สวัสดีครับเพื่อน ๆ ในช่วงเวลาวันหยุดนั้น การได้ออกไปเที่ยวนอกบ้านกันทั้งครอบครัว เป็นอะไรที่มีความสุขมาก ๆ เลยครับ แต่การขับรถไปกันนั้น ก็ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของลูก ๆ ด้วย ดังนั้นในรถจึงต้องมี คาร์ซีท ด้วยครับ
ในการขับรถแล้วมีลูก ๆ ไปด้วยนั้นนะครับ พ่อแม่อย่างเรา ต้องให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของลูก ๆ เป็นอันดับแรกเลย เพราะถ้ามีเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นมา เด็ก ๆ จะไม่สามารถรับความเสียหาย
ได้เท่ากับผู้ใหญ่อย่างเรานะครับ ถ้าเป็นแบบนั้นคงจะเป็นอะไรที่เลวร้ายมากเลย สำหรับสถานการณ์อย่างนี้ ถ้าเรามี คาร์ซีท ติดตั้งไว้ในรถ จะช่วยลดอาการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นกับลูกได้อย่างมากเลยครับ
สำหรับ คาร์ซีท (Car Seat) นั้นเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ แม่และเด็ก ที่ต้องมีไว้ใช้งานอย่างยิ่ง เพื่อความปลอดภัยของเด็ก ๆ นั่นเอง เด็ก ๆ นั้นร่างกายยังเจริญเติบโตไม่เพียงพอ ที่จะใช้งานเข็มขัดนิรภัยได้
ทำให้ คาร์ซีท เข้ามามีบทบาทในเรื่องนี้ เพราะตัวคาร์ซีทนั้น ได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับสรีระร่างกายของเด็กโดยเฉพาะ ทำให้เกิดความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น พ่อแม่บางคนอาจจะคิดว่า ไม่เป็นไรหรอก
ถ้าต้องเดินทางเดี๋ยวให้ลูกนั่งตักก็ได้ ไม่ครับ ไม่ได้เลย ถ้าเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น พ่อแม่จะไม่สามารถป้องกันได้อย่างทันท่วงทีเลยครับ เพราะฉะนั้น ติดตั้งคาร์ซีทเพื่อลูก ๆ จะดีที่สุดเลยครับ
มาถึงตรงนี้ เพื่อน ๆ ก็คงสนใจที่จะซื้อคาร์ซีทไว้ให้ลูก ๆ บ้างแล้วใช่ไหมครับ ถ้าอย่างนั้น วันนี้ครับ ตังค์ทอน จะมาแนะนำ 10 อันดับ คาร์ซีท (Car Seat) ยี่ห้อไหนดี ติดตั้งได้ง่ายดาย เบาะนุ่มนั่งสบาย
ช่วยให้ลูกน้อยมีความปลอดภัย มาให้เพื่อน ๆ ได้รับทราบกัน รวมไปถึง ยังมีข้อมูลต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ ที่เพื่อน ๆ ควรรับทราบไว้ เพื่อให้ลูกน้อยปลอดภัยมากที่สุด และจะมาแนะนำ วิธีการเลือกซื้อคาร์ซีท
ให้เพื่อน ๆ ได้ทราบด้วย ว่าคาร์ซีทมีกี่ประเภท อะไรบ้าง ควรเลือกแบบไหนจึงจะเหมาะสมกับเด็กแต่ละวัย ทั้งนี้ ก็เพื่อให้เพื่อน ๆ ได้คาร์ซีทที่ตรงกับความต้องการมากที่สุดครับ จะมีคาร์ซีทรุ่นไหนน่าสนใจบ้างนั้น ไปติดตามกันได้เลยครับ
10 อันดับ คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี สีสันสดใส ปลอดภัย เบาะนุ่มสบาย ระบายอากาศดีเยี่ยม ปี 2023
1. Nuna Exec คาร์ซีท คาร์ซีทเด็ก ISOFIX Nuna Exec All-in-one
แบรนด์ : Nuna(นูน่า) รุ่น : Exec น้ำหนักคาร์ซีท : 2kg แนะนำอายุ : 0-3 เดือน น้ำหนักที่แนะนำ : > 25 กก. ระยะเวลาในการรับประกัน : 3 ปี
Nuna Exec คาร์ซีท คาร์ซีทเด็ก ISOFIX Nuna Exec All-in-one คาร์ซีทแบบ all-in-one ได้รับการออกแบบดีไซน์ มาอย่างสวยงาม ดูดี ทันสมัย น่าใช้งานมาก ๆ สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งาน ได้ตามทุกช่วงวัย
สามารถใช้งานได้ตั้งแต่เด็กวัยแรกเกิด ไปจนถึงอายุ 12 ขวบได้อย่างสบาย ๆ ในส่วนของการใช้งานนั้น เหมาะทั้งแบบหันหน้าเข้าหาเบาะ หรือจะเป็น การหันหน้าออกจากเบาะ เพื่อปรับให้เป็นที่นั่งแบบบูสเตอร์ก็ได้
ในส่วนของพนักพิงศีรษะ สามารถปรับความสูงได้ถึง 12 ระดับ และในส่วนของพนักพิง ก็ปรับเอนได้ 8 ระดับ ตามความต้องการใช้งานได้เลย ต่อมา มีแผ่นรองนอนสำหรับเด็กอ่อน ที่ได้ทำการหุ้มด้วยวัสดุ merino wool
ทำให้มีพื้นผิวสัมผัสที่นุ่ม สบาย อบอุ่น เด็ก ๆ สามารถนอนได้อย่างสบาย มีที่พักขาถอดซักได้ ปรับระดับได้ 5 ระดับ มาพร้อมกับ ระบบป้องกัน และ ลดแรงกระแทกด้านข้าง SIP (side impact protection system)
พร้อมด้วยเทคโนโลยี Aeroflex™ มีช่องเก็บสายเข็มขัด ที่ทำการเสริมด้วยโครงสร้างเหล็ก แข็งแรงมาก ๆ เมื่อปรับให้เป็นคาร์ซีทแบบบูสเตอร์ และสามารถเก็บสายได้ง่ายดายด้วย สำหรับคาร์ซีทรุ่นนี้ถือว่ายอดเยี่ยม น่าใช้งานมากครับ
จุดเด่น
- เป็นคาร์ซีทแบบ all-in-one ปรับเปลี่ยนได้ตามทุก ๆ ช่วงวัย
- คาร์ซีท หุ้มด้วยผ้า ผลิตจากวัสดุที่ไม่ลามไฟ
- มาพร้อมกับระบบป้องกัน และ ลดแรงกระแทกด้านข้าง SIP
- แผ่นรองนอน สำหรับเด็กอ่อน หุ้มด้วยวัสดุ merino wool ทำให้มีพื้นผิวสัมผัสที่นุ่มสบายอบอุ่น
- อากาศถ่ายเทได้ดีมาก ด้วยช่องระบายนอากาศบริเวณด้านหลังคาร์ซีท”
- มาพร้อมกับที่วางแก้วคู่ พับเก็บได้ทั้งสองข้าง
2. Nuna Rava คาร์ซีท คาร์ซีทเด็ก ติดตั้งBelt และ ISOFIX
แบรนด์ : Nuna (นูน่า) รุ่น : Rava แนะนำอายุ : 0-3 เดือน ระยะเวลาการรับประกัน : 3 ปี ขนาด : h 25 x w 19 x l 16 in น้ำหนัก : 13 KG
Nuna Rava คาร์ซีท คาร์ซีทเด็ก ติดตั้งBelt และ ISOFIX คาร์ซีทคุณภาพดี ดีไซน์สวย ได้รับการออกแบบมาเป็นอย่างดี มีความปลอดภัยสูง สำหรับคาร์ซีทรุ่นนี้นะครับ มีโครงสร้างเก้าอี้ ที่มีความแข็งแรงมาก ๆ
ทนทาน สามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน สามารถปรับรูปแบบการใช้งานได้ถึง 3 รูปแบบ ตามแต่ละช่วงวัยของเด็กครับ เหมาะสำหรับใช้งานกับเด็กวัยแรกเกิด ไปจนถึงอายุ 9 ขวบเลย หรือสามารถรับน้ำหนักได้ 30 กิโลกรัม
สำหรับคาร์ซีทรุ่นนี้ รองรับการใช้งานกับรถยนต์ได้ทุกรุ่น ใช้งานได้ทั้ง Belt 2 จุด และ 3 จุด การติดตั้งง่ายดาย ไม่ได้ยุ่งยากแต่อย่างใด ด้วยสาย Belt หรือ ISOFIX เพียงสอดสายใส่กล่อง เพื่อล็อกเท่านั้น
เนื้อผ้าทำมาจากเส้นใย Lyocell ที่ไม่ผสมสารเคมีเพื่อกันไฟลุกไหม้ สามารถปรับเอนเบาะได้ 10 ตำแหน่ง โดยจะแบ่งเป็น หันหน้าเข้าหาเบาะ 5 ระดับ และหันหน้าออก 5 ระดับ สามารถปรับความสูงของเบาะรองศีรษะได้
ในส่วนของ เบาะพักขาสามารถพับเก็บได้ได้อย่างสะดวก และยังมาพร้อมกับ sip ด้านข้างสำหรับลดแรงกระแทกด้วย ถ้าเพื่อน ๆ กำลังมองหาคาร์ซีทคุณภาพเยี่ยม แข็งแรงปลอดภัยเพื่อลูก ๆ ไม่ควรพลาดรุ่นนี้เลยครับ
จุดเด่น
- โครงสร้างแข็งแรง สามารถปรับใช้งานได้ 3 รูปแบบ
- รองรับน้ำหนักได้ถึง 30 กิโล หรือประมาณ 9 ขวบ
- ติดตั้งง่ายด้วยสาย Belt หรือ ISOFIX เพียงสอดสายใส่กล่อง เพื่อล็อก
- รองรับการใช้งานรถยนต์ทุกรุ่น ได้ทั้ง Belt 2จุด และ 3 จุด
- มีที่สำหรับใส่แก้วน้ำ ด้านซ้าย – ขวา
- เบาะปรับเอนได้ 10 ตำแหน่ง โดย หันหน้าเข้าหาเบาะ 5 ระดับ หันหน้าออก 5 ระดับ
- เนื้อผ้าทำจากเส้นใย Lyocell ที่ไม่ผสมสารเคมีเพื่อกันไฟลุกไหม้
- Safety : Aircraft US Standard FMVSS 213
3. Ailebebe คาร์ซีทแรกเกิด รุ่น Kurutto 6I Grance
แบรนด์ : Ailebebe รุ่น : Kurutto 6I Grance ประเภท : Rear-Facing Convertible Seats เหมาะสำหรับช่วงอายุ : แรกเกิด – 4 ปี ระบบนิรภัย : 5-point Seat Belt ระบบการติดตั้ง : ระบบ ISOFIX น้ำหนัก : 17.4 kg
Ailebebe คาร์ซีทแรกเกิด รุ่น Kurutto 6I Grance คาร์ซีทดีไซน์สวยงาม น่าใช้งาน ที่ผลิตมาเพื่อเด็กแรกเกิดอย่างแท้จริง สำหรับคาร์ซีทจากแบรนด์ดังอย่าง Ailebebe นี้ มีการใช้เนื้อผ้าที่ระบายอากาศดีเยี่ยม
และมีโครงสร้างการระบายอากาศที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้ไม่อับชื้น เหมาะสำหรับอากาศร้อนในบ้านเราเป็นอย่างยิ่ง ในส่วนของตัวเบาะ มีขนาดใหญ่ ปกป้องสรีระที่ยังไม่แข็งแรงได้อย่างมั่นใจ โดยเฉพาะในจุดสำคัญต่าง ๆ
อย่างเช่น ศีรษะ หลัง และสะโพก ช่วยลดความเสียหายจากอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดได้ มีพนักพิงขนาดใหญ่ ช่วยป้องกันตัวเด็กในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุได้เป็นอย่างดี ตัวคาร์ซีทหมุนได้ 360 องศา แถมยังหมุนง่ายด้วยมือเดียว
ช่วยให้สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกมากขึ้น สำหรับเบาะรองหลังนั้น ผลิตมาจากเส้นใยชนิดพลาสติกพิเศษ ที่จะช่วยลดสาเหตุอาการแพ้เส้นใยธรรมชาติ มีการถักทอด้วยเทคนิคพิเศษ ออกมาเป็นเป็นโครงสร้าง 3 มิติ
ช่วยให้ตัวผ้ามีความยืดหยุ่น แข็งแรง ระบายอากาศได้ดีเยี่ยม มีหลังคาที่สามารถคุมได้ถึงปลายเท้า ปกป้องแสงแดด และรังสี UV ที่อาจเป็นอันตรายต่อตัวเด็กได้อย่างดีอีกด้วย คุณภาพคับแก้วขนาดนี้ น่าซื้อมาใช้งานมากครับ
จุดเด่น
- ติดตั้งด้วยระบบ Isofix ติดตั้งได้ง่ายและมั่นคง
- มาพร้อม Auto Lock Isofix ระบบตัวช่วยควบคุมจากด้านหน้า
- สามารถหมุนได้ 360 องศา พร้อมการหมุนแบบ Baby Seat Turn หมุนง่าย หมุนได้แบบไร้เสีย
- เบาะสำหรับเด็กแรกเกิด มีขนาดใหญ่ ปกป้องสรีระที่ยังไม่แข็งแรงได้อย่างมั่นใจ
- ตัวเบาะที่ทำจากผ้าทอด้วยเทคนิคพิเศษ ซึ่งช่วยลดการสัมผัสกับผิวเด็กได้ ทำให้ระบายอากาศได้ดีเยี่ยม
- พนักพิงขนาดใหญ่ช่วยป้องกันตัวเด็กในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ
4. Chicco Nextfit Zip Air Car Seat คาร์ซีทสำหรับเด็กแรกเกิด – น้ำหนัก 29.5 กิโลกรัม
แบรนด์ : Chicco รุ่น : Nextfit Zip Air นั่งแบบหันหน้าเข้าได้สูงสุด : 22.67 กิโลกรัม นั่งแบบหันหน้าออกได้สูงสุดถึง : 29.5 กิโลกรัม ปรับระดับการนั่งได้ : 9 ระดับ สายรัดนิรภัยแบบ : 5 จุด
Chicco Nextfit Zip Air Car Seat คาร์ซีทสำหรับเด็กแรกเกิด – น้ำหนัก 29.5 กิโลกรัม คาร์ซีทคุณภาพยอดเยี่ยม ได้รับการออกแบบดีไซน์มาอย่างดูดี สวยงาม ทันสมัย สำหรับคาร์ซีทรุ่นนี้นะครับ
สามารถใช้นั่งได้ 2 รูปแบบ คือ รูปแบบที่1 จะเป็นนั่งแบบหันหน้าเข้าได้สูงสุด 22.67 กิโลกรัม และรูปแบบที่ 2 เป็นการนั่งแบบหันหน้าออกได้สูงสุดถึง 29.5 กิโลกรัม ในส่วนของการติดตั้งสำหรับใช้งาน
สามารถติดตั้งได้ง่ายทั้งแบบ LATCH (Isofix) และแบบใช้สายนิรภัยรถยนต์ ติดตั้งได้ง่าย ไม่ยุ่งยากแต่อย่างใด มาพร้อมกับระบบ Head Support ที่ช่วยในการซัพพอร์ตศีรษะ เมื่อลูกน้อยอยู่ในคาร์ซีท
ต่อมา มีพื้นที่สำหรับวางขาเพิ่มขึ้น 25% สำหรับโหมดหันหน้าไปด้านหลัง และ มีพื้นที่รองรับน่องเด็ก สำหรับโหมดหันไปข้างหน้าด้วย สามารถ ปรับระดับการนั่งได้ 9 ระดับ ได้ง่าย ๆ ด้วยมือเพียงมือเดียว
สามารถปรับระดับความสูงของพนักศีรษะได้มากถึง 9 ระดับ ตามความต้องการใช้งานเลย และมีสายรัดตรงเป้าเด็ก สามารถปรับให้เข็มขัดนิรภัยสำหรับรัดตัวเด็กกว้าง-ยาวขึ้นได้ สำหรับคาร์ซีทรุ่นนี้เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ไม่ควรพลาดครับ
จุดเด่น
- โครงสร้างเสริมเหล็ก มีความแข็งแรง ทนทาน
- คาร์ซีท ปรับได้ 2 รูปแบบ ปรับเอนนอนได้ถึง 9 ระดับ
- สามารถติดตั้งได้ง่ายทั้งแบบ LATCH (Isofix) และแบบใช้สายนิรภัยรถยนต์
- มาพร้อมกับสายรัดนิรภัยแบบ 5 จุด
- พนักพิงมาพร้อมเทคโนโลยีเบาะแบบ 3D Airmesh ตาข่ายที่ช่วยระบายอากาศได้ดี
- ตัวช่วยติดตั้งคาร์ซีทแบบใช้สายเบลท์ได้ง่ายมากขึ้นกว่าเดิม
- ได้รับมาตรฐาน Federal Motor Vehicle Safety Standard 213
5. Chicco Myfit Zip Air Car Seat คาร์ซีทเด็ก
แบรนด์ : Chicco รุ่น : Myfit Zip Air ขนาด : 53 x 72 x 47 cm น้ำหนัก : 14 kg เหมาะสำหรับ : เด็กน้ำหนัก 11.33 – 45.35 kg การติดตั้ง : ติดตั้งหันหน้าออกจากเบาะ รองรับระบบ ISOFIX : ใช่
Chicco Myfit Zip Air Car Seat คาร์ซีทเด็ก คาร์ซีทประสิทธิภาพเยี่ยมจากแบรนด์ดัง Chicco แบรนด์คุณภาพจากประเทศ อิตาลี ที่มั่นใจได้ในคุณภาพด้านความปลอดภัย ในส่วนของคาร์ซีทรุ่นนี้
มีโครงสร้างเสริมเหล็ก แข็งแรง และทนทานต่อการใช้งาน มาพร้อมพนักพิงศีรษะสามารถปรับระดับความสูงได้ 9 ระดับ ได้ตามต้องการ พนักพิงมาพร้อมเทคโนโลยีเบาะแบบ 3D AirMesh ตาข่ายที่ช่วยระบายอากาศได้ดี
ต่อมา คาร์ซีทรุ่นนี้ สามารถปรับระดับการนั่งได้ 4 ระดับ ได้ง่ายด้วยมือเดียว ไม่ยุ่งยาก มาพร้อมกับสายรัดตรงเป้าเด็ก สามารถปรับให้เข็มขัดนิรภัยสำหรับรัดตัวเด็กกว้าง-ยาวขึ้นได้ เบาะวัสดุเป็นโฟม 2 ชั้น
ผ้ามีความนุ่มเป็นพิเศษ และ มีรูปทรงโค้งช่วยให้นั่งสบายมากยิ่งขึ้น มาพร้อมเทคโนโลยี DuoGuard™ ช่วยป้องกันการกระแทกด้านข้างทั้งศีรษะและลำตัว เทคโนโลยี LockSure™ ช่วยยึดสายรัดนิรภัยให้แน่นขึ้น
และยังช่วยให้การติดตั้งเข็มขัดนิรภัยสะดวก ง่ายดาย และรวดเร็ว และได้รับมาตรฐานด้านความปลอดภัยสำหรับคาร์ซีทของสหรัฐอเมริกาอีกด้วย ถ้าเพื่อน ๆ ต้องการคาร์ซีทที่ฟังก์ชั่นครบครันปลอดภัย รุ่นนี้ตอบโจทย์ครับ
จุดเด่น
- สามารถปรับรูปแบบการใช้งานได้ 2 แบบ
- มีมาตรวัดด้านข้าง ช่วยให้การติดตั้งคาร์ซีทถูกตั้งทั้งสองแบบ
- โครงสร้างเสริมเหล็ก แข็งแรง และทนทานต่อการใช้งาน
- มาพร้อมกับมี ZIP ที่ช่วยให้การถอดเบาะนั่งออกมาซักง่ายขึ้น
- เบาะวัสดุเป็นโฟม 2 ชั้น ผ้านุ่มเป็นพิเศษ และมีรูปทรงโค้งช่วยให้นั่งสบายมากยิ่งขึ้น
- มาพร้อมพนักพิงศีรษะสามารถปรับระดับความสูงได้ 9 ระดับ
- สามารถปรับระดับการนั่งได้ 4 ระดับ ได้ง่ายด้วยมือเดียว
6. Aprica คาร์ซีทสำหรับเด็กแรกเกิด – 4 ปี รุ่น Fladea Grow Isofix 360°
แบรนด์ : Aprica รุ่น : Fladea Grow Isofix 360° ประเภท : Rear-Facing Convertible Seats เหมาะสำหรับช่วงอายุ : แรกเกิด – 4 ปี ระบบนิรภัย : 5-point Seat Belt ระบบการติดตั้ง : ระบบ ISOFIX น้ำหนัก : 3.6 kg
Aprica คาร์ซีทสำหรับเด็กแรกเกิด – 4 ปี รุ่น Fladea Grow Isofix 360° สำหรับคาร์ซีทรุ่นนี้ มีรูปทรงที่สวยงาม น่าใช้งาน สามารถหมุนได้ 360° เมื่อทำการหมุนแล้ว จะสามารถล็อคได้ 4 ทิศทาง
เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานในแต่ละช่วงวัย ช่วยทำให้การเดินทางปลอดภัยมากที่สุด มาพร้อมกับระบบ SIDE SHEILD ระบบป้องกันการชนจากด้านข้าง ที่จะช่วยลด และทำการส่งผ่านแรงกระแทก
เมื่อมีการชนเกิดขึ้นที่ด้านข้างทั้ง 2 ฝั่ง ช่วยเพิ่มความปลอดภัย และยังลดอาการบาดเจ็บได้ดีมากยิ่งขึ้นอีกด้วย ต่อมา เบาะรองนอนที่ปกป้องสรีระเด็กจากแรงสั่นสะเทือนได้รอบศีรษะ ตลอดช่วงลำตัว
ไปจนถึงบริเวณปลายเท้า ให้สัมผัสนุ่มแต่ไม่ยวบ นอนสบาย ไร้กังวล มาพร้อมกับหลังคาขนาดใหญ่ พร้อมกับมีช่องระบายอากาศ 2 ช่อง ช่วยในการกรองแสงแดด ปกป้องผิวหนังของลูก และดวงตาที่บอบบางของลูก
ได้อย่างปลอดภัยถึง 99% และ โครงสร้างคาร์ซีทรุ่นนี้นะครับ ยังมีความสามารถในการระบายอากาศและความร้อนได้ดี ช่วยลดอุณหภูมิความร้านรอบตัวลูกลงได้ นั่งสบายไม่อับชื้นหลังไม่แฉะอีกด้วยครับ
จุดเด่น
- ตัวคาร์ซีทสามารถหมุนได้ 360 องศา สามารถดูแลน้อง อุ้มเข้าออก โดยไม่รบกวนลูกน้อย
- การติดตั้งด้วยระบบ ISOFIX ที่ตัวล็อคเชื่อมเป็นชิ้นเดียวกับคาร์ซีท ปลอดภัยสุงสุดตามมาตรฐานสากล
- มาพร้อมกับหลังคากัน UV ได้ 99% มีขนาดใหญ่ขึ้น และยังป้องกันลมและฝุ่นละอองบริเวณรอบๆ
- มี Guard ที่ล็อคการเคลื่อนไหวของศีรษะทารก ช่วยป้องกันแรงกระแทกจากด้านข้างและด้านหลัง
- สามารถปรับเป็นเตียงแบนราบที่มีเฉพาะใน Aprica ทำให้ทารกนอนสบาย หายใจสะดวก ไม่กดทับท้อง
- มาพร้อมกับระบบระบายอากาศ Thermomedical System ลิขสิทธิ์เฉพาะ Aprica
- ตัวเข็มขัดล็อค 5 จุด แบบเรียบ สามารถถอดเข็มขัดได้อย่างง่ายดาย
7. Graco 4Ever Deluxe Car Seat – Fairmont คาร์ซีทแบบ 4 In 1
แบรนด์ : Graco รุ่น : 4Ever Deluxe ประเภท : ติดตั้งถาวร เหมาะสำหรับ : เด็กน้ำหนัก 1.8-54.5 กิโลกรัม การรับประกัน : รับประกัน 5 ปี
Graco 4Ever Deluxe Car Seat – Fairmont คาร์ซีทแบบ 4 In 1 คาร์ซีทสุดแข็งแรง ปลอดภัย ใช้งานได้อย่างง่ายดาย สำหรับคาร์ซีทจากแบรนด์ดังอย่าง Graco ผลิตภัณฑ์เด็กจากประเทศอเมริกานี้นะครับ
ได้รับการออกแบบตัวคาร์ซีทมา โดยคำนึงถึงความทนทาน แข็งแรง และเพิ่มความปลอดภัยสูงสุดให้กับลูกน้อย สามารถติดตั้งได้ง่ายดาย ไม่ยุ่งยาก ใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้น สามารถใช้คาร์ซีรุ่นนี้
ได้อย่างยาวนานเลย ใช้ได้ถึงช่วงอายุ 10 ปี หรือ มีน้ำหนักประมาณ 54.5 กิโลกรัมเลยครับ ในส่วนของตัวคาร์ซีท โครงสร้างเสริมเหล็กมีความแข็งแรงทนทาน สามารถปรับเอนนอนได้ 6 ระดับตามความต้องการใช้งาน
ต่อมาครับ สามารถปรับระดับความสูงของศีรษะได้ง่าย ๆ ด้วยมือเดียว โดยจะสามารถปรับได้ถึง 10 ระดับให้เหมาะสมกับสรีระร่างกายแต่ละช่วงวัยของลูกน้อย มีระบบ Integrated Belt Lock-Off
คลิปล็อกสายพานในตัวเพื่อไม่ให้ไม่ให้สายนิรภัยคลายตัวขณะติดตั้งคาร์ซีท และระบบ RapidRemove เบาะนั่งสามารถถอดออกได้ภายใน 60 วินาทีโดยไม่ต้องถอนการติดตั้งเบาะ เป็นคาร์ซีทที่ใช้งานง่าย คุ้มค่าน่าใช้งานมากครับ
จุดเด่น
- สามารถติดตั้งได้อย่างง่ายดาย ในเวลาอันรวดเร็ว
- ใช้งานได้นานถึงช่วงอายุ 10 ปี หรือน้ำหนักประมาณ 54.5 กิโลกรัม
- โครงสร้างเสริมเหล็กมีความแข็งแรงทนทาน
- สามารถปรับระดับความสูงของศีรษะได้ง่ายด้วยมือเดียว ถึง 10 ระดับ
- สามารถปรับเอนนอนได้ 6 ระดับ
- มาพร้อมกับช่องวางแก้วน้ำ 2 ช่อง
- มีสายนิรภัยแบบ 5 จุด สามารถปรับได้ง่าย
- ตัวเบาะสามารถถอดออกซักได้อย่างสะดวกง่ายดาย
8. Recaro Young Sport Hero – Deep Black คาร์ซีท สำหรับเด็ก
แบรนด์ : Recaro รุ่น : Young Sport Hero ประเภท : High Back Booster เหมาะสำหรับช่วงอายุ : 9 เดือน – 12 ปี ระบบนิรภัย : 5-point Seat Belt ระบบการติดตั้ง : ระบบเข็มขัดนิรภัย น้ำหนัก : 8 kg ฟังก์ชันเพิ่มเติม : พนักพิงศีรษะปรับได้
Recaro Young Sport Hero – Deep Black คาร์ซีท สำหรับเด็ก คาร์ซีทแบรนด์คุณภาพจากประเทศเยอรมัน ที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน อีกทั้งยังได้รับรางวัล German Design Award 2017 มาแล้วด้วย
ทำให้มั่นใจได้ในคุณภาพจากแบรนด์นี้เลยครับ ในส่วนของคาร์ซีทรุ่นนี้นะครับ เป็น Booter Seat สำหรับเด็กน้ำหนัก 9 – 36 kg หรือ 9เดือน – 12 ขวบ ECE-Group 1/2/3 สามารถติดตั้งและใช้งานได้ง่าย
ไม่ยุ่งยากลำบากแต่อย่างใด สามารถติดตั้งและถอดออกได้สะดวก ด้วยระบบเข็มขัดนิรภัย มีความมั่นคง และมีความปลอดภัยสูง สามารถใช้งานได้กับรถทุกยี่ห้อทุกรุ่น ไม่มีปัญหาเลยครับ เบาะปรับมุมได้
มีโฟมเสริมที่ศีรษะ หัวไหล่และสะโพก ช่วยให้ปลอดภัยต่อตัวเด็ก และยังช่วยลดแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี ต่อมาครับ สามารถ ปรับความสูงของส่วนรองรับศีรษะได้หลายระดับ ตัวเบาะสามารถระบายอากาศได้ดี
ช่วยให้ไม่ร้อน และเพิ่มความสะดวกสบายให้มีมากยิ่งขึ้นครับ ภาพรวมของคาร์ซีทรุ่นนี้ ถือว่ามีฟังก์ชั่นการใช้งานมาให้ครบครัน และมีความปลอดภัยสูงด้วย ถ้าเพื่อน ๆ ต้องการคาร์ซีทเพื่อลูกน้อย รุ่นนี้น่าสนใจมากเลยครับ
จุดเด่น
- คาร์ซีทมีมีน้ำหนักเบาเพียง 8 กิโลกรัม เคลื่อนย้ายสะดวก และติดตั้งง่าย
- พนักพิงศีรษะสามารถปรับความสูงได้ 3 ระดับ
- ด้านข้างป้องกันแรงกระแทกสูงสุดแบบ ADVANCED SIDE
- พนักพิงศีรษะปรับความสูงได้ 3 ระดับ พร้อมเข็มขัดนิรภัย 5 จุด
- สามารถปรับเป็นบูสเตอร์เด็กโตได้ สำหรับเด็กกรุ๊ป 2 และ กรุ๊ป 3
- การติดตั้งง่ายดายด้วยเข็มขัดนิรภัยรถยนต์ ตามมาตรฐานสากล
9. GLOWY คาร์ซีท รุ่น Banana Banoffee Carseat แรกเกิด-36 กก.
แบรนด์ : GLOWY รุ่น : Banana Banoffee Carseat ประเภท : ติดตั้งถาวร เหมาะสำหรับ : น้ำหนักแรกเกิดถึง 36 kg การรับประกัน : รับประกัน 1 ปี
GLOWY คาร์ซีท รุ่น Banana Banoffee Carseat แรกเกิด-36 กก. คาร์ซีทที่ได้รับการออกแบบดีไซน์มาอย่างสวยงาม ดูเท่มาก ๆ สามารถใช้งานได้กับเด็กตั้งแต่อายุแรกเกิด ไปจนถึงอายุ 12 ขวบ
ในส่วนของคาร์ซีทรุ่นนี้นะครับ ได้ผ่านการตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยจากสถาบัน TUV SUD Auto Service ประเทศเยอรมัน และได้มีการขึ้นทะเบียนมาตรฐานความปลอดภัยของยุโรป ECE R44/04 ที่ RDW
ประเทศเนเธอร์แลนด์มาเรียบร้อยแล้ว ทำให้มั่นใจในความปลอดภัยได้เลยครับ โดยติดตั้งด้วยระบบ ISOFIX และเข็มขัดนิรภัยของรถยนต์แบบ 3 จุด สามารถปรับเอนได้ถึง 135 องศา รวมไปถึง
ปรับเอนได้ 4 ระดับ ระดับเอนนอนที่ 5 เหมาะสำหรับ Group 0+ ต่อมา มาพร้อมกับ เบาะรองเสริมพิเศษสำหรับเด็กที่มีน้ำหนักน้อยกว่า 9 กก. ช่วยให้เด็กสามารถนั่งได้อย่างสะดวกสบายและช่วยโอบอุ้มตัวลูกน้อยได้ดีขึ้น
ในส่วนนี้ สามารถถอดออกได้เมื่อลูกโตขึ้น มีการบุด้วยฟองน้ำชนิดพิเศษบริเวณที่นั่ง ที่จะช่วยรองรับแรงกระแทก และให้ความนุ่มสบายมากยิ่งขึ้นด้วยครับ สำหรับคาร์ซีทรุ่นนี้ มาพร้อมกับความปลอดภัยสูงมาก ควรมีไว้ใช้งานเลยครับ
จุดเด่น
- ใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิด – 12 ขวบ หรือ (0-36 Kg)
- ผ่านการตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยจากสถาบัน TUV SUD Auto Service ประเทศเยอรมัน
- ปรับเอนได้ 4 ระดับ ระดับเอนนอนที่ 5 เหมาะสำหรับ Group 0+
- เข็มขัดปรับความสูงได้ 4 ระดับ เพื่อให้เหมาะสมกับความสูงของเด็กที่เพิ่มขึ้น
- เป็นเข็มขัดนิรภัยแบบ 5 จุด
- มีการเพิ่มโครงสร้างกันกระแทกด้านข้าง เพื่อความปลอดภัยยิ่งขึ้น
10. Joie Stages คาร์ซีท คาร์ซีทเด็ก ใช้ได้ แรกเกิด – 7 ปี
แบรนด์ : Joie (โจอี้) รุ่น : Stages น้ำหนัก : 5kg แนะนำอายุ : 0-3 เดือน น้ำหนักที่แนะนำ : 0-5 กก. ระยะเวลาการรับประกัน : 3 ปี การติดตั้ง : ติดตั้งหันหน้าเข้าหาเบาะ และ ติดตั้งหันหน้าออกจากเบาะ
Joie Stages คาร์ซีท คาร์ซีทเด็ก ใช้ได้ แรกเกิด – 7 ปี คาร์ซีทคุณภาพดี คุ้มค่าน่าใช้งาน จากแบรนด์ดังอย่าง Joie แบรนด์ดังจากประเทศอังกฤษ ที่มั่นใจได้ในเรื่องความปลอดภัย สำหรับคาร์ซีทรุ่นนี้
ได้รับการออกแบบมาให้สามารถใช้งานได้ง่าย มีหลากหลายฟังก์ชั่น ใช้งานได้ตั้งแต่เด็กแรกเกิด ไปจนถึงอายุ 7 ปี สามารถปรับใช้งานได้ทั้งหมด 3 รูปแบบ ตามช่วงวัย ในส่วนของการติดตั้งนั้น
ติดตั้งง่ายด้วยเข็มขัดนิรภัย การติดตั้งหันหน้าเข้าหาเบาะนั้น จะเหมาะสำหรับเด็กวัย 0+ ถึง 18 KG / 4ขวบ และในส่วนของการติดตั้งหันหน้าออกจากเบาะ จะเหมาะสำหรับเด็ก 9 kg ถึง 25 KG/ 7 ขวบ ครับ
ต่อมา ด้วยโครงสร้างพิเศษแบบ Baby Armor ช่วยทำให้การติดตั้งคาร์ซีทแข็งแรงมั่นคงยิ่งขึ้น และยืดอายุการใช้งานได้นานถึง 10 ปี ในส่วนของเบาะนั่ง เบาะสามารถรองรับสรีระเด็กแรกเกิด ระบายอากาศ ได้ดี
เบาะรองศีรษะปรับ สูง – ต่ำ ได้ 5 ระดับ มีสายคาดนิรภัยแบบ 5 จุด ตามมาตรฐาน สากล สามารถปรับระดับได้ และปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วยระบบ Double Lock เข็มขัดนิรภัยในขณะติดตั้ง สำหรับคาร์ซีทรุ่นนี้ถือได้ว่าดีเยี่ยมน่าใช้งานครับ
จุดเด่น
- คาร์ซีทเด็กใช้ได้ แรกเกิด-7 ปี
- สามารถปรับใช้งานได้ 3 รูปแบบตามช่วงวัยที่เหมาะสม
- ติดตั้งสามารถทำได้ง่ายดายด้วยเข็มขัดนิรภัย
- เบาะรองรับสรีระเด็กแรกเกิด ระบายอากาศ ได้ดี
- ปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วยระบบ Double Lockเข็มขัดนิรภัยในขณะติดตั้ง
- มีเครื่องหมายบอกวิธีการติดตั้งอยู่ด้านข้าง
- มาพร้อมกับสายคาดนิรภัยแบบ 5 จุด ตามมาตรฐาน สากล สามารถปรับระดับได้
คาร์ซีท คืออะไร
คาร์ซีท คือ ที่นั่งในรถสำหรับเด็ก ที่เสริมเข้าไปเพื่อให้เด็กนั่ง โดยคาร์ซีทนี้ จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับเด็ก และยังช่วยลดความรุนแรงเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดทางรถยนต์ได้ ที่ต้องให้เด็กนั่งคาร์ซีท
ก็เพราะว่า เด็กนั้นร่างกายยังเล็กอยู่ ทำให้เข็มขัดนิรภัยไม่สามารถปกป้องเด็กเมื่อเกิดอุบัติเหตุได้ ทำให้ต้องใช้คาร์ซีทสำหรับเด็ก โดยตัวคาร์ซีท มาพร้อมกับคุณสมบัติในการลดแรงเหวี่ยงกระแทกต่อศีรษะบริเวณท้ายทอย
และกระดูกสันหลังได้ รวมทั้งคาร์ซีทยังช่วยให้เด็กทารกนั่งได้อย่างเหมาะสม โดยช่วยพยุงคอและหลังของเด็กให้อยู่ในท่าตรงได้อย่างเหมาะสมด้วย ในส่วนของการใช้งานคาร์ซีทนั้น จะเหมาะแก่การใช้งาน
ตั้งแต่เป็นเด็กทารกเลย ไปจนถึงอายุ 8 ปี ทำให้เด็กสามารถนั่งในท่าที่เหมาะสม และนั่งได้อย่างสบาย เพราะตัวคาร์ซีทได้รับการออกแบบมาให้มีความสูงที่เหมาะสม สำหรับให้เด็กนั่ง ช่วยให้เด็กสามารถนั่งห้อยขาได้พอดี
และสามารถคาดเข็มขัดนิรภัยของตัวคาร์ซีทได้อย่างลงตัวด้วย ทำให้เด็ก ๆ ได้รับความปลอดภัยสูงสุดในระหว่างการเดินทาง และไม่ว่าคุณพ่อคุณแม่จะไปที่ไหน คาร์ซีทนี้ จะช่วยดูแลลูก ๆ ได้อย่างยอดเยี่ยมเลยครับ
คาร์ซีทนั้นมีความสำคัญหรือไม่
ในชีวิตของพ่อแม่นั้น ไม่มีอะไรจะสำคัญไปกว่าลูกน้อยอยู่แล้ว ดังนั้นความปลอดภัยในชีวิตของลูก ๆ เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ และคาร์ซีทที่เป็นผู้ช่วยดูแลความปลอดภัยของลูกน้อย ย่อมสำคัญอย่างแน่นอนครับ
ในการเดินทางแต่ละครั้งนะครับ เวลาที่พ่อแม่ต้องพาลูก ๆ ไปด้วย เมื่อต้องเดินทางไกล ๆ แน่นอนครับ เด็ก ๆ ก็คงจะเบื่อที่ต้องนั่งอยู่เฉย ๆ ทำให้พวกเด็ก ๆ อาจจะอยากย้ายที่นั่งบ้าง นอนยาวบ้าง
ขยับไปมาขอมานั่งกับแม่บ้าง หรือถ้าเบื่อมาก ๆ อาจจะกระโดดเล่นในรถกันเลยทีเดียวเชียว ทำให้ผู้เป็นพ่ออาจจะไม่สบายใจ เพราะถ้าเกิดเหตุฉุกเฉิน หรือต้องเหยียบเบรคแรง ๆ ลูกอาจจะล้มกระแทกภายในรถได้
จนอาจเป็นสาเหตุให้ลูกบาดเจ็บนั่นเองครับ แบบนั้นไม่ดีอย่างแน่นอนครับ ทีนี้ครับ ถ้าเราให้เด็ก ๆ คาดเข็มขัดนิรภัยปกติล่ะ ดีไหม คำตอบคือ ไม่ค่อยดีครับ ยังอันตรายอยู่ เพราะว่าเด็ก ๆ นั้นความสูงยังไม่เพียงพอ
เข็มขัดนิรภัย จะสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพก็ต่อเมื่อ ทำการคาดไว้ที่บริเวณตำแหน่งหน้าอก ไปจนถึงบริเวณหัวไหล่ นั่นแหละครับ เข็มขัดนิรภัยจะสามารถป้องกันอันตรายได้เต็มประสิทธิภาพ
แต่กับเด็ก ๆ ไม่ใช้วิธีการแก้ปัญหาที่ดีครับ ทำให้ต้องใช้คาร์ซีทสำหรับเด็กเท่านั้น ถึงจะดีที่สุด รวมไปถึงในหลาย ๆ ประเทศยังมีกฎหมายให้ต้องใช้คาร์ซีทออกมาด้วย อย่างเช่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์
อเมริกา อังกฤษ และ ญี่ปุ่น ที่ต้องให้เด็กนั่งคาร์ซีทกันตั้งแต่เด็กเล็ก ๆ เลยครับ รวมไปถึง นอกจากจะช่วยให้เกิดความปลอดภัยต่อเด็ก ๆ แล้ว ก็ยังมีส่วนช่วยให้เด็ก ๆ สามารถนั่งรถได้อย่างสบายด้วยนะ
เพราะคาร์ซีทจะช่วยให้เด็ก ๆ นั่งในระดับที่สูงขึ้น ทำให้มองเห็นวิวสวย ๆ นอกรถได้อย่างสบายใจ ถ้าเกิดง่วงนอน ก็ไม่มีปัญหาครับ สามารถนอนหลับได้เลย เพราะตัวคาร์ซีทจะมีที่รองคอมาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว
ช่วยให้คุณพ่อสามารถขับรถทางไกลได้อย่างสบายใจหายห่วง ไร้กังวลเรื่องลูกได้เลย และสุดท้ายก็อย่าลืมเปลี่ยนปรับประตูให้เป็นระบบ Child Lock ตรงตำแหน่งที่ติดตั้งคาร์ซีทไว้ด้วยนะครับ เพื่อความปลอดภัยมากยิ่งขึ้นครับ
ต้องรู้! ในประเทศไทยกฎหมายบังคับให้ใช้คาร์ซีทแล้วนะ
ในต่างประเทศนั้น เขาบังคับใช้กฎหมายคาร์ซีทกันไปแล้ว ในปัจจุบันประเทศไทยของเรา ก็เริ่มที่จะตระหนักถึงความปลอดภัยสำหรับเด็กมากยิ่งขึ้นแล้ว โดยเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2565 นั้นนะครับ
ได้มีการแก้ไขข้อกฎหมายจราจรทางบก ในเรื่องที่เกี่ยวกับการใช้งานคาร์ซีท สำหรับเด็กที่มีอายุไม่เกิน 6 ขวบ หรือเด็กที่มีความสูงไม่เกิน 135 ซม. ในส่วนนี้ก็เพื่อป้องกันเด็กให้ไม่ได้รับอันตรายและบาดเจ็บ
ที่เกิดจากอุบัติเหตุในการใช้รถใช้ถนน ในเวลาต่อมา วันที่ 5 กันยายน 2565 เป็นต้นไป กฎหมายนี้ก็ได้นำมาบังคับใช้เรียบร้อยแล้วนะครับ ถ้าผู้ใดไม่ปฏิบัติตาม หรือ ฝ่าฝืนกฎจะมีโทษจะปรับไม่เกิน 2,000 บาท
แต่ว่าในระยะแรก ๆ จะเป็นในรูปของการว่ากล่าวตักเตือนก่อน เพื่อให้ผู้ใช้รถใช้ถนน ได้รับทราบ ทำความเข้าใจ แล้วนำไปปฏิบัติเพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อเด็ก หลังจากนั้นก็อาจจะเริ่มมีการปรับขึ้นก็เป็นได้ครับ
ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ พ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2565
เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคมที่ผ่านมานะครับ ทางเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้ทำการเผยแพร่ พ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2565 โดยบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 120 วันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
โดยในราชกิจจานุเบกษามีสาระสำคัญ ดังนี้ครับ
มาตรา 7 ให้ยกเลิกความในมาตรา 123 แห่งพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 14/2560 เรื่อง มาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมาย
ว่าด้วยการจราจรทางบก ลงวันที่ 21 มีนาคม พุทธศักราช 2560 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทนมาตรา 123 ภายใต้บังคับมาตรา 123/1 ในขณะขับรถยนต์ ผู้ที่อยู่ในรถยนต์ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข ดังต่อไปนี้
(1) ผู้ขับขี่ ต้องรัดร่างกายด้วยเข็มขัดนิรภัยไว้กับที่นั่งตลอดเวลาในขณะขับรถยนต์
(2) คนโดยสาร
(ก) คนโดยสารที่นั่งแถวตอนหน้าและที่นั่งแถวตอนอื่น ต้องรัดร่างกายด้วยเข็มขัดนิรภัยไว้กับที่นั่งตลอดเวลาในขณะโดยสารรถยนต์
(ข) คนโดยสารที่เป็นเด็กอายุไม่เกิน 6 ปี ต้องจัดให้นั่งในที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก หรือนั่งในที่นั่งพิเศษสำหรับเด็กเพื่อป้องกันอันตราย หรือมีวิธีการป้องกันอันตรายในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ
(ค) คนโดยสารที่มีความสูงไม่เกิน 135 เซนติเมตร ต้องรัดร่างกายด้วยเข็มขัดนิรภัยไว้กับที่นั่ง หรือมีวิธีการป้องกันอันตรายในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะนั่งแถวตอนใด
ในกรณีที่ผู้ขับขี่หรือคนโดยสารมีเหตุผลทางสุขภาพอันไม่สามารถรัดร่างกายด้วยเข็มขัดนิรภัยไว้กับที่นั่งได้ ให้ได้รับยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามวรรคหนึ่ง แต่บุคคลนั้นต้องมีวิธีการป้องกันอันตรายในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ
ที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กและที่นั่งพิเศษสำหรับเด็กเพื่อป้องกันอันตรายตาม (2) (ข) และวิธีการป้องกันอันตรายในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุตามที่บัญญัติไว้ในมาตรานี้ ให้เป็นไปตามที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติประกาศกำหนด
พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า ‘พระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2565’ มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 120 วันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ทั้งนี้ หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท
วิธีการเลือกซื้อคาร์ซีท
1. เลือกตามประเภทของคาร์ซีทที่ต้องการใช้งาน
อันดับแรกเลยนะครับ ควรเลือกจากประเภทของ คาร์ซีท ที่ตรงกับความต้องการของเราครับ เพื่อให้เหมาะสำหรับแต่ละช่วงอายุของลูกนั่นเอง โดยจะมีทั้งหมด 3 ประเภทด้วยกันครับ ดังต่อไปนี้
1.1 คาร์ซีทแบบกระเช้าหรือแบบหันเข้าหาเบาะ
แบบแรกนี้จะเป็นคาร์ซีทที่เหมาะสำหรับเด็กเล็กครับ ที่ได้รับการออกแบบดีไซน์มาเพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับเด็กอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถแบ่งได้ 2 ประเภท คือ Infant Carrier Seats หรือคาร์ซีทแบบกระเช้า
ใช้สำหรับ เด็กแรกเกิด ไปจนถึงอายุ 1 ขวบ ที่น้ำหนักไม่เกิน 10 กิโลกรัม และแบบ Rear-Facing Convertible Seats ที่สามารถหันหน้าเข้าหาเบาะได้ แบบนี้จะเหมาะกับเด็กเล็กที่มีอายุ 9 เดือน ถึง 4 ขวบ
และมีน้ำหนักประมาณ 9 – 18 กิโลกรัมครับ ในส่วนของคารืซีทแบบนี้ เข็มขัดต้องล็อกตัวเด็กอย่างกระชับ และขอบเบาะจะต้องพอดีหรืออยู่สูงกว่าหัวเด็กประมาณเล็กน้อย เพื่อที่จะได้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพครับ
1.2 คาร์ซีทแบบมีพนักพิงด้านหลัง
สำหรับคาร์ซีทแบบนี้ ผลิตมาเพื่อเด็กโตนะครับ เป็นคาร์ซีทแบบเบาะพร้อมพนักพิงหลังแบบสูง ที่พบเจอได้บ่อย ๆ สามารถปรับใช้ได้กับเด็ก ๆ ได้หลายช่วงอายุ มีความปลอดภัยสูง เพราะว่ามีระบบเข็มขัดนิรภัยในเบาะตั้งแต่ 3 จุดขึ้นไป
มีพนักพิงใหญ่ บริเวณด้านข้างก็ยืนออกมา สามารถป้องกันทั้งตัวเด็กได้อย่างยอดเยี่ยม ตัวคาร์ซีทก็แข็งแรงทนทานมาก ๆ ทำให้ปลอดภัยสูงนั่นเอง เหมาะสำหรับเด็กที่มีอายุประมาณ 4 – 12 ขวบ น้ำหนักไม่เกิน 22 -36 กิโลกรัม
และส่วนสูงไม่เกิน 140 เซนติเมตร สำหรับคาร์ซีทประเภทนี้ ค่อนข้างที่จะสามารถใช้งานได้อย่างหลากหลาย คุ้มค่าคุ้มราคามาก แม้ว่าราคาอาจจะสูงไปนิด แต่ใช้งานได้อย่างครอบคลุม ก็ถือว่าดีมาก ๆ แล้วครับ
1.3 คาร์ซีทแบบเบาะนั่งเสริมความสูง
เบาะประเภทนี้ จะเป็นเบาะนั่งเสริม (Booster) ครับ มีลักษระเป็นเบาะแบบชิ้นเดียว ไว้ใช้สำหรับเสริมระดับให้เด็กนั่ง เพื่อให้ได้ระดับที่เพียงพอในการคาดเข็มขัดนิรภัยในรถได้ โดยจะใช้กับเด็กที่มีอายุ 3 ขวบขึ้นไป
มีน้ำหนักไม่เกิน 36 กิโลกรัมครับ แต่ก็ต้องบอกตามตรงว่า เบาะแบบเสริมนนี้ จะมีความปลอดภัยน้อยกว่าแบบแรก ๆ ที่ได้กล่าวไปแล้ว เพราะไม่ได้มีการปกกันได้อย่างรอบด้าน แต่เดินทางไม่ไกล ก็ถือว่ามีประโยชน์อยู่ครับ
2. ควรตรวจสอบให้ดีว่าคาร์ซีทรุ่นที่ต้องการใช้งานสามารถติดตั้งในระยนต์ได้
คุณพ่อคุณแม่ต้องตรวจดูให้ดีนะครับ ว่าคาร์ซีทที่ต้องการใช้งาน สามารถติดรถยนต์ได้หรือไม่ เพระว่าบางรุ่นนั้นมีข้อจำกัดอยู่เหมือนกัน อาจจะไม่สามารถติดตั้งได้กับรถบางรุ่น รวมไปถึงไม่ควรที่ติดตั้งยากด้วยนะครับ
ถ้าต้องการใช้งานแต่ติดตั้งยากมาก ติดผิดติดถูก ถ้าต้องลำบากแบบนี้ ไม่ควรใช้งานเลยครับ ซึ่งตามปกติกแล้วนั้น วิธีการติดตั้งจะมี 2 ระบบด้วยกัน คือ ระบบใช้เข็มขัดนิรภัย (Seat Belt) และ ระบบไอโซฟิกซ์ (ISOFIX) รายละเอียดดังนี้
-ระบบใช้เข็มขัดนิรภัย (Seat Belt) : ส่วนใหญ่เลยที่พบนะครับ หลาย ๆ คนติดตั้งไม่ถูกวิธี ทำให้ไม่สามารถช่วยให้เด็กได้รับความปลอดภัย บางรุ่นก็ยุ่งยาก ติดตั้งนานก็มี ข้อดีราคาถูกว่าระบบ ISOFIX และใช้งานได้กับรถหลายแบรนด์
– ระบบ ISOFIX : ระบบนี้ได้รับความนิยมอย่างสูง ติดตั้งง่าย ไม่ยุ่งยาก มีความปลอดภัยสูง สามารถป้องกันเบาะลื่นไหลได้เป้นอย่างดี แต่มีข้อสังเกตคือราคาค่อนข้างสูงไปนิด และใช้งานได้กับรถบางแบรนด์บางรุ่นเท่านั้นครับ
3. ต้องได้มาตรฐานความปลอดภัย
คาร์ซีทในท้องตลาดบ้านเราขณะนี้ มีหลายแบรนด์ หลายรุ่น มีทั้งผลิตในประเทศ และต่างประเทศ ราคาก็จะแตกต่างกันไป แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่า ตัวไหนได้มาตรฐาน ตัวไหนน่าเชื่อถือ วิธีการตรวจสอบก็คือ
มองหาข้อความ “ECE R44/04” ที่ระบุไว้บนฉลาก นั่นเองครับ เพราะข้อมูลแบบนี้ มีความหายว่า ได้ผ่านมาตรฐานด้านความปลอดภัยของสหภาพของยุโรปมาเรียบร้อยแล้วนั่นเอง นอกจากตรา “ECE R44/04” แล้วนะครับ
บางรุ่นก็ยังได้ผ่านการทดสอบความปลอดภัยอย่างเข้มงวดโดย ADAC หรือสมาคมรถยนต์เยอรมันมาอีกด้วยนะ ถ้าเห็นข้อความเหล่านี้ มั่นใจได้เลยครับว่า ได้มาตรฐานที่ดีแน่นอน ส่งผลให้เกิดความปลอดภัยต่อลูก ๆ สูงมากด้วยครับ
4. ถ้าตัวคาร์ซ๊ทสามารถพับเก็บหรือแยกส่วนได้จะดีมาก
ตามหลักแล้ว ตัวคาร์ซีทจะมีขนาดที่ใหญ่ มีความทนทานแข็งแรงสูง มีน้ำหนักมาก ทั้งนี้ก็เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดนั่นเอง ทำให้อาจจะลำบากในการเคลื่อนย้าย และการติดตั้งก็อาจใช้เวลานาน
ถ้าจะให้ดีนะครับ ควรเลือกตัวที่สามารถพับเก็บหรือแยกชิ้นส่วนออกจากกันได้ ถ้าทำได้นั้น จะช่วยให้เกิดความสะดวกสบายเป็นอย่างมาก และไม่หนักแรงอีกด้วย ดีกว่าตัวเดียวใหญ่ ๆ หนัก ๆ มากเลยครับ
5. ดูที่สามารถระบายอากาศได้เป็นอย่างดี และถอดซักได้ง่าย
เมื่อใช้งานไปสักระยะหนึ่งแล้วนะครับ เราจะพบว่าบริเวณตัวเบาะ จะมีคราบไคลติดอยู่ หรือพบกับเศษขนม เศษอาหารที่เด็ก ๆ อาจจะกินหล่นไว้ จนกลายเป็นแหล่งรวมของเชื้อโรคได้ ทางที่ดีนะครับ
ควรเลือกเบาะที่ทำมาจากวัสดุที่สามารถระบายอากาศได้ดี เช่น ผ้าตาข่าย ที่ไม่สะสมความชื้น ไม่มีการเหม็นอับ รวมไปถึงควรถอดซักทำความสะอาดได้ง่าย ๆ ด้วย เพื่อที่จะได้ทำความสะอาดเอาเศษขนมหรืออาหารออกไปให้หมดครับ
6. ควรมีฟังก์ชั่นอื่น ๆ ที่มีประโยชน์เสริมเพิ่มเติมมาให้ด้วย
หน้าที่หลัก ๆ ของคาร์ซีทนั้น คือคุณสมบัติด้านความปลอดภัย แต่ถ้ามีฟังก์ชั่นอื่น ๆ เสริมเข้ามาด้วย ก็จะยิ่งดีมากยิ่งขึ้นครับ ฟังก์ชั่นต่าง ๆ นั้นจะมีอะไรบ้างนั้น ไปดูรายละเอียดกันได้เลยครับ
6.1 สามารถปรับระดับและปรับความกระชับได้ด้วยปุ่มเดียว
เนื่องจากเด็กแต่ละคนนั้น จะมีรูปร่าง ความสูง ไม่เหมือนกัน เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควรที่จะสามารถปรับระดับได้อย่างสะดวก เพื่อให้สามารถนั่งได้กระชับ พอดีตัว และมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
6.2 มีคุชชั่นที่หนานุ่มสำหรับการเดินทางไกล ๆ
การนั่งนาน ๆ ไกล ๆ ย่อมเกิดการเมื่อยล้าขึ้น เบาะจึงควรที่จะหนานุ่มสักหน่อย เพื่อลดอาการปวดเมื่อย แต่ก็ไม่ควรที่จะหนานุ่มมากจนเกินไป เพราะจะกระจายน้ำหนักได้ไม่ดี ดังนั้นเลือกให้เหมาะสมคือไม่หนานุ่มมากไปนั่นเองครับ
6.3 มาพร้อมกับฟังก์ชั่นการปรับนอนได้
ในการเดินทางไกล ๆ นั้น แน่นอนว่าเด็ก ๆ ย่อมง่วงนอนเป็นธรรมดา ถ้าต้องหลับในท่านั่งคออาจพับไปด้านหน้า จนหายใจลำบากได้ ดังนั้น ควรที่จะสามารถปรับให้อยู่ในลักษณะนอนได้ด้วย เพื่อให้เด็กได้นอนในท่าที่เหมาะสมที่สุด
6.4 ควรเลือกที่ระบายอากาศได้ดีและสามารถถอดออกมาทำความสะอาดได้
เนื่องจากเบาะอาจจะเลือกนม น้ำลาย เหงื่อไคล หรือปัสสาวะ จนเกิดการอับชื้นขึ้น รวมไปถึงอาจจะเปื้อนอาหาร ขนมได้ จนกลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค เพื่อแก้ปัญหาที่กล่าวมา ควรถอดออกมาทำความสะอาดได้สะดวกง่ายดายครับ
6.5 มีช่องสำหรับใส่ขวดน้ำมาให้ด้วย
ฟังก์ชั่นนี้ถือว่ามีประโยชน์มาก ๆ เลยครับ เพราะไม่ต้องลำบากถือขวดนมเองเลย ลดภาระได้เป็นอย่างดี เอาเสียบ ๆ ไว้ในช่องพอดื่มเสร็จก็สามารถเก็บได้อย่างเรียบร้อยเลย รวมทั้ง ถ้าเด็กโตสามารถหยิบเองได้ พ่อแม่ไม่ต้องลำบากด้วยครับ
ใช้คาร์ซีทอย่างไรเพื่อให้เกิดความปลอดภัยมากที่สุด
ในการเลือกใช้งานคาร์ซีท คุณพ่อคุณแม่ควรเลือกซื้อรุ่นที่ได้มาตรฐาน และมีความทนทานแข็งแรง เพื่อที่จะได้เกิดความปลอดภัยสูงสุด แต่ว่า ต่อให้ดีเพียงใดก็ตาม ถ้าใช้ไม่ถูกวิธี ก็ไร้ประโยชน์ ดังนั้นเรามาดูข้อควรระวังกันนะครับ
- ควรเลือกใช้งานขนาดของคาร์ซีทที่เหมาะสมกับสรีระของลูก และตัวคาร์ซีทต้องได้มาตรฐานด้วยนะครับ
- ตรวจสอบคาร์ซีทว่าสามารถมีขนาดที่เหมาะสมกับขนาดเบาะรถยนต์หรือไม่ ถ้าคาร์ซีทเป็นระบบ ISOFIX ด้วยแล้วล่ะก็ ก็ต้องตรวจสอบว่ารถยนต์มีระบบ ISOFIX ด้วยหรือเปล่า เพื่อที่จะได้ใช้งานได้
- ศึกษาข้อมูลวิธีการติดตั้งจากคู่มืออย่างละเอียด เพื่อที่จะได้ติดตั้งได้อย่างถูกต้อง และเพื่อให้ใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
- ควรติดตั้งไว้ที่เบาะหลังจะดีที่สุด และก่อนทำการติดตั้งต้องตรวจสอบว่า ต้องติดตั้งคาร์ซีทแบบไหน หันหน้าเข้าเบาะ หรือ หันออกนอกเบาะ เพื่อที่จะได้ติดตั้งได้อย่างถูกต้อง
- ขั้นสุดท้ายคาดเข็มขัดนิรภัยให้เด็กให้ถูกต้อง ไม่ควรแน่นเกินไป หรือ หลวมเกินไปจน
สรุป
สุดท้ายนี้ครับ เพื่อความปลอดภัยของลูกน้อย เมื่อต้องเดินทางด้วยรถยนต์ เราจำเป็นต้องใช้งานคาร์ซีทครับ เพื่อที่จะได้ในเด็กได้นั่งได้อย่างปลอดภัย และข้อแนะนำอีกอย่างหนึ่งก็คือ ไม่ควรซื้อของมือสองมาใช้นะครับ
เพราะว่าของมือสอง อาจจะมีบางจุดที่เสียหาย หรือขัดข้องโดยที่เราไม่รู้ก็เป็นได้ ถ้านำมาใช้งาน แล้วเกิดอุบัติเหตุขึ้น ของมือสองอาจจะไม่สามารถช่วยให้ลูกปลอดภัยได้นั่นเองครับ มาถึงตรงนี้
ถ้าเพื่อน ๆ ต้องการมีไว้ใช้งาน สามารถเลือกจาก 10 อันดับ คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี คุณภาพดี แข็งแรง ปลอดภัย ได้มาตรฐานกสากล ได้เลยนะครับ เพราะเป็นรุ่นที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้เลย
รวมทั้ง นอกจากจะให้เด็ก ๆ นั่งคาร์ซีทอย่างปลอดภัยแล้ว กฎหมายก็ได้ออกมาว่า ทุกคนต้องคาดเข็มขัดนิรภัยด้วยนะครับ ทั้งนั่งหน้า และนั่งหลังเลย คาดเถอะครับ เพื่อความปลอดภัยของทุก ๆ คนครับ