กระเป๋าเดินทางขนาด 20 นิ้ว เป็นหนึ่งในไอเทมสำคัญสำหรับนักเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นทริปทำงาน ทริปท่องเที่ยวสุดสัปดาห์ หรือแม้แต่การเดินทางระยะสั้นที่ต้องการความคล่องตัว ด้วยขนาดที่กะทัดรัด สามารถพกพาขึ้นเครื่องได้โดยไม่ต้องโหลดสัมภาระ จึงช่วยประหยัดเวลาและลดความยุ่งยากในการเดินทาง นอกจากนี้ กระเป๋าเดินทาง 20 นิ้ว ยังมีหลากหลายดีไซน์ วัสดุ และฟีเจอร์ เช่น ระบบล้อหมุน 360 องศา วัสดุแข็งแรงทนทาน และระบบล็อกเพื่อความปลอดภัย
หากคุณกำลังมองหากระเป๋าเดินทาง 20 นิ้วที่เหมาะกับสไตล์และการใช้งานของคุณแล้วล่ะก็ ในบทความนี้ ตังค์ทอน จะมาแนะนำ 10 อันดับ กระเป๋าเดินทาง 20 นิ้ว คุณภาพดี น่าใช้งาน มาให้คุณได้เลือกกัน รวมทั้งเราก็มีวิธีการเลือกซื้อมาฝากด้วย เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกกระเป๋าที่ตอบโจทย์ที่สุดสำหรับทุกทริปของคุณ
วิธีเลือกซื้อกระเป๋าเดินทาง 20 นิ้ว – คู่มือฉบับละเอียดสำหรับมือใหม่
กระเป๋าเดินทางเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญสำหรับนักเดินทางทุกคน ไม่ว่าจะเป็นทริปสั้น ๆ หรือทริปยาว การมีกระเป๋าที่เหมาะสมสามารถช่วยเพิ่มความสะดวกและลดปัญหาต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นระหว่างเดินทาง กระเป๋าเดินทางขนาด 20 นิ้วได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากมีขนาดพอเหมาะ พกพาสะดวก และสามารถนำขึ้นเครื่องบินได้โดยไม่ต้องโหลดสัมภาระ
แต่สำหรับผู้ที่ไม่มีประสบการณ์ในการเลือกซื้อกระเป๋าเดินทางมาก่อน อาจไม่แน่ใจว่าควรเลือกแบบไหนให้เหมาะกับการใช้งานของตนเอง ในบทความนี้ เราจะอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับปัจจัยที่ควรพิจารณา เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกกระเป๋าเดินทางที่ตอบโจทย์มากที่สุด
1. ประเภทของกระเป๋าเดินทาง : แบบแข็ง vs. แบบผ้า
กระเป๋าเดินทางสามารถแบ่งออกเป็นสองประเภทหลัก ได้แก่ กระเป๋าเดินทางแบบแข็ง (Hard Case) และ กระเป๋าเดินทางแบบผ้า (Soft Case) ซึ่งแต่ละประเภทมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน
- กระเป๋าเดินทางแบบแข็ง : มักผลิตจากวัสดุเช่น ABS, Polycarbonate (PC), Polypropylene (PP) หรือ Aluminum ซึ่งให้ความแข็งแรงและทนทานต่อแรงกระแทกได้ดี นอกจากนี้ กระเป๋าแบบแข็งยังสามารถกันน้ำและกันฝุ่นได้ดีกว่า ทำให้เหมาะสำหรับการเดินทางไปในสถานที่ที่อาจต้องเจอกับฝนหรือสภาพอากาศที่ไม่แน่นอน อย่างไรก็ตาม กระเป๋าประเภทนี้มักมีน้ำหนักมากกว่ากระเป๋าแบบผ้า และมีความยืดหยุ่นในการขยายพื้นที่เก็บสัมภาระน้อยกว่า
- กระเป๋าเดินทางแบบผ้า : ทำจากวัสดุอย่าง Polyester หรือ Nylon ซึ่งมีความยืดหยุ่นสูงและน้ำหนักเบา นอกจากนี้ กระเป๋าประเภทนี้มักมีช่องซิปด้านหน้าเพิ่มเติม ทำให้สามารถจัดเก็บของได้สะดวกขึ้น อย่างไรก็ตาม กระเป๋าแบบผ้าอาจไม่ทนต่อแรงกระแทกและไม่สามารถกันน้ำได้ดีเท่ากระเป๋าแบบแข็ง อีกทั้งยังมีโอกาสที่เนื้อผ้าจะเกิดรอยขีดข่วนหรือฉีกขาดได้ง่ายขึ้น
2. วัสดุของกระเป๋าเดินทาง: ความแข็งแรงและน้ำหนักที่ต้องพิจารณา
วัสดุที่ใช้ในการผลิตกระเป๋าเดินทางมีผลโดยตรงต่อความแข็งแรง น้ำหนัก และความทนทานของกระเป๋า วัสดุยอดนิยมที่ใช้ในกระเป๋าแบบแข็งมีดังนี้:
- ABS (Acrylonitrile Butadiene Styrene) : เป็นวัสดุที่มีน้ำหนักเบาและราคาประหยัด แต่มักมีความทนทานน้อยกว่าวัสดุอื่น อาจเกิดรอยขีดข่วนและแตกหักได้ง่าย
- Polycarbonate (PC) : เป็นวัสดุที่มีความแข็งแรงและยืดหยุ่นสูง สามารถทนต่อแรงกระแทกได้ดี และลดโอกาสที่กระเป๋าจะแตกหัก ทำให้เป็นตัวเลือกยอดนิยมของนักเดินทาง
- Polypropylene (PP) : เป็นวัสดุที่มีน้ำหนักเบาที่สุดในกลุ่มวัสดุแบบแข็ง และมีความแข็งแรงทนทานพอสมควร จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการกระเป๋าน้ำหนักเบาแต่ยังคงมีความแข็งแรง
- Aluminum : เป็นวัสดุที่แข็งแรงที่สุด ทนต่อแรงกระแทกและการกดทับได้ดีมาก มีดีไซน์ที่ดูหรูหราและมีความทนทานสูงสุด แต่มีน้ำหนักมากกว่าวัสดุอื่นและมักมีราคาสูง
3. ระบบล้อ: ลื่นไหลและทนทาน
ระบบล้อของกระเป๋าเดินทางเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ลากกระเป๋าได้ง่ายและสะดวก โดยมีให้เลือกหลัก ๆ สองประเภท ได้แก่ ล้อ 2 ล้อ (Inline Wheels) และ ล้อ 4 ล้อ (Spinner Wheels)
ล้อ 2 ล้อ มีความแข็งแรงและทนทานมากกว่า สามารถลากไปข้างหน้าและถอยหลังได้อย่างมั่นคง แต่ไม่สามารถหมุนได้ 360 องศา ในขณะที่ล้อ 4 ล้อสามารถหมุนได้รอบทิศทาง ทำให้เคลื่อนที่ได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะในสนามบินหรือพื้นที่เรียบ
อย่างไรก็ตาม ล้อ 4 ล้ออาจมีความทนทานน้อยกว่าเมื่อต้องลากผ่านพื้นผิวขรุขระ ดังนั้น หากต้องเดินทางในเมืองที่มีพื้นถนนไม่เรียบ ควรเลือกกระเป๋าที่มีล้อคุณภาพดีและแข็งแรง
4. ระบบล็อก: ปลอดภัยจากการโจรกรรม
ระบบล็อกของกระเป๋าเดินทางมีบทบาทสำคัญในการปกป้องของมีค่า โดยปัจจุบันมีให้เลือกหลายแบบ เช่น ซิปล็อกธรรมดา รหัสล็อกแบบ Built-in และที่นิยมมากที่สุดคือ TSA Lock (Transportation Security Administration Lock) ซึ่งเป็นระบบล็อกมาตรฐานที่สามารถปลดล็อกโดยเจ้าหน้าที่สนามบินได้ในกรณีที่ต้องตรวจสอบสัมภาระ หากเดินทางไปต่างประเทศ ควรเลือกกระเป๋าที่มี TSA Lock เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดจากการงัดแงะของเจ้าหน้าที่ตรวจสัมภาระ
5. ช่องเก็บของและฟังก์ชันเสริม
ช่องเก็บของภายในกระเป๋ามีความสำคัญในการช่วยจัดระเบียบสัมภาระ ควรเลือกกระเป๋าที่มีช่องแยกสัดส่วน เช่น ช่องสำหรับเสื้อผ้า ช่องสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และช่องซิปสำหรับเก็บของสำคัญ นอกจากนี้ ซิปขยายขนาด (Expandable Zipper) ก็เป็นฟังก์ชันที่ช่วยเพิ่มพื้นที่จัดเก็บได้หากต้องใส่ของมากขึ้น
6. น้ำหนักของกระเป๋า: ไม่หนักเกินไป พกพาสะดวก
น้ำหนักของกระเป๋าเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อความสะดวกในการพกพา โดยทั่วไปควรเลือกกระเป๋าที่มีน้ำหนักไม่เกิน 2.5 – 3.5 กิโลกรัม เพื่อให้สามารถใส่ของได้มากขึ้นโดยไม่ทำให้สัมภาระหนักเกินไป
10 อันดับ กระเป๋าเดินทาง 20 นิ้ว ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 ทันสมัย ทนทานต่อแรงกระแทก ระบายอากาศได้ดี
กระเป๋าเดินทาง 20 นิ้ว เหล่านี้เป็นที่นิยมและมาจากแบรนด์คุณภาพหลากหลายแบรนด์ ค้นหากระเป๋าที่เหมาะกับคุณที่สุดได้จากรีวิวด้านล่าง
1. SAMSONITE กระเป๋าเดินทางล้อลาก 20นิ้ว รุ่น MINTER SPINNER
ราคา 11,815 บาท
ดีไซน์มินิมอล แข็งแรงทนทาน มาพร้อมซิปกันขโมยและล้อคู่กันสะเทือน
หากคุณกำลังมองหากระเป๋าเดินทางที่ทั้งสวย ทนทาน และปลอดภัย SAMSONITE รุ่น MINTER SPINNER ขนาด 20 นิ้ว คือตัวเลือกที่ตอบโจทย์ ด้วยดีไซน์มินิมอลสุดพรีเมียม วัสดุแข็งแรงพร้อมซิปกันขโมยที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทาง ล้อคู่หมุนได้ 360 องศา เสริมด้วยระบบ Aero-Trac ที่ช่วยดูดซับแรงกระแทก ทำให้ลากกระเป๋าได้อย่างนุ่มนวลบนทุกพื้นผิว ลดแรงสั่นสะเทือนขณะเคลื่อนที่
ระบบล็อก TSA 008 แบบฝังช่วยปกป้องสัมภาระจากการถูกงัดแงะ พร้อมตัวดึงซิปแบบแม่เหล็กที่ใช้งานสะดวกแม้มือเดียว ภายในกระเป๋ามีแผ่นกั้นแบบซิปและสายรัดแบบไขว้ เพื่อช่วยจัดระเบียบสิ่งของให้เป็นระเบียบและประหยัดพื้นที่ เหมาะสำหรับนักเดินทางที่ต้องการทั้งความปลอดภัยและฟังก์ชันครบครันในใบเดียว!
2. AMERICAN TOURISTER กระเป๋าเดินทางล้อลาก (20นิ้ว) รุ่น LINEX SPINNER
ราคา 3,675 บาท
ระบบล็อก TSA ฝังตัว พื้นผิวกันรอย ล้อคู่ลื่นไหล รองรับน้ำหนักได้ดี
AMERICAN TOURISTER รุ่น LINEX SPINNER ขนาด 20 นิ้ว เป็นกระเป๋าเดินทางที่ตอบโจทย์ทั้งความปลอดภัยและความทนทาน ด้วยระบบล็อก Recessed TSA Lock ที่ฝังอยู่ในตัวกระเป๋า ช่วยป้องกันสัมภาระจากการถูกงัดแงะและเพิ่มความสะดวกเมื่อต้องผ่านด่านตรวจสอบ พื้นผิวกระเป๋าผลิตจากวัสดุพิเศษที่ช่วยป้องกันรอยขีดข่วน ทำให้ดูใหม่แม้ใช้งานเป็นเวลานาน
อีกหนึ่งจุดเด่นคือ ล้อคู่คุณภาพสูง ที่รองรับน้ำหนักได้ดีเยี่ยม ทำให้ลากกระเป๋าได้อย่างราบรื่นและมั่นคง แม้บรรจุของเต็ม ความจุภายในออกแบบมาให้มีช่องจัดเก็บหลากหลาย สามารถจัดสัมภาระได้อย่างเป็นระเบียบและหยิบใช้ได้ง่าย ในราคาที่คุ้มค่า รุ่นนี้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับนักเดินทางที่ต้องการความสะดวก แข็งแรง และฟังก์ชันครบครันในราคาย่อมเยา!
3. COVE MaxMotion กระเป๋าเดินทางล้อลาก
ราคา 4,090 บาท
น้ำหนักเบาพิเศษ พร้อมระบบซิปขยายได้ถึง 30% ผลิตจากวัสดุ German PC คุณภาพสูง
COVE MaxMotion คือคำตอบสำหรับนักเดินทางที่ต้องการกระเป๋าเดินทางที่ทั้งสะดวกและคุ้มค่า ด้วยน้ำหนักเพียง 2.8 กิโลกรัม ทำให้คุณมีน้ำหนักเหลือสำหรับสัมภาระมากขึ้น พร้อมความพิเศษของระบบซิปขยายได้ที่เพิ่มความจุได้ถึง 30% ในครั้งเดียว ตัวกระเป๋าผลิตจากวัสดุ German PC 100% ที่มีความแข็งแรงและยืดหยุ่นสูง ทนต่อการกระแทกได้ดีเยี่ยม
การเดินทางของคุณจะราบรื่นยิ่งขึ้นด้วยระบบล้อคู่หมุนรอบทิศที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ ช่วยให้การเข็นลื่นไหลบนทุกพื้นผิว พร้อมระบบลดเสียงรบกวนที่ช่วยให้การเดินทางเป็นไปอย่างนุ่มนวล ด้วยราคาเพียง 4,090 บาท COVE MaxMotion จึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับการเดินทางทุกครั้งของคุณ
4. FN Rollica กระเป๋าเดินทาง ขนาด 20 นิ้ว รุ่น Frankfurt
ราคา 2,200 บาท
น้ำหนักเบาพร้อมระบบล็อก TSA มาตรฐานสากล ในราคาประหยัด
FN Rollica Frankfurt เป็นกระเป๋าเดินทางที่ตอบโจทย์การใช้งานทั่วไปได้อย่างลงตัว ด้วยวัสดุ PP คุณภาพสูงที่ทนทานต่อแรงกระแทกและรอยขีดข่วน พร้อมระบบล็อกรหัส TSA ที่ได้มาตรฐานสากล ทำให้คุณมั่นใจได้ในความปลอดภัยของสัมภาระ ขนาดกะทัดรัด 20 นิ้วที่เหมาะสำหรับการถือขึ้นเครื่องโดยสาร
การเดินทางจะสะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วยระบบล้อคู่หมุน 360 องศาที่ช่วยให้การเคลื่อนที่คล่องตัวในทุกทิศทาง และด้วยราคาเพียง 2,200 บาท ทำให้กระเป๋า Frankfurt เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับผู้ที่ต้องการกระเป๋าเดินทางคุณภาพดีในงบประมาณที่เอื้อมถึง
5. POLO WORLD กระเป๋าเดินทาง รุ่น PW901
ราคา 5,110 บาท
ผลิตจากวัสดุ PC 100% พร้อมคันชักอลูมิเนียม และระบบล็อกเฟรมอลูมิเนียมคุณภาพสูง
POLO WORLD PW901 คือตัวเลือกระดับพรีเมียมสำหรับนักเดินทางที่ใส่ใจในคุณภาพ ตัวกระเป๋าผลิตจากวัสดุ PC (Polycarbonate) 100% ที่ทั้งแข็งแรงและน้ำหนักเบา โดดเด่นด้วยคันชักอลูมิเนียมคุณภาพสูงที่ปรับระดับได้ 3 ระดับ พร้อมระบบล็อกเฟรมอลูมิเนียมที่มอบความปลอดภัยระดับสูงให้กับสัมภาระของคุณ
การใช้งานสะดวกสบายด้วยหูจับ automatic slowly ทั้งด้านบนและด้านข้าง พร้อมล้อหมุน 360 องศาที่เคลื่อนที่ได้อย่างนุ่มนวล ภายในกระเป๋ามีการจัดสรรพื้นที่อย่างเป็นระเบียบด้วยสายรัดแบ่งสัดส่วน ทำให้จัดเก็บสัมภาระได้อย่างเป็นระบบ และด้วยการรับประกันอุปกรณ์ 1 ปี ทำให้คุณมั่นใจได้ในคุณภาพของกระเป๋าเดินทางรุ่นนี้ แม้จะมีราคา 5,110 บาท แต่ก็คุ้มค่ากับคุณภาพและความทนทานที่จะอยู่กับคุณไปตลอดการเดินทาง
6. CAGGIONI กระเป๋าเดินทาง รุ่นจอย (Joy) C20021
ราคา 1,995 บาท
กระเป๋าเดินทางวัสดุ PP 100% น้ำหนักเบา พร้อมสีสันทันสมัย
CAGGIONI รุ่นจอย (Joy) C20021 เป็นกระเป๋าเดินทางที่ตอบโจทย์การใช้งานทั่วไปได้อย่างลงตัว ด้วยวัสดุ PP 100% ที่มอบความแข็งแรงทนทานควบคู่กับน้ำหนักที่เบา ทำให้สะดวกในการเคลื่อนย้ายและรองรับการใช้งานได้ยาวนาน มาพร้อมตัวเลือกสีสันทันสมัย 3 เฉดสี ได้แก่ สีเทาดำ สีเหลือง และสีนู๊ด ที่ตอบโจทย์ทุกสไตล์การแต่งตัว
ด้วยราคาเพียง 1,995 บาท CAGGIONI Joy จึงเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับผู้ที่ต้องการกระเป๋าเดินทางคุณภาพดีในงบประมาณที่เอื้อมถึง การเคลื่อนย้ายทำได้อย่างคล่องตัวบนทุกพื้นผิว พร้อมระบบความปลอดภัยที่เหมาะสำหรับการเดินทางทั้งในและต่างประเทศ
7. กระเป๋าล้อลาก LEGEND WALKER รุ่น 5512
ราคา 3,650 บาท
ระดับพรีเมียมจากญี่ปุ่น พร้อมระบบซิปขยายได้และระบบกันกระแทกอลูมิเนียมอัลลอยด์ 4 มุม
LEGEND WALKER รุ่น 5512 คือกระเป๋าเดินทางคุณภาพสูงที่ผสมผสานนวัตกรรมการออกแบบจากญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว ตัวกระเป๋าผลิตจากวัสดุ Polycarbonate ผสม ABS resin ที่ให้ทั้งความเบาและความแข็งแรง โดดเด่นด้วยผิวนูนลายคาร์บอนที่สวยงาม พร้อมระบบซิปคุณภาพสูงมาตรฐานญี่ปุ่นที่สามารถขยายพื้นที่จัดเก็บเพิ่มได้ถึง 5 เซนติเมตร
การเดินทางปลอดภัยด้วยระบบกันกระแทกแผ่นอลูมิเนียมอัลลอยด์ทั้ง 4 มุม และล้อคู่ 4 คู่มาตรฐานญี่ปุ่นที่เคลื่อนที่ได้อย่างนุ่มนวล มาพร้อมระบบล็อค TSA 3 หลักและตัวล็อคล้อแบบคันโยกเพื่อความปลอดภัยสูงสุด ภายในกระเป๋ามีการจัดสรรพื้นที่อย่างเป็นระเบียบด้วยช่องซิปแบ่งสัดส่วน ในราคา 3,650 บาท LEGEND WALKER 5512 จึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับผู้ที่ต้องการกระเป๋าเดินทางคุณภาพสูงที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด
8. ITO Pistachio 20 กระเป๋าเดินทาง 20 นิ้ว
ราคา 6,240 บาท
คุณภาพพรีเมียมจากวัสดุ COVESTRO PC 100% พร้อมระบบล็อกซิปลิขสิทธิ์
ITO Pistachio 20 คือกระเป๋าเดินทางระดับไฮเอนด์ที่โดดเด่นด้วยการใช้วัสดุ COVESTRO Polycarbonate 100% คุณภาพสูง มาพร้อมนวัตกรรมการล็อกแบบพับซ่อนซิปที่เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของแบรนด์ ITO ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับสัมภาระของคุณ น้ำหนักเบาเพียง 2.8 กิโลกรัม แต่มีความจุถึง 37 ลิตร ทำให้บรรจุสัมภาระได้มากเกินตัว
การเดินทางของคุณจะราบรื่นและเงียบกว่าที่เคยด้วยระบบล้อคู่ 4 ล้อที่ออกแบบมาเป็นพิเศษให้ลากลื่นและเงียบที่สุด พร้อมระบบหมุน 360 องศาที่ช่วยให้การเคลื่อนที่คล่องตัวในทุกสถานการณ์ แม้จะมีราคา 6,240 บาท แต่ด้วยคุณภาพระดับพรีเมียมและการออกแบบที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด ทำให้ ITO Pistachio 20 เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับนักเดินทางที่ต้องการกระเป๋าเดินทางคุณภาพสูงที่ใช้งานได้ยาวนาน
9. SiamChoice กระเป๋าเดินทาง 820 20/24 นิ้ว รุ่น ซิปYKK
ราคา 899 บาท
ราคาประหยัดพร้อมซิป YKK คุณภาพสูง และคันชักอะลูมิเนียมปรับได้ 3 ระดับ
SiamChoice รุ่น 820 เป็นกระเป๋าเดินทางที่มอบความคุ้มค่าในราคาเพียง 899 บาท ผลิตจากวัสดุ ABS และ PC คุณภาพสูงที่ทั้งน้ำหนักเบาและทนทานต่อแรงกระแทก โดดเด่นด้วยคันชักอะลูมิเนียมที่แข็งแรง ไม่เป็นสนิม สามารถปรับระดับได้สูงสุดถึง 48 ซม. พร้อมซิป YKK คุณภาพสูงที่ใช้งานได้ยาวนาน
ภายในกระเป๋าบุด้วยผ้า Polyester Fiber ที่มีคุณสมบัติระบายอากาศได้ดี ช่วยลดกลิ่นอับชื้น การเคลื่อนย้ายสะดวกด้วยล้อคู่หมุน 360 องศาที่รองรับน้ำหนักได้ดี ทำให้การเข็นลื่นไหลและคล่องตัว เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการกระเป๋าเดินทางคุณภาพดีในราคาประหยัด
10. Tpartner กระเป๋าเดินทางล้อลากเฟรมซิป รุ่น Insta Series
ราคา 699 บาท
ราคาประหยัดสุดคุ้ม พร้อมดีไซน์ทันสมัยและล้อคู่หมุน 360 องศา
Tpartner Insta Series เป็นกระเป๋าเดินทางที่มาพร้อมความคุ้มค่าในราคาเพียง 699 บาท โดดเด่นด้วยดีไซน์ทันสมัย ผิวเคลือบเงาสีสันสดใส ผลิตจากวัสดุ Polycarbonate และ ABS คุณภาพดี มาพร้อมน้ำหนักเบาเพียง 2.8 กิโลกรัม ช่วยให้พกพาสะดวก ระบบคันชักปรับได้ 3 ระดับช่วยให้จับถนัดมือตามความสูงของผู้ใช้
การใช้งานสะดวกด้วยล้อคู่ที่หมุนได้ 360 องศา ช่วยให้เคลื่อนที่ได้คล่องตัว พร้อมระบบล็อกรหัส 3 หลักที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับสัมภาระของคุณ แม้จะมาในราคาประหยัด แต่ Tpartner Insta Series ก็ยังคงมอบฟังก์ชันการใช้งานครบครันที่ตอบโจทย์การเดินทางในชีวิตประจำวัน
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับกระเป๋าเดินทาง 20 นิ้ว
1. กระเป๋าเดินทาง 20 นิ้วสามารถนำขึ้นเครื่องได้หรือไม่?
ใช่! กระเป๋าเดินทางขนาด 20 นิ้ว (ประมาณ 50 ซม.) มักเป็นขนาดมาตรฐานที่สายการบินส่วนใหญ่อนุญาตให้นำขึ้นเครื่องได้โดยไม่ต้องโหลดสัมภาระ อย่างไรก็ตาม ควรตรวจสอบข้อกำหนดของแต่ละสายการบิน เนื่องจากบางสายการบินมีข้อจำกัดเรื่องขนาดและน้ำหนักของกระเป๋าถือขึ้นเครื่อง
2. กระเป๋าเดินทางแบบแข็งหรือแบบผ้าดีกว่ากัน?
ขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณ! โดยสามารถแบ่งได้ดังนี้
- กระเป๋าแบบแข็ง : ทนทาน กันน้ำ และป้องกันแรงกระแทกได้ดี เหมาะสำหรับการเดินทางที่ต้องปกป้องของภายในเป็นพิเศษ
- กระเป๋าแบบผ้า : น้ำหนักเบา ยืดหยุ่น และมักมีช่องซิปด้านนอกให้เก็บของเพิ่ม เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความคล่องตัวและพื้นที่จัดเก็บที่ปรับได้
3. เลือกกระเป๋าเดินทางที่มีล้อแบบไหนดี?
- ล้อ 2 ล้อ (Inline Wheels) : แข็งแรง ทนทาน เหมาะกับพื้นผิวขรุขระและถนนที่ไม่เรียบ
- ล้อ 4 ล้อ (Spinner Wheels) : หมุนได้ 360 องศา เคลื่อนที่สะดวก เหมาะกับพื้นเรียบและการใช้งานในสนามบิน
4. ระบบล็อก TSA คืออะไร และจำเป็นหรือไม่?
TSA Lock เป็นระบบล็อกมาตรฐานที่เจ้าหน้าที่ศุลกากรสามารถเปิดตรวจได้โดยไม่ต้องทำลายกระเป๋า หากเดินทางไปต่างประเทศ โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา การมีกระเป๋าที่มี TSA Lock จะช่วยให้กระเป๋าของคุณปลอดภัยและผ่านด่านตรวจได้สะดวกขึ้น
5. น้ำหนักของกระเป๋าเดินทาง 20 นิ้วควรเป็นเท่าไหร่?
กระเป๋าเดินทางขนาด 20 นิ้วโดยทั่วไปมีน้ำหนักอยู่ระหว่าง 2.5 – 3.5 กิโลกรัม ควรเลือกกระเป๋าที่เบาพอสมควรเพื่อให้สามารถใส่สัมภาระได้มากขึ้นโดยไม่เกินข้อจำกัดของสายการบิน
6. กระเป๋าเดินทาง 20 นิ้วเหมาะสำหรับทริปแบบไหน?
เหมาะสำหรับทริปสั้น ๆ ประมาณ 2-4 วัน ขึ้นอยู่กับจำนวนสัมภาระที่คุณต้องการพกพา หากเดินทางนานกว่านั้น อาจต้องเลือกกระเป๋าที่มีซิปขยายขนาดหรือใช้ร่วมกับกระเป๋าเสริม
7. วิธีดูแลและทำความสะอาดกระเป๋าเดินทางควรทำอย่างไร?
- กระเป๋าแบบแข็ง : ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดคราบสกปรก หรือใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดพลาสติกเพื่อขจัดรอยขีดข่วน
- กระเป๋าแบบผ้า : ใช้แปรงขนนุ่มทำความสะอาดฝุ่น และหากมีคราบฝังแน่นให้ใช้ผ้าชุบน้ำสบู่อ่อน ๆ เช็ดทำความสะอาด
- ล้อและที่จับ : ตรวจสอบและเช็ดทำความสะอาดเป็นประจำเพื่อป้องกันสิ่งสกปรกสะสม
8. ควรเลือกกระเป๋าเดินทาง 20 นิ้วแบบมีซิปหรือแบบไม่มีซิป (กรอบแข็ง)?
- กระเป๋าแบบมีซิป มีความยืดหยุ่นสูง สามารถขยายขนาดได้หากมีกระเป๋าแบบ “Expandable” และมักมีน้ำหนักเบากว่า
- กระเป๋าแบบไม่มีซิป (กรอบแข็งหรือ Frame Lock) ปิด-เปิดด้วยตัวล็อกที่แข็งแรง ป้องกันการงัดแงะได้ดี และมีความทนทานมากกว่า แต่ส่วนใหญ่น้ำหนักจะมากกว่ากระเป๋าแบบซิปเล็กน้อย
9. ควรเลือกสีของกระเป๋าเดินทางอย่างไร?
- สีเข้ม เช่น ดำ กรมท่า เทา เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการให้กระเป๋าดูสะอาดได้นาน ไม่เปื้อนง่าย
- สีสว่าง หรือ สีสด เช่น เหลือง ชมพู แดง มองหาได้ง่ายบนสายพานสัมภาระและช่วยลดโอกาสหยิบผิด
ลวดลายพิเศษ หรือ กระเป๋าที่มีสติกเกอร์/ป้ายชื่อ ช่วยเพิ่มเอกลักษณ์ ทำให้จำกระเป๋าของตนเองได้ง่ายขึ้น
บทส่งท้าย
กระเป๋าเดินทาง 20 นิ้ว เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับนักเดินทางที่ต้องการความสะดวกสบาย พกพาง่าย และสามารถนำขึ้นเครื่องบินได้โดยไม่ต้องโหลดสัมภาระ การเลือกกระเป๋าที่ดีควรพิจารณาจากวัสดุ ความทนทาน น้ำหนัก ระบบล็อก ล้อ และดีไซน์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคุณ
ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าแบบแข็งที่กันกระแทกได้ดี หรือแบบผ้าที่มีความยืดหยุ่นสูง การเลือกให้เหมาะสมจะช่วยให้การเดินทางของคุณราบรื่นยิ่งขึ้น หากคุณกำลังมองหากระเป๋าเดินทางที่ใช่ อย่าลืมพิจารณาคุณสมบัติต่าง ๆ ให้รอบด้านเพื่อให้ได้กระเป๋าที่ทั้งคุ้มค่าและตรงกับความต้องการมากที่สุด
