รถยนต์เป็นยานพาหนะที่สำคัญที่จะช่วยให้เราสามารถเดินทางไปตามที่สถานที่ต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกสบาย และสิ่งที่ช่วยให้เราสามารถเดินทางได้อย่างราบรื่นนั้น คือ ยางรถยนต์ ที่มีคุณภาพ เพราะยางนั้นจะช่วยให้รถขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้ตามต้องการ ในระหว่างการขับขี่จะทำให้เรารู้สึกนุ่มสบาย และสามารถปรับทิศทางได้ตามใจเราต้องการ สำหรับยี่ห้อที่มีคุณภาพน่าใช้งานมีหลายยี่ห้อ ไม่ว่าจะเป็น Michelin, Bridgestone, Goodyear, Dunlop, Yokohama และอีกหลายยี่ห้อ ให้เลือกซื้อหามาใช้งานกัน
ในวันนี้ ตังค์ทอน จะมาแนะนำ 10 อันดับ ยางรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี คุณภาพเยี่ยม เหมาะแก่การใช้งาน ให้ทุกคนได้ทราบกัน แล้วจะมาแนะนำวิธีการเลือกซื้อโดยพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ เพื่อให้สามารถเลือกได้อย่างเหมาะสม และสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย ถ้าทุกคนพร้อมกันแล้วเรามาดูรายละเอียดกันได้เลย
วิธีการเลือกซื้อยางรถยนต์ ต้องพิจารณาอะไรบ้าง?
ในท้องตลาดมีแบรนด์ ยางรถยนต์ ออกมามากมายให้เลือกใช้งาน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ จนหลายคนอาจเลือกไม่ถูก แต่ไม่ต้องกังวลเพราะเราได้นำคำแนะนำในการเลือกซื้อมาฝากไว้ให้ตรงนี้แล้ว รายละเอียดจะมีดังต่อไปนี้
1. ดูจากประเภทการใช้งานและลักษณะในการขับรถ
สำหรับประเภทการใช้งานนั้นแบ่งได้เป็น รถส่วนบุคคล รถกระบะทั่วไป และรถที่ใช้ในงานขนส่ง อย่างเช่นพวกรถตู้โดยสารเป็นต้น โดยประเภทของการใช้งานนั้นเราจะต้องเลือกให้เหมาะสม แล้วก็จะต้องดูลักษณะของการขับขี่ประกอบกันไปด้วย อย่างเช่น ถ้าใช้งานโดยใช้ความเร็วค่อนข้างที่จะสูง ยางที่เลือกใช้ควรสามารถใช้ความเร็วได้ดี และในส่วนของการขับขี่เพื่อการขนส่ง ก็ควรเลือกยางที่สามารถรับน้ำหนักได้มาก เพื่อที่จะสามารถวิ่งได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
2. พิจารณาจากราคาพร้อมกับการรับประกันของทางร้าน
แน่นอนว่าแต่ละคนก็อาจจะมีงบประมาณที่ตั้งเอาไว้ในใจอยู่ เรื่องราคาก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ต้องนำมาพิจารณาด้วย โดยดูจากราคายางขนาดเดิมและยี่ห้อเดิมที่ใช้ ถ้าที่ผ่านมาพอใจกับยางเดิม ก็ตรวจสอบราคาก่อนซื้อได้ หรืออาจจะพิจารณาจากยี่ห้ออื่นๆด้วยก็ได้ว่ามีคุณสมบัติเด่นด้านใดบ้าง เหมาะแก่การนำมาใช้ทดแทนของเก่าหรือไม่ และก็จะต้องตรวจสอบเรื่องการรับประกันด้วย เพราะการรับประกันนี้จะช่วยให้เราสามารถใช้งานได้อย่างมั่นใจมาก
3. ตรวจสอบสัปดาห์และปีที่ผลิตแก้มยาง
สำหรับสัปดาห์และปีที่ผลิตยางเราสามารถดูได้จากตัวยางได้เลย เพราะบางครั้งถ้าเราดูไม่เป็นเราก็อาจจะได้ยางเก่าเก็บมาใช้ ทำให้อาจจะใช้งานได้ไม่มีประสิทธิภาพดีเท่าที่ควร เพื่อลดปัญหาข้อนี้ให้คุณดูสัปดาห์ที่ผลิตและปีที่ผลิตว่าเป็นปีปัจจุบันหรือไม่ แล้วจะต้องตรวจสอบสภาพของเนื้อยางด้วยว่าไม่มีการแตกลายมา รวมไปถึงไม่มีรอยต่อของเนื้อยาง ดังนั้นสำหรับเรื่องนี้จะต้องตรวจสอบให้รอบคอบก่อนซื้อ
4. ควรเปลี่ยนยาง 4 เส้น เพื่อประสิทธิภาพที่ดีกว่า
ถ้าต้องการให้การขับขี่มีประสิทธิภาพที่ดีที่สุด คุณจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนยางพร้อมกันทั้งหมด 4 เส้นในครั้งเดียวกัน นอกจากนี้ก็ยังสามารถที่จะสลับยางพร้อม ๆ กันได้ด้วย การทำแบบนี้จะช่วยให้ยางแต่ละเส้นนั้นมีการสึกหรอเป็นไปอย่างสม่ำเสมอ และการเปลี่ยนยางครั้งเดียวกัน 4 เส้น แต่ละร้านก็จะมีการลดราคาให้ด้วย นอกจากจะคุ้มค่าแล้ว ยังมีความปลอดภัยในการขับขี่ที่สูงขึ้นอีกด้วย
10 อันดับ ยางรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี ปี 2024 วิ่งเงียบนุ่ม ทนทาน ควบคุมง่าย แรงยึดเกาะเยี่ยม
หลังจากที่ได้ทราบวิธีการเลือกซื้อยางกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้น ต่อไปเราก็จะมาพบกับ 10 อันดับที่เราได้คัดสรรมาไว้ให้คุณ เป็นอย่างที่มีคุณภาพโดยมีทั้งแบรนด์ยุโรปและแบรนด์ฝั่งเอเชียมาฝาก ถ้าพร้อมแล้วมาดูรีวิวกันได้เลย
1. MICHELIN ยางรถยนต์ รุ่น PRIMACY 4
ราคา 31,600 บาท
ปลอดภัยสูง เบรคได้สั้น นุ่มเงียบขับขี่สบาย
MICHELIN รุ่น PRIMACY 4 สำหรับยางจากมิชลินรุ่นนี้ เป็นรุ่นที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมในการใช้งานเป็นอย่างสูง เป็นยางระดับพรีเมี่ยมที่จะทำให้คุณขับขี่ได้อย่างนุ่มสบาย เบรคสั้นมั่นใจได้ในความปลอดภัยตั้งแต่วันแรกที่ใช้งาน ในระหว่างการขับขี่รถยนต์คุณจะรู้สึกถึงความนุ่มเงียบเป็นอย่างมาก มีสมรรถนะในการรีดน้ำได้อย่างดีเยี่ยม เกาะถนนได้เป็นเลิศ และสามารถเบรคได้อย่างมั่นใจแม้ในพื้นที่เปียกฝน ทำให้ยางรุ่นนี้เหมาะที่จะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
2. Yokohama ยางรถยนต์ รุ่น ADVAN dB V552
ราคา 2,961 บาท
คุณภาพเยี่ยม นุ่มเงียบ ลดแรงสั่นสะเทือนได้เป็นอย่างดี
Yokohama รุ่น ADVAN dB V552 สำหรับยี่ห้อโยโกฮาม่าก็เป็นอีกยี่ห้อหนึ่งที่มีชื่อเสียง โดยยางรุ่นนี้มีดอกยางทั้งหมด 144 บล็อก ออกแบบให้มีการลบเหลี่ยม ทำให้ยางมีความนุ่ม สามารถขับขี่ได้อย่างนุ่มนวล และเงียบตลอดการเดินทาง ตัวอย่างใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพสูง แล้วได้รับการออกแบบโครงสร้างมาใหม่ ทำให้มีความลงตัวในทุกมิติ สามารถลดแรงสั่นสะเทือนได้เป็นอย่างดี นอกจากจะขับขี่ได้อย่างนุ่มนวลแล้ว ยังช่วยประหยัดน้ำมันควบคู่กันไปอีกด้วย
3. BRIDGESTONE ยางรถยนต์ รุ่น ECOPIA EP300
ราคา 11,860 บาท
ประหยัดน้ำมัน มีอายุการใช้งานนาน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
BRIDGESTONE รุ่น ECOPIA EP300 สำหรับยางจาก Bridgestone รุ่นนี้มีความพิเศษตรงที่ได้รับการออกแบบดีไซน์มาอย่างทันสมัย ช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้เป็นอย่างดี ดอกยางสามารถยึดเกาะถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความทนทานต่อการใช้งานมากขึ้น อีกทั้งยังเสริมความมั่นคงให้คุณสามารถขับขี่ได้อย่างปลอดภัย ตัวยางรุ่นนี้มีความแข็งแรงสามารถรับน้ำหนักได้มาก ทำให้เป็นยาอีกรุ่นหนึ่งที่สามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน
4. DUNLOP ยางรถยนต์ รุ่น SP SPORT LM705
ราคา 15,200 บาท
ยึดเกาะถนนเป็นเยี่ยม ประหยัดน้ำมัน ราคาไม่แพง
DUNLOP รุ่น SP SPORT LM705 มาพร้อมกับร่องยางที่ลึก ช่วยให้สามารถยึดเกาะถนนได้เป็นอย่างดี โดยได้พัฒนามาจากรุ่นก่อนทำให้ยางรุ่นนี้ได้รับความนิยมมากขึ้น อีกทั้งยังสามารถขับขี่เข้าโค้งได้อย่างมั่นใจ ด้วยขอบยางมีความโค้งมนมากกว่าเดิม รวมไปถึงยังขับขี่ได้อย่างเงียบสงบนุ่มสบาย สามารถทำความเร็วได้ตามต้องการ และถึงแม้ว่าถนนจะเปียกน้ำ ยางรุ่นนี้ก็สามารถเกาะถนนได้อย่างมั่นใจ
5. BF Goodrich ยางรถยนต์ รุ่น ADVT Tour
ราคา 8,160 บาท
ระยะเหล็กสั้น ตอบสนองการเข้าโค้งได้ดี ควบคุมรถได้อย่างมั่นใจ
BF Goodrich รุ่น ADVT Tour สำหรับยางรุ่นนี้เหมาะสำหรับใช้งานกับ รถเก๋ง, กระบะ, SUV โดยมีขอบตั้งแต่ 15″-18″ ทำให้คุณสามารถเลือกใช้งานได้ตามต้องการ ยางรุ่นนี้มีความทนทานแข็งแรง มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน มีระยะการเบรคที่สั้น สามารถตอบสนองความเร็วในการเข้าโค้งได้อย่างแม่นยำ เกาะถนนได้ดีช่วยให้คุณสามารถมั่นใจได้ในความปลอดภัย
6. Michelin ยางรถยนต์ รุ่น PL Sport 3
ราคา 17,760 บาท
สามารถเข้าโค้งได้อย่างแม่นยำ ดอกยางลึก เกาะถนนดีเยี่ยม
Michelin รุ่น PL Sport 3 สำหรับยี่ห้อมิชลิน ยางรุ่นนี้เป็นอีกรุ่นหนึ่งที่ได้รับความนิยมจากผู้ขับขี่จำนวนมาก และเป็นที่ยอมรับในระดับสากลทั่วโลก ยางรุ่นนี้มีความยืดหยุ่นที่สูง ช่วยในการเกาะพื้นถนนได้อย่างมั่นคง คุณสามารถขับขี่ได้อย่างนุ่มนวลเงียบสงบ เกาะถนนได้ดีตลอดเส้นทาง มีระยะการเบรคที่สั้นไม่ว่าคุณจะขี่บนถนนแห้งหรือเปียก ก็มีความปลอดภัยที่สูง และด้วยความทนทานของยางรุ่นนี้ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างยาวนานมากยิ่งขึ้น เพราะยางเสื่อมสภาพได้ช้า
7. YOKOHAMA ยางรถยนต์ รุ่น Alliance AL30
ราคา 1,431 บาท
ขับขี่ได้นุ่มเงียบ เกาะถนนทั้งพื้นแห้ง และพื้นเปียกน้ำ
YOKOHAMA รุ่น Alliance AL30 มาพร้อมกับร่องดอกยางใหญ่ 4 ร่อง ที่จะช่วยให้คุณสามารถขับขี่ไปบนถนนพื้นเรียบ และพื้นต่าง ๆ ได้อย่างมั่นคง มาพร้อมกับคุณสมบัติในการช่วยประหยัดน้ำมัน โดยมีการออกแบบลายดอกยางแบบ 4 ร่อง เมื่อเวลายางเริ่มสึกหรอก็จะสึกแบบเท่ากัน ทำให้มีอายุการใช้งานนานมากขึ้นกว่าเดิม สามารถรีดน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพเมื่อต้องขับขี่บนพื้นถนนที่เปียกฝน และยางรุ่นนี้ยังถือว่าเป็นยางที่มีความปลอดภัยสูงมาก
8. GOODRIDE ยางรถยนต์ รุ่น RP88
ราคา 4,350 บาท
ยึดเกาะถนนได้ดี รีดน้ำได้อย่างรวดเร็ว ปลอดภัยในการขับขี่
GOODRIDE รุ่น RP88 สำหรับยางรุ่นนี้เป็นยางที่มีคุณภาพดีในราคาที่ย่อมเยา ได้รับการออกแบบดอกยางมาเพื่อช่วยให้สามารถรีดน้ำได้ดีมากยิ่งขึ้น แม้ในอาหารที่เปียกฝน ก็ยังสามารถขับขี่ได้อย่างยึดเกาะถนนดีเยี่ยม อีกทั้งยังช่วยให้ระยะเบรคนั้นสั้นลง เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่บนท้องถนนได้มากยิ่งขึ้น ดอกยางมีความนุ่มช่วยให้คุณสามารถขับขี่ได้นุ่มเงียบ ตลอดทั้งการเดินทาง และราคาก็ไม่แพงเมื่อเทียบกับประโยชน์ทั้งหมดที่ได้รับ
9. NEXEN รุ่น N’FERA SU4
ราคา 2,043 บาท
สมรรถนะสูง ยึดเกาะถนนดีเยี่ยม รีดน้ำได้อย่างรวดเร็ว
NEXEN รุ่น N’FERA SU4 เป็นยางสมรรถนะสูงที่จะช่วยให้คุณสามารถขับขี่ไปบนพื้นถนนที่เปียกได้อย่างปลอดภัย โดยดอกยางมีประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนที่ยอดเยี่ยม สามารถเบรครถได้อย่างเสถียร ไม่เพียงแค่ถนนเปลี่ยนเท่านั้น ในการขับขี่บนถนนที่แห้งก็สามารถทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมในทุกๆสภาพการขับขี่ อีกทั้งยางรุ่นนี้ยังช่วยในการประหยัดน้ำมันได้อย่างเหนือชั้น เป็นยางที่เหมาะสำหรับการใช้งาน ได้ทั้งการขับขี่ที่ปลอดภัย และยังช่วยประหยัดน้ำมันได้เป็นอย่างมาก
10. Goodyear รุ่น Cargo Max
ราคา 12,960 บาท
ทนทานใช้งานได้นาน รองรับน้ำหนักได้มาก ยึดเกาะถนนได้ดี
Goodyear รุ่น Cargo Max สำหรับยางรุ่นนี้ได้มีการนำเทคโนโลยี MaxLoad เข้ามาใช้งานเพื่อเสริมโครงสร้างให้ตัวอย่าง สามารถรองรับน้ำหนักได้เยอะมากยิ่งขึ้น เหมาะแก่การใช้กับรถเก๋งหรือรถกระบะที่ต้องมีการบรรทุกของ ตัวยางมีความแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ สามารถยึดเกาะถนนได้ดี แล้วยังรองรับน้ำหนักได้มาก สามารถควบคุมทิศทางการหักเลี้ยวได้อย่างมั่นคง ไม่ว่าจะเป็นถนนแห้งหรือถนนเปียกก็ตาม อีกทั้งยังสามารถรีดน้ำได้ดีในพื้นถนนที่เปียกอีกด้วย
เมื่อไรที่เราควรเปลี่ยนยางรถยนต์ได้แล้ว?
แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าเมื่อใดที่เราควรจะต้องเปลี่ยนยางรถ เป็นคำถามที่หลายๆคนอาจจะสงสัย ซึ่งเราก็ได้มีข้อมูลในส่วนนี้มาฝากทุกคนด้วย ในกรณีที่เราจะต้องเปลี่ยนยางรถนั้น เราสังเกตได้จากสถานการณ์ต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
1. ดูจากรอยสึกหรอของยาง
ตรวจสอบด้วยตัวบ่งชี้ระดับการสึกหรอ (tread wear indicator) ที่มีอยู่บนยาง หากยางสึกหรอจนถึงระดับนี้ แสดงว่าถึงเวลาเปลี่ยนยางแล้ว
2. ตรวจสอบอายุของยาง
ในส่วนของระยะเวลาในการใช้งานนั้นนะครับ ยางมักจะมีอายุการใช้งานประมาณ 5-6 ปี แม้ว่ายางจะยังดูดีและมีรอยสึกหรอน้อยก็ตาม
3. พิจารณาจากรอยแตกหรือบาดแผลบนยาง
รอยแตกหรือบาดแผลบนผิวยางหรือขอบยางสามารถทำให้เกิดการรั่วไหลหรือแตกขณะขับขี่ได้
4. ตรวจดูความเสียหายจากการชนหรืออุบัติเหตุ
หากมีความเสียหายจากการชนหรืออุบัติเหตุ ยางอาจจำเป็นต้องเปลี่ยนทันที
5. สังเกตจากการเปลี่ยนแปลงลักษณะการขับขี่หรือเสียง
หากคุณสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงในลักษณะการขับขี่หรือเสียงที่ผิดปกติมาจากยาง นั่นอาจเป็นสัญญาณว่ายางต้องการการตรวจสอบหรือเปลี่ยน
นอกจากนี้ ควรตรวจสอบยางอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการตรวจสอบความดันลมยาง เพื่อให้แน่ใจว่ายางอยู่ในสภาพที่ดีและปลอดภัยสำหรับการใช้งาน
อ่านเพิ่มเติม
บทส่งท้าย
ยางรถยนต์เป็นสิ่งที่เราจะต้องหมั่นตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ เมื่อถึงอายุการใช้งานที่ควรเปลี่ยนแล้ว ควรเปลี่ยนในทันทีแม้ว่าจะดูเหมือนว่ายางนั้นยังมีสภาพที่ดีอยู่ก็ตาม แต่ในความเป็นจริงนั้นไม่ใช่เลย รวมไปถึงคอยหมั่นสังเกตเนื้อยางด้วยว่ามีการแตกหรือไม่ หรือมีการสึกหรอส่วนใดหรือเปล่า ถ้าพบความผิดปกติ ควรดำเนินการเปลี่ยนในทันที อย่าปล่อยให้ชีวิตของเราอยู่บนความเสี่ยง เพราะเมื่อเกิดอุบัติเหตุแล้ว ความสูญเสียอาจประเมินค่าไม่ได้