจากได้ลองใช้งานจริงก็ได้ประมาณนั้นจริง ๆ ครับ แต่ถ้าเพื่อน ๆ คนไหน ต้องการพกกล้องนี้ไปท่องเที่ยวถ่ายรูป ก็ควรที่จะพกแบตสำรองไปด้วยนะครับ
จะได้มีแบตใช้อย่างไม่ขาดตอน สามารถถ่ายรูปเล่นได้ตลอดทั้งวัน และตรงจุดนี้ยังเป็นช่องใส่การ์ด Micro SD ใครมี SD Card อยู่คงต้องเปลี่ยนใหม่
ระบบอื่น ๆ ที่เป็นจุดขายของ Nikon1 J5
รูปจาก techxcite.com
ในส่วนของระบบอื่น ๆ ที่เป็นจุดขายของ Nikon1 J5 ก็เห็นจะเป็นเรื่องระบบออโต้โฟกัสที่มีความรวดเร็วครับ เพราะว่ากล้องรุ่นนี้มาพร้อมกับระบบ AF แบบไฮบริด 171 จุด ทำให้ครอบคลุมเกือบทั้งเฟรม พร้อมกับมีระบบออโต้โฟกัสแบบ phase-detection 105 จุด ซึ่งบอกได้เลยครับว่าระบบ phase detectionเป็นระบบโฟกัสที่มีความสามารถ จับโฟกัสภาพได้อย่างรวดเร็วมาก ๆ
หลังจากที่ได้ใช้งานจริง ๆ พบว่า Nikon 1J5 นี้ สามารถจับโฟกัสภาพได้อย่างรวดเร็วมากจริง ๆ สมกับที่โฆษณาเอาไว้เลย เพราะว่าด้วยจุดโฟกัสที่เยอะมา ๆ ทำให้เวลาเราถ่ายรูปก็จะสามารถจับโฟกัสได้ง่ายขึ้นนั่นเอง
พร้อมทั้งมีระบบการถ่ายภาพต่อเนื่องเร็วถึง 20 รูปต่อวินาที รัวชัตเตอร์กันเป็นชุดเลย แถามยังอัพเกรดให้ปรับตั้งค่าไปอยู่ที่ 60รูปต่อวินาทีได้อีกด้วย แต่การที่จะปรับตรงนี้เราต้องใช้โหมดถ่ายรูปกีฬานะครับถึงจะสามารถใช้ได้
ตัวอย่างภาพ และสรุปการใช้งานจริงของกล้อง Nikon1 J5
รูปจาก techxcite.com
หลังจากที่นำกล้องไปใช้งานนอกสถานที่ ความประทับใจแรกที่อยากพูดถึง คือ ขนาดและน้ำหนักของตัวกล้องครับ เป็นกล้องที่มีความเบาสบายมาก ๆ พกพาง่าย ไม่ได้ลำบากอะไรเลย ถือได้ว่าเป็น กล้อง Mirrorless ที่มีขนาดของตัวกล้องเล็กจริง ๆ และนอกจากนี้ครับ ระะการโฟกัสจับภาพก็ทำงานได้ดีมากด้วย เรียกได้ว่าประสิทธิภาพคับแก้วเลย
ถ้าหากเพื่อน ๆ เป็นมือใหม่หัดถ่ายรูป ไม่ต้องกังวลไปเลยครับ ด้วยความสามารถของกล้องรุ่นนี้ จะทำให้เพื่อน ๆ สามารถถ่ายรูปสวย ๆ ได้อย่างง่ายดายเลย รวมทั้งยังมีฟิลเตอร์ต่าง ๆ ให้เลือกเล่นอีกมากมาย และสามารถปรับแต่งได้ง่าย ๆ ด้วยระบบจอสัมผัสที่หน้าจอกล้องครับ
รูปจาก techxcite.com
ในส่วนของไฟล์รูปนั้น รุ่นนี้ทำออกมาได้อย่างดีเลยครับ ถึงแม้ขนาดเซนเซอร์จะเล็กกว่ากล้องแบรนด์คู่แข่ง แต่สำหรับไฟล์รูปนั้น ยอมรับเลยครับว่าทาง Nikon พัฒนาได้ดีมากจริง ๆ เรื่องเสียง Noise หรือสีสันที่ออกมา ถือว่าแข่งกับรุ่นอื่น ๆ ได้อย่างสบายมากครับ
รูปจาก techxcite.com
สำหรับเรื่อง White Balance แบบออโต้ครับ ถือว่าทำงานได้ค่อนข้างดีครับ เมื่อเจอกับสภาพแสงที่ยาก ๆ หรือสถานที่ที่มีแสงไฟสังเคราะห์ต่าง ๆ กล้องรุ่นนี้สามารถเลือก White Balance ที่ค่อนข้างตรงกับความเป็นจริงได้ และไม่เพี้ยนด้วย ตรงนี้ถือว่าสอบผ่านครับ
รูปจาก techxcite.com
จากการที่ได้ถ่ายรูปตามสถานที่จริงแล้วพบว่า จุดหนึ่งที่น่าสนใจมาก ๆ ของกล้องรุ่นนี้ คือการทำงานที่รวดเร็วครับ ไล่ตั้งแต่การเปิดกล้องไปเลย จนถึงการถ่ายรูปเสร็จ จุดนี้ต้องยอมรับจริง ๆ ครับว่ากล้องตัวนี้ได้แก้ไขข้อบกพร่องของ กล้อง Mirrorless ที่มักจะทำงานช้า
คือ กว่าจะเปิดกล้อง กว่าระบบโฟกัสจะทำงาน จนถึงการชัตเตอร์ถ่ายรูป จุดนี้ทาง Nikon ทำการบ้านมาได้อย่างดีมากทีเดียว ขั้นตอนต่าง ๆ ทำได้รวดเร็ว ทำให้ไม่พลาดการถ่ายรูปสำคัญ ๆ ครับ
รูปจาก techxcite.com
อีกอย่างที่ถูกใจมาก ๆ นั่นคือ กล้องรุ่นนี้มีระบบถ่ายรูปที่ทำได้ง่าย และสะดวกครับ โดยเฉพาะโหมดลูกเล่นต่าง ๆ ที่มีมาให้ ไม่ว่าจะเป็นโหมดถ่ายรูปกีฬา โหมด Motion snapshot ที่รูปนิ่งและถ่ายวีดีโอ หรืออีกโหมด Best moment capture ที่จะทำการรัวชัตเตอร์ความเร็วสูง จากนั้นค่อยมาเลือกรูปที่ดีที่สุดตอนหลัง อันนี้เจ๋งสุด ๆ ไปเลยครับ
รูปจาก techxcite.com
ส่วนเพื่อน ๆ คนไหน ที่ชอบการถ่ายรูปแปปหน้าชัดหลังเบลอ ไม่ต้องห่วงเลยครับ กล้องรุ่นนี้จัดให้เพื่อนได้อย่างสาสมใจเลยทีเดียว ยิ่งถ้าจับคู่กับเลนส์ที่มีรูรับแสงกว้าง ๆ อย่างเลนส์ 1 NIKKOR 18.5 มม. f/1.8 รับรองได้ว่ายอดเยี่ยมมาก ๆ เลยครับ
รูปจาก techxcite.com
สุดท้ายเรื่องการถ่ายรูปในที่มีแสงน้อย ก็ต้องบอกว่า ไม่ใช่ปัญหาสำหรับกล้องตัวนี้เลยครับ เพราะสามารถโฟกัสในที่มดได้ และมีการจัดการในเรื่อง Noise สำหรับกล้องตัวนี้สบายหายห่วงครับ ถ้าเพื่อน ๆ กำลังมองหากล้องเล็ก ๆ ดี ๆ พกพาง่าย ตัวนี้เพื่อน ๆ จะไม่ผิดหวังแน่นอนครับ
ข้อดี
- ตัวกล้องเล็กมีความแข็งแรงมาก
- ทำงานได้รวดเร็ว สามารถถ่ายรูปสวย ๆ ด้วยระบบอัตโนมัติได้อย่างง่ายดาย
- มีระบบ Wi-Fi และ NFC มาให้ใช้งาน
- สามารถบิดพับหน้าจอเพื่อถ่ายเซลฟี่ได้สะดวก
- ระบบโฟกัสและถ่ายรูปได้ต่อเนื่องรวดเร็ว
ข้อสังเกต
- ตัวเครื่องจับไม่ค่อยถนัดนัก
- ปุ่มต่าง ๆ ออกแบบมาให้ใช้ไม่ค่อยสะดวกนัก
- ระบบการถ่ายวิดีโอ 4K ยังไม่สามารถใช้จริงจังได้
สรุป
รูปจาก techxcite.com
เพื่อน ๆ ก็ได้ทราบข้อมูลต่าง ๆ ของ Nikon 1 J5 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เป็นอย่างไรบ้างครับโดนจนเพื่อน ๆ กันมั้ย ข้อมูลทั้งหมดที่เพื่อน ๆ ได้ไปคงจะช่วยในการตัดสินใจ ในการเลือกซื้อ กล้อง Mirroress ได้เป็นอย่างดีนะครับ
ซึ่งถ้าจะสรุปออกมาเลยว่า กล้องตัวนี้เหมาะกับใครบ้าง ก็คงบอกได้เลยครับว่า เหมาะกับเพื่อน ๆ ตั้งแต่ระดับมือใหม่ ไปจนถึงคนที่ชอบถ่ายรูปแบบจริงจังเลย รวมไปถึงเพื่อน ๆ ที่ต้องการกล้องคุณภาพสูงกว่ากล้องแบบคอมแพ็ค หรือกล้องจากสมาร์ทโฟน แต่ว่าสามารถพกพาได้ง่ายกว่านั่นเอง
กล้องรุ่นนี้ สามารถตอบโจทย์เพื่อน ๆ ทั้งเรื่องของบอดี้กล้อง และคุณภาพที่ได้จากการถ่าย รวมทั้งยังมีลูกเล่นต่าง ๆ มากมายที่เพื่อน ๆ สามารถสร้างสรรค์ภาพสวย ๆ ได้ตามที่ใจเราต้องการได้อย่างไร้ขีดจำกัดอีกด้วย ถ้าเพื่อน ๆ ตัดสินใจแล้วก็สามรถไปจับจองเป็นเจ้าของกันได้นะครับ รับรองว่าเพื่อน ๆ จะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอนครับ และถ้าเพื่อน ๆ ต้องการดู กล้อง Mirroress ตัวอื่นเพิ่มเติมดูได้ที่ กล้อง Mirroress ตัวไหนดี 2019 ได้เลยครับ
ขอบคุณข้อมูลจาก : www.techxcite.com