รีวิว Lenovo YOGA S730 โน๊ตบุ๊คเรียบหรู พรีเมี่ยม สายพกพา น้ำหนักเบาเพียง 1.2 กิโลกรัม เท่านั้นเอง

รีวิว Lenovo YOGA S730

สวัสดีครับเพื่อน ๆ มาพบกันอีกเช่นเคยกับการ แนะนำโน๊ตบุ๊ค 2019 วันนี้ผมจะแนะนำเพื่อนให้รู้จักกับเจ้า Lenovo Yoga S730  เป็นโน๊ตบุ๊คสำหรับสายพกพาโดยเฉพาะ น้ำหนักเบา บางเฉียบ สเปคดี พรีเมี่ยม เรียบหรู ดูอลังการครับ

สำหรับซีรีย์ Yoga แต่ก่อนนะครับจะมีแค่ 2-in-1 Notebook จอสัมผัสเท่านั้น แต่มาครั้งนี้ได้นำเอาเจ้า Ultrabook มารวมไว้ด้วย ทำให้โน๊ตบุ๊คตัวนี้นั้น ทำออกมาได้อย่างเรียบหรูดูพรีเทมี่ยม และถือได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่บางที่สุดของแบรนด์ Lenovo เลยครับ

สำหรับวัสดุที่นำมาใช้ในการทำผลิตจากอะลูมิเนียมเกรดสูง ทำให้ตัวเครื่องมีน้ำหนักเบาเพียง 1.2 กิโลกรัม และบางเพียง 11.9 มิลลิเมตรเท่านั้น และขนาดหน้าจอของเจ้า Lenovo Yoga S730 มีขนาดเพียง 13.3 นิ้วเองครับ กระจกแบบแข็งแรงสุด ๆ ความละเอียดแบบ Full HF มาพร้อมด้วยระบบเสียงสุดยอดอย่าง Dolby Atmos Speaker System อีกด้วยครับ

ในส่วนของ CPU นั้น จะเป็น ntel Core i Gen 8 รหัส U ครับ ส่วนแบตเตอรี่นี้ดีมาก อึดทนนานทั้งวันสบาย ๆ สำหรับเจ้าตัวนี้จะมีราคาเริ่มต้น 32,990 – 45,990 บาท สเปกเป็น Core i5 / i7 Gen 8 รุ่นล่าสุด ครับ

สำหรับในวันนี้ครับผมจะมารีวิวเจ้า Lenovo YOGA S730 รุ่นท็อปเลยครับ คือ 45,990 บาท มาพร้อมชิปประมวลผล Intel Core i7-8565U ที่เป็นชิป 4 คอร์ 8 เธรด ความเร็ว 1.8 GHz โดยรุ่นนี้สามารถเร่งความเร็วสูงสุดได้ 4.6 GHz กับแรม DDR3L ขนาด 16GB การ์ดจอออนบอร์ด Intel UHD Graphics 620 สำหรับใช้ในการทำงานทั่ว ๆ ไปครับ พื้นที่เก็บข้อมูลเป้น SSD แบบ PCIe ความจุ 512 GB ครับ

ภาพรวมของเจ้า Lenovo YOGA S730 ค่อนข้าที่จะลงตัว ครบถ้วนอยู่แล้ว ไม่ว่าจะทำงานต่าง ๆ ท่องเว็บไซต์ ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมส์บ้าง และด้วยความบางเบา ทำให้สามารถพกพาไปไหนมาได้ได้อย่างสะดวกสะบายครับ

อีกจุดเด่นนึงของเจ้า Lenovo YOGA S730 ครับ คือ หน้าจอขนาด 13.3″ ความละเอียดระดับ Full HD (1920 x 1080) อัตราส่วน 16:9 ขอบจอบางเฉียบเพียง 5 มม. พาเนลจอแบบ IPS ที่ให้มุมมองกว้างถึง 178 องศา ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานั้น เหมาะมากครับสำหรับการใช้งานในทุก ๆ อย่าง และแถมมาด้วย Windows 10 Home อีกด้วยครับ

  • i5-8265U + RAM 8GB + SSD 512GB ราคา 32,990 บาท
  • i7-8565U + RAM 8GB + SSD 512GB ราคา 39,990 บาท
  • i7-8565U + RAM 16GB + SSD 512GB ราคา 45,990 บาท

ส่วนตัวคิดว่า Lenovo YOGA S730 รุ่นเริ่มต้น 32,990 บาท ก็สามารถใช้งานในด้านต่าง ๆ ได้ครบถ้วนแล้วล่ะครับ

รายละเอียดต่าง ๆ ของ Lenovo YOGA S730

Hardware / Design

รูปจาก notebookspec.com

การออกแบบของโน๊ตบุ๊ครุ่นนี้นั้นดูเหมือนกับจะเล็กกว่าโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 13.3″ รุ่นสมัยก่อนอยู่มากครับ ด้วยหน้าจอที่บางกว่าปกติ เลยดูเหมือนกับว่าเครื่องมันจะเล็กลงมาก เหมาะสำหรับการพกพาไปนอกสถานที่ แต่ถึงแม้ว่าตัวเครื่อง Lenovo YOGA S730 จะเล็กพอ ๆ กับ รุ่นจอ 12.5″ ทำให้ Lenovo YOGA S730 เป็นอีกหนึ่งตัวของ Ultrabook ปี 2019 ที่มีขนาดเล็กกะทัดรัดที่สุดเลยครับ

รูปจาก notebookspec.com

สำหรับการออกแบบหน้าจอของเจ้า YOGA S730 ที่ทำออกมาบางเพียง 5 มม. ทำให้แลดูบางเบามาก ๆ ส่วนวัสดุที่นำมาทำตัวเครื่อง ทำมาจากอะลูมิเนียมครับ ทำให้มันมีความแข็งแรง ทนทานมาก น้ำหนักก็เบา โดยเบาแค่ 1.2 กิโลกรัม เองครับ มาพร้อมกับสี 2 สี คือ สีเทา (Iron Gray) และสีเงิน (Platinum) จึงเป็นสาเหตุให้เจ้า Lenovo YOGA S730 เป็นโน๊ตบุ๊คที่มีความเรียบหรูดูแพงนั่นเอง

Keyboard / Touchpad

รูปจาก notebookspec.com

สำหรับคีย์บอร์ดนะครับ ปุ่มของคีย์บอร์ดทำออกมาเป็นาีเขียวครับ พร้อมกับเป็นตัวอักษรแบบโปรร่งแสง และยังออกแบบมาตัวปุ่มนั้นโค้งรับกับนิ้วของเราได้อย่างลงตัว ทำให้เราสามารถพิมพ์ได้อย่างง่าย และสะดวกมาก ๆ รวมทั้งยังเป็นคีย์บอร์ดมาตรฐาน 4 แถว มีขนาด Full Size ครับ เวลาเราพิมพ์คีย์บอร์ดนั้นได้รับการตอบสนองเป็นอย่างดี การกดก็แม่นยำมาก ๆ ครับ ถือว่าทำออกมาได้ดีมาก ๆ ครับ ส่วนปุ่มเปิดเครื่องอยู่ที่มุมขวาบนพร้อมกับไฟส่องสว่างแสดงสถานะครับ

รูปจาก notebookspec.com

ทัชแพดของเจ้า Lenovo YOGA S730 พอลองมองดูแล้วเหมือนจะค่อนข้างใหญ่เลยครับ ถ้าเทียบกับขนาดของตัวเครื่อง ส่วนการใช้งานทัชแพดนั้นอยู่ในระดับที่น่าพอใจเลยทีเดียว และการเข้าใช้งานผ่าน Windows Hello ของ Windows 10 นั้น ยังทำได้ครับด้วยการสแกนลายนิ้วมือของเรา

ข้อนี้ดีตรงที่เราไม่ต้องใส่รหัสเดิม ๆ บ่อย ๆ รวดเร็ว ปลอดภัย ซึ่งจากการใช้งานจริงแล้ว ถือว่าไวมาก ดีมาก ๆ เลยครับ ไม่ต่างจากการใช้สมาร์ทโฟนในปัจจุบันนี้เลยล่ะครับ

Screen / Speaker

รูปจาก notebookspec.com

ในส่วนจอภาพนั้น จะเป็นกระจกพาเนล IPS ที่ให้มุมมองกว้างถึง 178 องศา ทำให้ภาพที่ออกมานั้นสวยงาม คมชัด ทุกมุมมอง เมื่อรวมกับขอบของจอที่บางเฉียบกว่า 95% ส่งผลให้ไม่ว่าจะใช้งานทั่ว ๆ ไป การเล่นเว็บ การดูหนัง ฟังเพลง ดูการ์ตูน และเล่นเกมส์ต่าง ๆ ทำให้ได้อารมณ์ตื่นเต้น สนุกสนาน เร้าใจเลยทีเดียวครับ ส่วนของจอด้านบนครับ จะเป็นส่วนของหล้องหน้าและไมโครโฟนครับ

อย่างไรก็ดีกระจกของ Lenovo YOGA S730 ก็ยังมีบางอย่างเกิดขึ้นครับ นั่นคือเกิดเงาสะท้อนออกมา โดยเมื่อเราใช้งานในตอนกลางวันครับ ทำให้เราอาจจะไม่ค่อยสะดวกเวลาเราใช้งาน ฉะนั้นเราควรหลีกเลี่ยงจุดที่อาจจะเกิดแสงสะท้อนกับหน้าจอครับ พอจะช่วยได้ในระดับนึงเลย เท่านี้เราก็สามารถใช้งานเจ้า YOGA S730 ได้อย่างดีดังเดิมครับ หลีกเลี่ยงนิดนึงไม่เสีหลายแต่ได้ประโยชน์นะครับ

มาต่อกันที่ลำโพงของโน๊ตบุ๊ครุ่นนี้กันบ้างครับ โน๊ตบุ๊คตัวนี้ มีเทคโนโลยี Dolby Atmos ทำให้เสียงที่ส่งออกมานั้นดีมาก ๆ ครับ และยังสามารถจำลองเสียง 360 องศาได้อีกด้วย โดยมันจะถูกติดตั้งไว้ตรงด้านล่างของตัวเครื่องครับ

เรื่องความดังของเสียงที่ออกมานั้น ต้องยอมรับจริง ๆ ครับว่าทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ประสิทธิภาพสูงมาก น่าประทับใจสุด ๆ ส่วนในเรื่องคุณภาพของเสียงเมื่อเปรียบเทียบกับโน๊ตบุ๊คทั่วไป รู้สึกได้เลยครับว่าดีกว่าอย่างให้ได้ชัดครับ

ซึ่งทั้งหมดนี้เพียงพอแล้ว สำหรับการใช้งานทำงานทั่วไป การดูหนังฟังเพลง สามารถทำได้อย่างสบาย ๆ เลยครับ ส่วนใครยังไม่หนำใจจะเอาลำโพงมาต่อเพิ่มเพื่อความกระหึ่ม ก็ได้ไม่มีปัญหาอะไรครับ มันจะเพิ่มความสนุกและเร้าใจเพิ่มมากขึ้นอีกครับ

Connector / Thin And Weight

รูปจาก notebookspec.com

สำหรับพอร์ตการเชื่อมต่อนี้นะครับ ต้องบอกเลยครับว่า มีการกระชับพื้นที่ได้ดีมาก ๆ เพราะทั้งตัวเครื่องโน๊ตบุ๊คนี้ตัดพอร์ตออกแบบทั้งหมดเลย ไม่ว่าจะเป็นเจ้า USB Type-A หรือ HDMI แต่ว่าเลือกที่จะติดตั้งพอร์ต USB 3.1 Type-C มาหนึ่งพอร์ต มันจะรองรับการชาร์จไฟครับ จะอยู่ที่บริเวณด้านขวา และช่องต่อหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มม.

อีกทั้งด้านขวายังมี Thunderbolt 3 สุดล้ำด้วยอีก 2 พอร์ตด้วยครับ ซึ่งถ้าย้อนกลับไปการใช้งานอุปกรณ์เดิม ๆ นั้น มีความมจำเป็นต้องใช้ HUB ครับ สำหรับการเชื่อมต่อต่าง ๆ และสุดท้ายคือปุ่ม Recovery  ตามสไตล์ของแบรนด์ Renovo นั่นเองล่ะครับ

รูปจาก notebookspec.com

ในส่วนของขนาดตัวเครื่องและสายชาร์จนั้น ถ้าเอามาเปรียบเทียบกับตัวโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 13.3 นิ้ว ทั่ว ๆ ไปแล้วนั้น ถือได้ว่ามีมิติที่เล็กกว่าเลยล่ะครับ น้ำหนักของตัวเครื่อง Lenovo YOGA S730 ถ้าเครื่องเปล่าน้ำหนักจะอยู่ราว ๆ 1.2 กิโลกรัม แค่นั้นเอง และเมื่อรวมน้ำหนักกับอแดปเตอร์เข้าไปด้วยแล้ว ก็จะได้ประมาณ 1.5 กิโลกรัมครับ ไม่ได้หนักเลย เรียกว่ามีน้ำหนักที่เบาหวิวมาก ๆ ครับ

ทำให้สามารถถตอบสนองเรื่องการพกพาสะดวก ไปไหนมาไหนได้อย่างคล่องตัวมาก ๆ เหมาะอย่างยิ่งแก่การไปทำงานนอกสถานที่ พร้อมลุยทุกสถานการณ์ สมแล้วครับที่ได้ชื่อว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่มีประสิทธิภาพในปัจจุบันครับ

Performance / Software


รูปจาก notebookspec.com

โน๊ตบุ๊คตัวนี้มาพร้อมกันกับระบบ ระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home Single Language มีมาให้ตั้งแต่แรกที่เริ่มเปิดกล่องกันเลยทีเดียว ทำให้เราสบายใจหายห่วงเรื่องลิขสิทธิ์ในการใช้งานระบบปฏิบัติการครับ สำหรับใครที่มีความต้องการจะเคลียล์เครื่อง ก็สามารถใช้งานฟังก์ชัน Reset this PC ที่อยู่ใน Settings ของ Windows 10 ได้ทันทีเลยนะครับ ทำให้ไม่ต้องฟอร์แมต SSD เพื่อทำการลงวินโดว์ใหม่ครับ

อีกส่วนนึง เมื่อทำการตรวจสอบข้อมูลชิปประมวลผลด้วยโปรแกรม CPU-Z ครับ ทำให้เราพบว่าข้อมูลขึ้นมาได้อย่างครบถ้วนเลย โดยโน๊ตบุ๊ตตัวนี้นั้น เป็นรุ่นชิป Intel Core i7-8565U ที่มี 4 คอร์ 8 เธรดสำหรับการประมวลผล ความเร็วพื้นฐานอยู่ที่ 1.8 GHz มีค่า TDP ในการปลดปล่อยความร้อนสูงสุดแค่ 15W เท่านั้นเองล่ะครับ ซึ่งบอกเลยได้ครับว่าตำมาก ๆ สำหรับชิป i7 ในโน้ตบุ๊ก

ทำให้ความร้อนที่เกิดขึ้นในตัวเครื่องนั้น ไม่ร้อนจนเกินไปครับ ทั้งนีี้ก็เป็นเพราะว่าเกิดจากการใช้สถาปัตยกรรมการผลิตที่ระดับ 14 นาโนเมตรเท่านั้นเองครับ

รูปจาก notebookspec.com

การ์ดจอของ YOGA S730 นั้นจะเป็นแบบออนบอร์ดครับ คือ Intel UHD Graphics 620 สามาถให้พลังงานในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่งนะครับ คือ ถ้าเป็นกราฟฟิกแบบ 2 มิติก็ใช้ได้อย่างสบาย ๆ เลย แต่ถ้าเป็นแบบ 3 มิติ ก็ต้องบอกเพื่อน ๆ ตามตรงนะครับว่า สามารถทำได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้นครับ แต่จริง ๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมส์ในระดับนึงเหมือนกันครับ

โดยรวม ๆ แล้วครับ ก็ยังถือว่าให้ประสิทธิภาพในการทำงานดีกว่าตัว Intel HD Graphics 620 รุ่นก่อนหน้านี้อย่างแน่นอน เพราะว่า สามารถรองรับการทำงานกับหน้าจอความละเอียดสูงได้แบบไม่มีปัญหาใด ๆ เลยล่ะครับ

รูปจาก notebookspec.com

ในส่วนของการใช้โปรแกรม Cinebench ในการทดสอบการประมวลผลนั้น ให้ผลคะแนนในส่วนของ CPU ได้ดี ตามระดับของ Core i7 ในรหัส U ส่วนในด้านของ OpenGL นั้นคะแนนก็พุ่งสูงกว่าชิปออนบอร์ดทั่วไปอย่างเห็นได้ชัดเลยทีเดียวครับ เรียกได้ว่าตอบโจทย์การทำงานด้านการประมวลผลหนัก ๆ ได้อย่างสบาย รวดเร็ว ทันใจ ใช้ได้ดีมาก แบบสุด ๆ ไปเลยล่ะครับ สมแล้วครับที่เป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นประหยัดพลังงานที่ใกล้เคียงกับตัว H ทีเดียวครับ โดยดีขึ้นกว่า Core i7-8550U รุ่นก่อนหน้าประมาณนึงครับ

รูปจาก notebookspec.com

มาถึงด้านของ Storage กันบ้างครับ จะเป็นแบบ SSD มาตรฐาน NVMe ระดับบน ความจุ 512GB ของ Samsung ครับ ตัวนี้ทำการทดสอบมาแล้วด้วยโปรแกรม CrystalDiskMark พบว่าความเร็วในการอ่านนั้นจะอยู่ที่ 3366 MB/s ครับ

ส่วนความเร็วของการเขียนจะอยู่ที่ 2033 MB/s ครับ ความเร็วของการอ่านไฟล์ต่่าง ๆ นั้นเรียกว่าอยู่ในระดับที่ดีมาก ๆ เลย สามารถมช้ทำงานด้านทั่ว ๆ ไปได้สบาย ๆ เหลือ ๆ เลยล่ะครับ และถ้านำไปเปรียบเทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็ บอกได้คเลยครับว่าประสิทธิภาพที่ออกมานั้นแตกต่างกันมาก อย่างเห็นได้ชัดเลยทีเดียว เรียกได้เลยครับว่า เปิดปุ๊ป ติดปั๊ป ฉับไวสุด ๆ เร็วกว่ามาตรฐาน SATA 3 หลายช่วงตัวเลยครับ

รูปจาก notebookspec.com

จากนั้นครับลองมาทดสอบประสิทธิภาพด้วยโปรแกรม PCMark 10 Advance กันบ้าง หลังจากที่เราทดสอบแล้วนะครับสามารถทำคะแนนทดสอบออกมาได้ถึง 3809 คะแนนเลยทีเดียว สูงมาก ๆ ถือได้ว่าการทำงานทั่ว ๆ ไปนั้นทำได้อย่างดีมีประสิทธิภาพหายห่วงเลยครับ

และในส่วนของการเล่นเว็บ การทำงานด้านเอกสารต่าง ๆ การตกแต่งรูปภาพกราฟฟิก รวมทั้งงานด้านตัดต่อคลิปวีดิโอ ก็สามารถทำได้อย่างดีไม่มีปัญหาเลยครับ

Battery / Heat / Noise

รูปจาก notebookspec.com

ในส่วนของเบตเตอรี่นั้น จะเป็นแบบอยู่ในตัวเครื่องเลย เหมือน ๆ กับโน๊ตบุ๊คทั่วไปที่อยู่ในท้องตลาดในปัจจุบันครับ แบตเตอรี่ของรุ่นนี้มีขนาด ประมาณ 4,500 mAh สามารถใช้งานได้อย่างยาวนานประมาณเกือบ ๆ 9 ชั่วโมงครับ ในการใช้งานด้านการดูยูทูปนั้น ถ้าผ่านไวไฟ ถือได้ว่าเป็น Ultrabook หน้าของจอ 13.3″ อีกรุ่นหนึ่งที่แบตสามารถใช้งานได้อย่างยาวนานในระดับนึงครับ

ถือได้เลยว่าในการใช้งานจริงนั้นน่าประทับใจเลยล่ะครับเพื่อน ๆ แถมยังเบาบาง น้ำหนักเบาพกพาไปทำงานนอกสถานที่ได้ทั้งวัน ทุกวัน ยังเสาร์อาทิตย์เลยทีเดียว และอีกอย่างที่ดีมากคือเทคโนโลยีรองรับระบบชาร์จเร็วครับ ที่ระยะเวลาในการชาร์จได้ถึง 80% นั้นใช้ระยะเวลาประมาณชั่วโมงเดียวแค่นั้นเอง ด้วยอแดปเตอร์ขนาด 65Watt ครับ

รูปจาก notebookspec.com

สำหรับผลการตรวจสอบอุณหภูมิขณะเครื่องทำงานปกติ มีเปิดโปรแกรมทำงานอยู่ด้วยบางส่วน โดยเราได้ทำการทดสอบในห้องแอร์ที่ปรับอุณหภูมิไว้ประมาณ 26 องศาครับ จะพบว่าความร้อนของ CPU นั้นอยู่ที่ 47 องศา เรียกได้ว่าอยู่ในระดับปกติของโน้ตบุ๊กชนิดบางเบาที่ใช้ชิป Core i7 ครับ

แต่เมื่อลองนำไปทดสอบการประมวลผลหนัก ๆ แล้วนั้น จะเห็นว่าอุณหภูมิสูงสุดของ CPU นั้นพุ่งไปสูงสุดที่ 99 องศาเลยครับ ถึงแม้ว่าเราจะเห็นอุณหภูมิสูงสุดของ CPU นั้นพุ่งไปสูงสุดที่ 99 องศา แต่ความร้อนที่ออกมาจากตัวเครื่องก็ไม่ได้รบกวนการทำงานใด ๆ เลยนะครับ และถ้าเราไม่ได้ใช้งานหนัก ๆ อะไร ตัวเครื่องของเจ้า Lenovo YOGA S730 ก็ระบายความร้อนออกมาได้ดีอยู่แล้วครับ สบายมากครับ

อย่างไรก็ดี ในส่วนของช่องดูดลมเข้าไปในเครื่องจะอยู่ที่ฝาปิดด้านล่างครับ ดังนั้นครับ ผมอยากแนะนำว่าระหว่างการทำงานนั้น อย่าหาอะไรไปปิดกั้นช่องนี้นะครับ และรวมถึงช่องร่องต่าง ๆ ตามคีย์บอร์ดด้วย หรือถ้าเพื่อน ๆ ต้องการหาแท่นระบายความร้อนมาที่มีพัดลมอยู่ใต้เครื่องมาช่วยนั้น ควรที่จะเลือกแท่นที่มีพัดลมเป่าขึ้นมายังด้านบนครับ เพื่อที่มันจะช่วยให้พัดลมเย็นขึ้นมาช่วยให้ไหลผ่านเข้าไปในตัวเครื่องได้เร็วขึ้นครับ

จุดเด่น

  • มีดีไซน์ที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ตามสไตล์ Lenovo Yoga มีความหรูหรา ดูดี พรีเมียมมาก ๆ ครับ
  • วัสดุใช้ทำมาจากอะลูมิเนียมอัลลอยด์ทั้งตัวเครื่อง ทำให้มีความแข็งแรง งานประกอบดูแน่นหนามาก ๆ
  • น้ำหนักเบา ขอบจอบาง พกพาง่าย สบายมาก
  • ฮาร์ดดิสก์ SSD M.2 NVMe มีความรวดเร็วในการใช้งานดีทีเดียว
  • หน้าจอความละเอียด Full HD พาเนล IPS ภาพคมชัด สีสวย
  • ติดตั้ง USB 3.1 Type-C จำนวน 3 พอร์ต รองรับ Thunderbolt 3 จำนวน 2 พอร์ต
  • มีสแกนลายนิ้วมือ ใช้งานผ่านทาง Windows Hello ได้
  • รองรับระบบ Rapid Charge  ที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ถึง 80% ในระยะเวลา 1 ชั่วโมง
  • ลำโพงทำงานร่วมกับเทคโนโลยี Dolby Atmos ได้เสียงที่กระหึ่ม คมชัด เร้าใจ
  • มีระบบปฏิบัติการ Windows 10 มาให้
  • รับประกัน 2 ปี  แบบ On-site Service

ข้อสังเกต

  • อุณหภูมิตรวจสอบด้วยโปรแกรม เวลาทำงานหนัก ๆ อุณหภูมิจะสูงครับ
  • ตัดพอร์ต USB Type-A, HDMI, SD Card Reader ออกหมดเลย
  • และไม่มีมีอแดปเตอร์แปลงเป็นพอร์ตอื่น ๆ มาให้ในบันเดิลด้วยครับ

สรุป

รูปจาก notebookspec.com

สำหรับเจ้า Yoga S730 ถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คอีกตัวที่ทุก ๆ คนให้ความสนใจอย่างมากทีเดียวครับ เพราะตัวนี้ได้ต่อยอดความสำเร็จมาจากรุ่น Lenovo Ideapad 720s ซึ่งถือว่าเป็นรุ่นที่ประสบความสำเร็จอย่างมากเลยตัวหนึ่งครับ

โดยได้เปลี่ยนซีรีย์มาเป็น YOGA สำหรับตัวนี้นะครับก็มีความเพียบพร้อมในด้าน การออกแบบดีไซน์ครับ ภาพลักาณ์ วัสดุที่นำมาใช้ผลิต ด้านการประกอบ รวมไปถึงประสิทธิภาพของสเปคก็ดีมาก ๆ ครับ สมแล้วครับที่เป็น Ultrabook ระดับสูงของทาง Lenovo

เจ้า Lenovo Yoga S730 ตัวนี้นะครับ จุดเด่นในเรื่องของความบางเบา สามารถพกพาไปทำงานนอกสถานที่ได้อย่างคล่องตัว เบาสบาย บางเฉียบสมเป็น Ultrabook รุ่นใหม่ รวมทั้งยังมีน้ำหนักที่เบามากเพียงแค่ 1 กิโลกรัมนิด ๆ เท่านั้นเอง ขอบจอบางให้ประสบการณ์การใช้งานที่ยอดเยี่ยม เรียบหรู ดูดีอีกด้วย

และอีกอย่างที่ต้องพูดถึงครับ คือการใช้งานคีย์บอร์ด นี่ก็เป็นจุดเด่นอีกจุดครับ เพราะใช้งานได้ดีมาก ๆ เลย นับได้ว่าเป็นจุดเด่นมาก ๆ ของแบรนด์ Lenovo เลยก็ว่าได้ครับ

ส่วนประสิทธิภาพการทำงานของเจ้า Yoga S730 ก็เพียบพร้อม ครบถ้วน มีประสิทธิภาพจัดเต็ม ครบครันเลยทีเดียว ทั้งในด้านของชิปประมวลผล Core i5 / i7 Gen 8 รุ่นล่าสุด รวมถึงแรม 8 – 16 GB และ SSD ในเครื่องอีก 512 GB หน้าจอ 13.3″ คุณภาพสูงพาเนล IPS ความละเอียด Full HD คมชัดสุด ๆ เพลินตาเวลาใช้งานมาก

รวมทั้งยังได้ Windows 10 มาตั้งแต่แกะกล่องเลยด้วยครับ ไม่ว่าจะทำงานทั่ว ๆ ไป หรือการใช้งานเพื่อความบันเทิง ดูหนัง ฟฟังเพลง เล่นเกมส์ เพื่อคลายเครียด ตอบโจทย์ของผู้ใช้งานได้อย่างรอบด้านครับ

สุดท้ายอย่างไรก็ดี Lenovo Yoga S730 ตัวนี้อาจจะไม่ได้เกิดมาสำหรับทุกคนนะครับ แต่ว่าเน้นประสบการณ์ในเรื่องของความบางเบาและพกพาได้ง่าย สะดวกสบาย พร้อมกับความพรีเมี่ยมหรูหรามากกว่า เพราะว่าด้วยพอร์ตเชื่อมต่อที่มีเพียง USB Type-C (Thunderbolt 3) ทำให้คนที่มีความต้องการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เดิมๆ อาจจะพก Hub เพิ่มนั่นเอง

สำหรับราคาเริ่มต้นของรุ่นนี้คือ 32,990 บาท ถือว่าเป็นรุ่นที่ค่อนข้างดีและลงตัวทุก ๆ อย่างแล้วครับ น่าหามาไว้ครอบครองซักตัว แต่ถ้าใครอยากได้สเปคแรง ๆ ก็สามารถเลือกได้เช่นกันครับ สำหรับวันนี้ต้องขอตัวลาไปก่อนนะครับ แล้วพบกันใหม่รีวิวหน้าครับ สวัสดีครับ

ขอบคุณข้อมูลจาก : https://notebookspec.com

About the Author: Tangthon

สวัสดีครับ ผมตังค์ทอน ผู้ที่มีความสนใจของใช้ต่าง ๆ ทั้งภายในบ้าน และนอกบ้าน เพราะเป็นของใช้ที่มีประโยชน์ ช่วยอำนวยความสะดวกได้ดี และใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน ผมจึงอยากเขียนรีวิวแนะนำสินค้าต่าง ๆ รวมทั้งแนะนำวิธีการเลือกซื้อเพื่อให้ผู้ที่สนใจและกำลังมองหาสินค้านั้น ๆ ได้ทราบ เพื่อที่จะได้นำไปใช้ในการตัดสินใจ ให้สามารถเลือกได้ง่ายยิ่งขึ้น สิ่งไหนดี สิ่งไหนน่าใช้ ยี่ห้อไหนดี รุ่นไหนดีที่สุด สามารถหาคำตอบได้ จากในบทความเลยครับ

You might like