10 คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี ติดตั้งง่าย ระบายอากาศได้ดี มีความปลอดภัยสูง ปี 2023

คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี

สวัสดีครับเพื่อน ๆ ในช่วงเวลาวันหยุดนั้น การได้ออกไปเที่ยวนอกบ้านกันทั้งครอบครัว เป็นอะไรที่มีความสุขมาก ๆ เลยครับ แต่การขับรถไปกันนั้น ก็ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของลูก ๆ ด้วย ดังนั้นในรถจึงต้องมี คาร์ซีท ด้วยครับ

ในการขับรถแล้วมีลูก ๆ ไปด้วยนั้นนะครับ พ่อแม่อย่างเรา ต้องให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของลูก ๆ เป็นอันดับแรกเลย เพราะถ้ามีเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นมา เด็ก ๆ จะไม่สามารถรับความเสียหาย

ได้เท่ากับผู้ใหญ่อย่างเรานะครับ ถ้าเป็นแบบนั้นคงจะเป็นอะไรที่เลวร้ายมากเลย สำหรับสถานการณ์อย่างนี้ ถ้าเรามี คาร์ซีท ติดตั้งไว้ในรถ จะช่วยลดอาการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นกับลูกได้อย่างมากเลยครับ

สำหรับ คาร์ซีท (Car Seat) นั้นเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ แม่และเด็ก ที่ต้องมีไว้ใช้งานอย่างยิ่ง เพื่อความปลอดภัยของเด็ก ๆ นั่นเอง เด็ก ๆ นั้นร่างกายยังเจริญเติบโตไม่เพียงพอ ที่จะใช้งานเข็มขัดนิรภัยได้

ทำให้ คาร์ซีท เข้ามามีบทบาทในเรื่องนี้ เพราะตัวคาร์ซีทนั้น ได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับสรีระร่างกายของเด็กโดยเฉพาะ ทำให้เกิดความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น พ่อแม่บางคนอาจจะคิดว่า ไม่เป็นไรหรอก

ถ้าต้องเดินทางเดี๋ยวให้ลูกนั่งตักก็ได้ ไม่ครับ ไม่ได้เลย ถ้าเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น พ่อแม่จะไม่สามารถป้องกันได้อย่างทันท่วงทีเลยครับ เพราะฉะนั้น ติดตั้งคาร์ซีทเพื่อลูก ๆ จะดีที่สุดเลยครับ

มาถึงตรงนี้ เพื่อน ๆ ก็คงสนใจที่จะซื้อคาร์ซีทไว้ให้ลูก ๆ บ้างแล้วใช่ไหมครับ ถ้าอย่างนั้น วันนี้ครับ ตังค์ทอน จะมาแนะนำ 10 อันดับ คาร์ซีท (Car Seat) ยี่ห้อไหนดี ติดตั้งได้ง่ายดาย เบาะนุ่มนั่งสบาย

ช่วยให้ลูกน้อยมีความปลอดภัย มาให้เพื่อน ๆ ได้รับทราบกัน รวมไปถึง ยังมีข้อมูลต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ ที่เพื่อน ๆ ควรรับทราบไว้ เพื่อให้ลูกน้อยปลอดภัยมากที่สุด และจะมาแนะนำ วิธีการเลือกซื้อคาร์ซีท

ให้เพื่อน ๆ ได้ทราบด้วย ว่าคาร์ซีทมีกี่ประเภท อะไรบ้าง ควรเลือกแบบไหนจึงจะเหมาะสมกับเด็กแต่ละวัย ทั้งนี้ ก็เพื่อให้เพื่อน ๆ ได้คาร์ซีทที่ตรงกับความต้องการมากที่สุดครับ จะมีคาร์ซีทรุ่นไหนน่าสนใจบ้างนั้น ไปติดตามกันได้เลยครับ

คาร์ซีท

สารบัญเว็บ ซ่อน

10 อันดับ คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี สีสันสดใส ปลอดภัย เบาะนุ่มสบาย ระบายอากาศดีเยี่ยม ปี 2023

1. Nuna Exec คาร์ซีท คาร์ซีทเด็ก ISOFIX Nuna Exec All-in-one

Nuna Exec คาร์ซีท คาร์ซีทเด็ก ISOFIX Nuna Exec All-in-one

         แบรนด์ : Nuna(นูน่า)  รุ่น : Exec  น้ำหนักคาร์ซีท : 2kg  แนะนำอายุ : 0-3 เดือน  น้ำหนักที่แนะนำ : > 25 กก.  ระยะเวลาในการรับประกัน : 3 ปี

Nuna Exec คาร์ซีท คาร์ซีทเด็ก ISOFIX Nuna Exec All-in-one คาร์ซีทแบบ all-in-one ได้รับการออกแบบดีไซน์ มาอย่างสวยงาม ดูดี ทันสมัย น่าใช้งานมาก ๆ สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งาน ได้ตามทุกช่วงวัย

สามารถใช้งานได้ตั้งแต่เด็กวัยแรกเกิด ไปจนถึงอายุ 12 ขวบได้อย่างสบาย ๆ ในส่วนของการใช้งานนั้น เหมาะทั้งแบบหันหน้าเข้าหาเบาะ หรือจะเป็น การหันหน้าออกจากเบาะ เพื่อปรับให้เป็นที่นั่งแบบบูสเตอร์ก็ได้

ในส่วนของพนักพิงศีรษะ สามารถปรับความสูงได้ถึง 12 ระดับ และในส่วนของพนักพิง ก็ปรับเอนได้ 8 ระดับ ตามความต้องการใช้งานได้เลย ต่อมา มีแผ่นรองนอนสำหรับเด็กอ่อน ที่ได้ทำการหุ้มด้วยวัสดุ merino wool

ทำให้มีพื้นผิวสัมผัสที่นุ่ม สบาย อบอุ่น เด็ก ๆ สามารถนอนได้อย่างสบาย มีที่พักขาถอดซักได้ ปรับระดับได้ 5 ระดับ มาพร้อมกับ ระบบป้องกัน และ ลดแรงกระแทกด้านข้าง SIP (side impact protection system)

พร้อมด้วยเทคโนโลยี Aeroflex™ มีช่องเก็บสายเข็มขัด ที่ทำการเสริมด้วยโครงสร้างเหล็ก แข็งแรงมาก ๆ เมื่อปรับให้เป็นคาร์ซีทแบบบูสเตอร์ และสามารถเก็บสายได้ง่ายดายด้วย สำหรับคาร์ซีทรุ่นนี้ถือว่ายอดเยี่ยม น่าใช้งานมากครับ

จุดเด่น

  • เป็นคาร์ซีทแบบ all-in-one ปรับเปลี่ยนได้ตามทุก ๆ ช่วงวัย
  • คาร์ซีท หุ้มด้วยผ้า ผลิตจากวัสดุที่ไม่ลามไฟ
  • มาพร้อมกับระบบป้องกัน และ ลดแรงกระแทกด้านข้าง SIP
  • แผ่นรองนอน สำหรับเด็กอ่อน หุ้มด้วยวัสดุ merino wool ทำให้มีพื้นผิวสัมผัสที่นุ่มสบายอบอุ่น
  • อากาศถ่ายเทได้ดีมาก ด้วยช่องระบายนอากาศบริเวณด้านหลังคาร์ซีท”
  • มาพร้อมกับที่วางแก้วคู่ พับเก็บได้ทั้งสองข้าง

2. Nuna Rava คาร์ซีท คาร์ซีทเด็ก ติดตั้งBelt และ ISOFIX

Nuna Rava คาร์ซีท คาร์ซีทเด็ก ติดตั้งBelt และ ISOFIX

         แบรนด์ : Nuna (นูน่า)  รุ่น : Rava  แนะนำอายุ : 0-3 เดือน  ระยะเวลาการรับประกัน : 3 ปี  ขนาด : h 25 x w 19 x l 16 in  น้ำหนัก : 13 KG

Nuna Rava คาร์ซีท คาร์ซีทเด็ก ติดตั้งBelt และ ISOFIX คาร์ซีทคุณภาพดี ดีไซน์สวย ได้รับการออกแบบมาเป็นอย่างดี มีความปลอดภัยสูง สำหรับคาร์ซีทรุ่นนี้นะครับ มีโครงสร้างเก้าอี้ ที่มีความแข็งแรงมาก ๆ

ทนทาน สามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน สามารถปรับรูปแบบการใช้งานได้ถึง 3 รูปแบบ ตามแต่ละช่วงวัยของเด็กครับ เหมาะสำหรับใช้งานกับเด็กวัยแรกเกิด ไปจนถึงอายุ 9 ขวบเลย หรือสามารถรับน้ำหนักได้ 30 กิโลกรัม

สำหรับคาร์ซีทรุ่นนี้ รองรับการใช้งานกับรถยนต์ได้ทุกรุ่น ใช้งานได้ทั้ง Belt 2 จุด และ 3 จุด การติดตั้งง่ายดาย ไม่ได้ยุ่งยากแต่อย่างใด ด้วยสาย Belt หรือ ISOFIX เพียงสอดสายใส่กล่อง เพื่อล็อกเท่านั้น

เนื้อผ้าทำมาจากเส้นใย Lyocell ที่ไม่ผสมสารเคมีเพื่อกันไฟลุกไหม้ สามารถปรับเอนเบาะได้ 10 ตำแหน่ง โดยจะแบ่งเป็น หันหน้าเข้าหาเบาะ 5 ระดับ และหันหน้าออก 5 ระดับ สามารถปรับความสูงของเบาะรองศีรษะได้

ในส่วนของ เบาะพักขาสามารถพับเก็บได้ได้อย่างสะดวก และยังมาพร้อมกับ sip ด้านข้างสำหรับลดแรงกระแทกด้วย ถ้าเพื่อน ๆ กำลังมองหาคาร์ซีทคุณภาพเยี่ยม แข็งแรงปลอดภัยเพื่อลูก ๆ ไม่ควรพลาดรุ่นนี้เลยครับ

จุดเด่น

  • โครงสร้างแข็งแรง สามารถปรับใช้งานได้ 3 รูปแบบ
  • รองรับน้ำหนักได้ถึง 30 กิโล หรือประมาณ 9 ขวบ
  • ติดตั้งง่ายด้วยสาย Belt หรือ ISOFIX เพียงสอดสายใส่กล่อง เพื่อล็อก
  • รองรับการใช้งานรถยนต์ทุกรุ่น ได้ทั้ง Belt 2จุด และ 3 จุด
  • มีที่สำหรับใส่แก้วน้ำ ด้านซ้าย – ขวา
  • เบาะปรับเอนได้ 10 ตำแหน่ง โดย หันหน้าเข้าหาเบาะ 5 ระดับ หันหน้าออก 5 ระดับ
  • เนื้อผ้าทำจากเส้นใย Lyocell ที่ไม่ผสมสารเคมีเพื่อกันไฟลุกไหม้
  • Safety : Aircraft US Standard FMVSS 213

3. Ailebebe คาร์ซีทแรกเกิด รุ่น Kurutto 6I Grance

Ailebebe คาร์ซีทแรกเกิด รุ่น Kurutto 6I Grance

         แบรนด์ : Ailebebe  รุ่น : Kurutto 6I Grance  ประเภท : Rear-Facing Convertible Seats  เหมาะสำหรับช่วงอายุ : แรกเกิด – 4 ปี  ระบบนิรภัย : 5-point Seat Belt  ระบบการติดตั้ง : ระบบ ISOFIX  น้ำหนัก : 17.4 kg

Ailebebe คาร์ซีทแรกเกิด รุ่น Kurutto 6I Grance คาร์ซีทดีไซน์สวยงาม น่าใช้งาน ที่ผลิตมาเพื่อเด็กแรกเกิดอย่างแท้จริง สำหรับคาร์ซีทจากแบรนด์ดังอย่าง Ailebebe นี้ มีการใช้เนื้อผ้าที่ระบายอากาศดีเยี่ยม

และมีโครงสร้างการระบายอากาศที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้ไม่อับชื้น เหมาะสำหรับอากาศร้อนในบ้านเราเป็นอย่างยิ่ง ในส่วนของตัวเบาะ มีขนาดใหญ่ ปกป้องสรีระที่ยังไม่แข็งแรงได้อย่างมั่นใจ โดยเฉพาะในจุดสำคัญต่าง ๆ

อย่างเช่น ศีรษะ หลัง และสะโพก ช่วยลดความเสียหายจากอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดได้ มีพนักพิงขนาดใหญ่ ช่วยป้องกันตัวเด็กในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุได้เป็นอย่างดี ตัวคาร์ซีทหมุนได้ 360 องศา แถมยังหมุนง่ายด้วยมือเดียว

ช่วยให้สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกมากขึ้น สำหรับเบาะรองหลังนั้น ผลิตมาจากเส้นใยชนิดพลาสติกพิเศษ ที่จะช่วยลดสาเหตุอาการแพ้เส้นใยธรรมชาติ มีการถักทอด้วยเทคนิคพิเศษ ออกมาเป็นเป็นโครงสร้าง 3 มิติ

ช่วยให้ตัวผ้ามีความยืดหยุ่น แข็งแรง ระบายอากาศได้ดีเยี่ยม มีหลังคาที่สามารถคุมได้ถึงปลายเท้า ปกป้องแสงแดด และรังสี UV ที่อาจเป็นอันตรายต่อตัวเด็กได้อย่างดีอีกด้วย คุณภาพคับแก้วขนาดนี้ น่าซื้อมาใช้งานมากครับ

จุดเด่น

  • ติดตั้งด้วยระบบ Isofix ติดตั้งได้ง่ายและมั่นคง
  • มาพร้อม Auto Lock Isofix ระบบตัวช่วยควบคุมจากด้านหน้า
  • สามารถหมุนได้ 360 องศา พร้อมการหมุนแบบ Baby Seat Turn หมุนง่าย หมุนได้แบบไร้เสีย
  • เบาะสำหรับเด็กแรกเกิด มีขนาดใหญ่ ปกป้องสรีระที่ยังไม่แข็งแรงได้อย่างมั่นใจ
  • ตัวเบาะที่ทำจากผ้าทอด้วยเทคนิคพิเศษ ซึ่งช่วยลดการสัมผัสกับผิวเด็กได้ ทำให้ระบายอากาศได้ดีเยี่ยม
  • พนักพิงขนาดใหญ่ช่วยป้องกันตัวเด็กในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ

4. Chicco Nextfit Zip Air Car Seat คาร์ซีทสำหรับเด็กแรกเกิด – น้ำหนัก 29.5 กิโลกรัม

Chicco Nextfit Zip Air Car Seat คาร์ซีทสำหรับเด็กแรกเกิด - น้ำหนัก 29.5 กิโลกรัม

         แบรนด์ : Chicco  รุ่น : Nextfit Zip Air  นั่งแบบหันหน้าเข้าได้สูงสุด : 22.67 กิโลกรัม  นั่งแบบหันหน้าออกได้สูงสุดถึง : 29.5 กิโลกรัม  ปรับระดับการนั่งได้ : 9 ระดับ  สายรัดนิรภัยแบบ : 5 จุด

Chicco Nextfit Zip Air Car Seat คาร์ซีทสำหรับเด็กแรกเกิด – น้ำหนัก 29.5 กิโลกรัม คาร์ซีทคุณภาพยอดเยี่ยม ได้รับการออกแบบดีไซน์มาอย่างดูดี สวยงาม ทันสมัย สำหรับคาร์ซีทรุ่นนี้นะครับ

สามารถใช้นั่งได้ 2 รูปแบบ คือ รูปแบบที่1 จะเป็นนั่งแบบหันหน้าเข้าได้สูงสุด 22.67 กิโลกรัม และรูปแบบที่ 2 เป็นการนั่งแบบหันหน้าออกได้สูงสุดถึง 29.5 กิโลกรัม ในส่วนของการติดตั้งสำหรับใช้งาน

สามารถติดตั้งได้ง่ายทั้งแบบ LATCH (Isofix) และแบบใช้สายนิรภัยรถยนต์ ติดตั้งได้ง่าย ไม่ยุ่งยากแต่อย่างใด มาพร้อมกับระบบ Head Support ที่ช่วยในการซัพพอร์ตศีรษะ เมื่อลูกน้อยอยู่ในคาร์ซีท

ต่อมา มีพื้นที่สำหรับวางขาเพิ่มขึ้น 25% สำหรับโหมดหันหน้าไปด้านหลัง และ มีพื้นที่รองรับน่องเด็ก สำหรับโหมดหันไปข้างหน้าด้วย สามารถ ปรับระดับการนั่งได้ 9 ระดับ ได้ง่าย ๆ ด้วยมือเพียงมือเดียว

สามารถปรับระดับความสูงของพนักศีรษะได้มากถึง 9 ระดับ ตามความต้องการใช้งานเลย และมีสายรัดตรงเป้าเด็ก สามารถปรับให้เข็มขัดนิรภัยสำหรับรัดตัวเด็กกว้าง-ยาวขึ้นได้ สำหรับคาร์ซีทรุ่นนี้เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ไม่ควรพลาดครับ

จุดเด่น

  • โครงสร้างเสริมเหล็ก มีความแข็งแรง ทนทาน
  • คาร์ซีท ปรับได้ 2 รูปแบบ ปรับเอนนอนได้ถึง 9 ระดับ
  • สามารถติดตั้งได้ง่ายทั้งแบบ LATCH (Isofix) และแบบใช้สายนิรภัยรถยนต์
  • มาพร้อมกับสายรัดนิรภัยแบบ 5 จุด
  • พนักพิงมาพร้อมเทคโนโลยีเบาะแบบ 3D Airmesh ตาข่ายที่ช่วยระบายอากาศได้ดี
  • ตัวช่วยติดตั้งคาร์ซีทแบบใช้สายเบลท์ได้ง่ายมากขึ้นกว่าเดิม
  • ได้รับมาตรฐาน Federal Motor Vehicle Safety Standard 213

5. Chicco Myfit Zip Air Car Seat คาร์ซีทเด็ก

Chicco Myfit Zip Air Car Seat คาร์ซีทเด็ก

         แบรนด์ : Chicco  รุ่น : Myfit Zip Air  ขนาด : 53 x 72 x 47 cm  น้ำหนัก : 14 kg  เหมาะสำหรับ : เด็กน้ำหนัก 11.33 – 45.35 kg  การติดตั้ง : ติดตั้งหันหน้าออกจากเบาะ  รองรับระบบ ISOFIX : ใช่

Chicco Myfit Zip Air Car Seat คาร์ซีทเด็ก คาร์ซีทประสิทธิภาพเยี่ยมจากแบรนด์ดัง Chicco แบรนด์คุณภาพจากประเทศ อิตาลี ที่มั่นใจได้ในคุณภาพด้านความปลอดภัย ในส่วนของคาร์ซีทรุ่นนี้

มีโครงสร้างเสริมเหล็ก แข็งแรง และทนทานต่อการใช้งาน มาพร้อมพนักพิงศีรษะสามารถปรับระดับความสูงได้ 9 ระดับ ได้ตามต้องการ พนักพิงมาพร้อมเทคโนโลยีเบาะแบบ 3D AirMesh ตาข่ายที่ช่วยระบายอากาศได้ดี

ต่อมา คาร์ซีทรุ่นนี้ สามารถปรับระดับการนั่งได้ 4 ระดับ ได้ง่ายด้วยมือเดียว ไม่ยุ่งยาก มาพร้อมกับสายรัดตรงเป้าเด็ก สามารถปรับให้เข็มขัดนิรภัยสำหรับรัดตัวเด็กกว้าง-ยาวขึ้นได้ เบาะวัสดุเป็นโฟม 2 ชั้น

ผ้ามีความนุ่มเป็นพิเศษ และ มีรูปทรงโค้งช่วยให้นั่งสบายมากยิ่งขึ้น มาพร้อมเทคโนโลยี DuoGuard™ ช่วยป้องกันการกระแทกด้านข้างทั้งศีรษะและลำตัว เทคโนโลยี LockSure™ ช่วยยึดสายรัดนิรภัยให้แน่นขึ้น

และยังช่วยให้การติดตั้งเข็มขัดนิรภัยสะดวก ง่ายดาย และรวดเร็ว และได้รับมาตรฐานด้านความปลอดภัยสำหรับคาร์ซีทของสหรัฐอเมริกาอีกด้วย ถ้าเพื่อน ๆ ต้องการคาร์ซีทที่ฟังก์ชั่นครบครันปลอดภัย รุ่นนี้ตอบโจทย์ครับ

จุดเด่น

  • สามารถปรับรูปแบบการใช้งานได้ 2 แบบ
  • มีมาตรวัดด้านข้าง ช่วยให้การติดตั้งคาร์ซีทถูกตั้งทั้งสองแบบ
  • โครงสร้างเสริมเหล็ก แข็งแรง และทนทานต่อการใช้งาน
  • มาพร้อมกับมี ZIP ที่ช่วยให้การถอดเบาะนั่งออกมาซักง่ายขึ้น
  • เบาะวัสดุเป็นโฟม 2 ชั้น ผ้านุ่มเป็นพิเศษ และมีรูปทรงโค้งช่วยให้นั่งสบายมากยิ่งขึ้น
  • มาพร้อมพนักพิงศีรษะสามารถปรับระดับความสูงได้ 9 ระดับ
  • สามารถปรับระดับการนั่งได้ 4 ระดับ ได้ง่ายด้วยมือเดียว

6. Aprica คาร์ซีทสำหรับเด็กแรกเกิด – 4 ปี รุ่น Fladea Grow Isofix 360°

Aprica คาร์ซีทสำหรับเด็กแรกเกิด – 4 ปี รุ่น Fladea Grow Isofix 360°

         แบรนด์ : Aprica  รุ่น : Fladea Grow Isofix 360°  ประเภท : Rear-Facing Convertible Seats  เหมาะสำหรับช่วงอายุ : แรกเกิด – 4 ปี  ระบบนิรภัย : 5-point Seat Belt  ระบบการติดตั้ง : ระบบ ISOFIX  น้ำหนัก : 3.6 kg

Aprica คาร์ซีทสำหรับเด็กแรกเกิด – 4 ปี รุ่น Fladea Grow Isofix 360° สำหรับคาร์ซีทรุ่นนี้ มีรูปทรงที่สวยงาม น่าใช้งาน สามารถหมุนได้ 360° เมื่อทำการหมุนแล้ว จะสามารถล็อคได้ 4 ทิศทาง

เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานในแต่ละช่วงวัย ช่วยทำให้การเดินทางปลอดภัยมากที่สุด มาพร้อมกับระบบ SIDE SHEILD ระบบป้องกันการชนจากด้านข้าง ที่จะช่วยลด และทำการส่งผ่านแรงกระแทก

เมื่อมีการชนเกิดขึ้นที่ด้านข้างทั้ง 2 ฝั่ง ช่วยเพิ่มความปลอดภัย และยังลดอาการบาดเจ็บได้ดีมากยิ่งขึ้นอีกด้วย ต่อมา เบาะรองนอนที่ปกป้องสรีระเด็กจากแรงสั่นสะเทือนได้รอบศีรษะ ตลอดช่วงลำตัว

ไปจนถึงบริเวณปลายเท้า ให้สัมผัสนุ่มแต่ไม่ยวบ นอนสบาย ไร้กังวล มาพร้อมกับหลังคาขนาดใหญ่ พร้อมกับมีช่องระบายอากาศ 2 ช่อง ช่วยในการกรองแสงแดด ปกป้องผิวหนังของลูก และดวงตาที่บอบบางของลูก

ได้อย่างปลอดภัยถึง 99% และ โครงสร้างคาร์ซีทรุ่นนี้นะครับ ยังมีความสามารถในการระบายอากาศและความร้อนได้ดี ช่วยลดอุณหภูมิความร้านรอบตัวลูกลงได้ นั่งสบายไม่อับชื้นหลังไม่แฉะอีกด้วยครับ

จุดเด่น

  • ตัวคาร์ซีทสามารถหมุนได้ 360 องศา สามารถดูแลน้อง อุ้มเข้าออก โดยไม่รบกวนลูกน้อย
  • การติดตั้งด้วยระบบ ISOFIX ที่ตัวล็อคเชื่อมเป็นชิ้นเดียวกับคาร์ซีท ปลอดภัยสุงสุดตามมาตรฐานสากล
  • มาพร้อมกับหลังคากัน UV ได้ 99% มีขนาดใหญ่ขึ้น และยังป้องกันลมและฝุ่นละอองบริเวณรอบๆ
  • มี Guard ที่ล็อคการเคลื่อนไหวของศีรษะทารก ช่วยป้องกันแรงกระแทกจากด้านข้างและด้านหลัง
  • สามารถปรับเป็นเตียงแบนราบที่มีเฉพาะใน Aprica ทำให้ทารกนอนสบาย หายใจสะดวก ไม่กดทับท้อง
  • มาพร้อมกับระบบระบายอากาศ Thermomedical System ลิขสิทธิ์เฉพาะ Aprica
  • ตัวเข็มขัดล็อค 5 จุด แบบเรียบ สามารถถอดเข็มขัดได้อย่างง่ายดาย

7. Graco 4Ever Deluxe Car Seat – Fairmont คาร์ซีทแบบ 4 In 1

Graco 4Ever Deluxe Car Seat - Fairmont คาร์ซีทแบบ 4 In 1

         แบรนด์ : Graco  รุ่น : 4Ever Deluxe  ประเภท : ติดตั้งถาวร  เหมาะสำหรับ : เด็กน้ำหนัก 1.8-54.5 กิโลกรัม  การรับประกัน : รับประกัน 5 ปี

Graco 4Ever Deluxe Car Seat – Fairmont คาร์ซีทแบบ 4 In 1 คาร์ซีทสุดแข็งแรง ปลอดภัย ใช้งานได้อย่างง่ายดาย สำหรับคาร์ซีทจากแบรนด์ดังอย่าง Graco ผลิตภัณฑ์เด็กจากประเทศอเมริกานี้นะครับ

ได้รับการออกแบบตัวคาร์ซีทมา โดยคำนึงถึงความทนทาน แข็งแรง และเพิ่มความปลอดภัยสูงสุดให้กับลูกน้อย สามารถติดตั้งได้ง่ายดาย ไม่ยุ่งยาก ใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้น สามารถใช้คาร์ซีรุ่นนี้

ได้อย่างยาวนานเลย ใช้ได้ถึงช่วงอายุ 10 ปี หรือ มีน้ำหนักประมาณ 54.5 กิโลกรัมเลยครับ ในส่วนของตัวคาร์ซีท โครงสร้างเสริมเหล็กมีความแข็งแรงทนทาน สามารถปรับเอนนอนได้ 6 ระดับตามความต้องการใช้งาน

ต่อมาครับ สามารถปรับระดับความสูงของศีรษะได้ง่าย ๆ ด้วยมือเดียว โดยจะสามารถปรับได้ถึง 10 ระดับให้เหมาะสมกับสรีระร่างกายแต่ละช่วงวัยของลูกน้อย มีระบบ Integrated Belt Lock-Off

คลิปล็อกสายพานในตัวเพื่อไม่ให้ไม่ให้สายนิรภัยคลายตัวขณะติดตั้งคาร์ซีท และระบบ RapidRemove เบาะนั่งสามารถถอดออกได้ภายใน 60 วินาทีโดยไม่ต้องถอนการติดตั้งเบาะ เป็นคาร์ซีทที่ใช้งานง่าย คุ้มค่าน่าใช้งานมากครับ

จุดเด่น

  • สามารถติดตั้งได้อย่างง่ายดาย ในเวลาอันรวดเร็ว
  • ใช้งานได้นานถึงช่วงอายุ 10 ปี หรือน้ำหนักประมาณ 54.5 กิโลกรัม
  • โครงสร้างเสริมเหล็กมีความแข็งแรงทนทาน
  • สามารถปรับระดับความสูงของศีรษะได้ง่ายด้วยมือเดียว ถึง 10 ระดับ
  • สามารถปรับเอนนอนได้ 6 ระดับ
  • มาพร้อมกับช่องวางแก้วน้ำ 2 ช่อง
  • มีสายนิรภัยแบบ 5 จุด สามารถปรับได้ง่าย
  • ตัวเบาะสามารถถอดออกซักได้อย่างสะดวกง่ายดาย

8. Recaro Young Sport Hero – Deep Black คาร์ซีท สำหรับเด็ก

Recaro Young Sport Hero - Deep Black คาร์ซีท สำหรับเด็ก

         แบรนด์ : Recaro  รุ่น : Young Sport Hero  ประเภท : High Back Booster  เหมาะสำหรับช่วงอายุ : 9 เดือน – 12 ปี  ระบบนิรภัย : 5-point Seat Belt  ระบบการติดตั้ง : ระบบเข็มขัดนิรภัย  น้ำหนัก : 8 kg  ฟังก์ชันเพิ่มเติม : พนักพิงศีรษะปรับได้

Recaro Young Sport Hero – Deep Black คาร์ซีท สำหรับเด็ก คาร์ซีทแบรนด์คุณภาพจากประเทศเยอรมัน ที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน อีกทั้งยังได้รับรางวัล German Design Award 2017 มาแล้วด้วย

ทำให้มั่นใจได้ในคุณภาพจากแบรนด์นี้เลยครับ ในส่วนของคาร์ซีทรุ่นนี้นะครับ เป็น Booter Seat สำหรับเด็กน้ำหนัก 9 – 36 kg หรือ 9เดือน – 12 ขวบ ECE-Group 1/2/3 สามารถติดตั้งและใช้งานได้ง่าย

ไม่ยุ่งยากลำบากแต่อย่างใด สามารถติดตั้งและถอดออกได้สะดวก ด้วยระบบเข็มขัดนิรภัย มีความมั่นคง และมีความปลอดภัยสูง สามารถใช้งานได้กับรถทุกยี่ห้อทุกรุ่น ไม่มีปัญหาเลยครับ เบาะปรับมุมได้

มีโฟมเสริมที่ศีรษะ หัวไหล่และสะโพก ช่วยให้ปลอดภัยต่อตัวเด็ก และยังช่วยลดแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี ต่อมาครับ สามารถ ปรับความสูงของส่วนรองรับศีรษะได้หลายระดับ ตัวเบาะสามารถระบายอากาศได้ดี

ช่วยให้ไม่ร้อน และเพิ่มความสะดวกสบายให้มีมากยิ่งขึ้นครับ ภาพรวมของคาร์ซีทรุ่นนี้ ถือว่ามีฟังก์ชั่นการใช้งานมาให้ครบครัน และมีความปลอดภัยสูงด้วย ถ้าเพื่อน ๆ ต้องการคาร์ซีทเพื่อลูกน้อย รุ่นนี้น่าสนใจมากเลยครับ

จุดเด่น

  • คาร์ซีทมีมีน้ำหนักเบาเพียง 8 กิโลกรัม เคลื่อนย้ายสะดวก และติดตั้งง่าย
  • พนักพิงศีรษะสามารถปรับความสูงได้ 3 ระดับ
  • ด้านข้างป้องกันแรงกระแทกสูงสุดแบบ ADVANCED SIDE
  • พนักพิงศีรษะปรับความสูงได้ 3 ระดับ พร้อมเข็มขัดนิรภัย 5 จุด
  • สามารถปรับเป็นบูสเตอร์เด็กโตได้ สำหรับเด็กกรุ๊ป 2 และ กรุ๊ป 3
  • การติดตั้งง่ายดายด้วยเข็มขัดนิรภัยรถยนต์ ตามมาตรฐานสากล

9. GLOWY คาร์ซีท รุ่น Banana Banoffee Carseat แรกเกิด-36 กก.

GLOWY คาร์ซีท รุ่น Banana Banoffee Carseat แรกเกิด-36 กก.

         แบรนด์ : GLOWY  รุ่น : Banana Banoffee Carseat  ประเภท : ติดตั้งถาวร  เหมาะสำหรับ : น้ำหนักแรกเกิดถึง 36 kg  การรับประกัน : รับประกัน 1 ปี

GLOWY คาร์ซีท รุ่น Banana Banoffee Carseat แรกเกิด-36 กก. คาร์ซีทที่ได้รับการออกแบบดีไซน์มาอย่างสวยงาม ดูเท่มาก ๆ สามารถใช้งานได้กับเด็กตั้งแต่อายุแรกเกิด ไปจนถึงอายุ 12 ขวบ

ในส่วนของคาร์ซีทรุ่นนี้นะครับ ได้ผ่านการตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยจากสถาบัน TUV SUD Auto Service ประเทศเยอรมัน และได้มีการขึ้นทะเบียนมาตรฐานความปลอดภัยของยุโรป ECE R44/04 ที่ RDW

ประเทศเนเธอร์แลนด์มาเรียบร้อยแล้ว ทำให้มั่นใจในความปลอดภัยได้เลยครับ โดยติดตั้งด้วยระบบ ISOFIX และเข็มขัดนิรภัยของรถยนต์แบบ 3 จุด สามารถปรับเอนได้ถึง 135 องศา รวมไปถึง

ปรับเอนได้ 4 ระดับ ระดับเอนนอนที่ 5 เหมาะสำหรับ Group 0+ ต่อมา มาพร้อมกับ เบาะรองเสริมพิเศษสำหรับเด็กที่มีน้ำหนักน้อยกว่า 9 กก. ช่วยให้เด็กสามารถนั่งได้อย่างสะดวกสบายและช่วยโอบอุ้มตัวลูกน้อยได้ดีขึ้น

ในส่วนนี้ สามารถถอดออกได้เมื่อลูกโตขึ้น มีการบุด้วยฟองน้ำชนิดพิเศษบริเวณที่นั่ง ที่จะช่วยรองรับแรงกระแทก และให้ความนุ่มสบายมากยิ่งขึ้นด้วยครับ สำหรับคาร์ซีทรุ่นนี้ มาพร้อมกับความปลอดภัยสูงมาก ควรมีไว้ใช้งานเลยครับ

จุดเด่น

  • ใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิด – 12 ขวบ หรือ (0-36 Kg)
  • ผ่านการตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยจากสถาบัน TUV SUD Auto Service ประเทศเยอรมัน
  • ปรับเอนได้ 4 ระดับ ระดับเอนนอนที่ 5 เหมาะสำหรับ Group 0+
  • เข็มขัดปรับความสูงได้ 4 ระดับ เพื่อให้เหมาะสมกับความสูงของเด็กที่เพิ่มขึ้น
  • เป็นเข็มขัดนิรภัยแบบ 5 จุด
  • มีการเพิ่มโครงสร้างกันกระแทกด้านข้าง เพื่อความปลอดภัยยิ่งขึ้น

10. Joie Stages คาร์ซีท คาร์ซีทเด็ก ใช้ได้ แรกเกิด – 7 ปี

         แบรนด์ : Joie (โจอี้)  รุ่น : Stages  น้ำหนัก : 5kg  แนะนำอายุ : 0-3 เดือน  น้ำหนักที่แนะนำ : 0-5 กก.  ระยะเวลาการรับประกัน : 3 ปี  การติดตั้ง : ติดตั้งหันหน้าเข้าหาเบาะ และ ติดตั้งหันหน้าออกจากเบาะ

Joie Stages คาร์ซีท คาร์ซีทเด็ก ใช้ได้ แรกเกิด – 7 ปี คาร์ซีทคุณภาพดี คุ้มค่าน่าใช้งาน จากแบรนด์ดังอย่าง Joie แบรนด์ดังจากประเทศอังกฤษ ที่มั่นใจได้ในเรื่องความปลอดภัย สำหรับคาร์ซีทรุ่นนี้

ได้รับการออกแบบมาให้สามารถใช้งานได้ง่าย มีหลากหลายฟังก์ชั่น ใช้งานได้ตั้งแต่เด็กแรกเกิด ไปจนถึงอายุ 7 ปี สามารถปรับใช้งานได้ทั้งหมด 3 รูปแบบ ตามช่วงวัย ในส่วนของการติดตั้งนั้น

ติดตั้งง่ายด้วยเข็มขัดนิรภัย การติดตั้งหันหน้าเข้าหาเบาะนั้น จะเหมาะสำหรับเด็กวัย 0+ ถึง 18 KG / 4ขวบ และในส่วนของการติดตั้งหันหน้าออกจากเบาะ จะเหมาะสำหรับเด็ก 9 kg ถึง 25 KG/ 7 ขวบ ครับ

ต่อมา ด้วยโครงสร้างพิเศษแบบ Baby Armor ช่วยทำให้การติดตั้งคาร์ซีทแข็งแรงมั่นคงยิ่งขึ้น และยืดอายุการใช้งานได้นานถึง 10 ปี ในส่วนของเบาะนั่ง เบาะสามารถรองรับสรีระเด็กแรกเกิด ระบายอากาศ ได้ดี

เบาะรองศีรษะปรับ สูง – ต่ำ ได้ 5 ระดับ มีสายคาดนิรภัยแบบ 5 จุด ตามมาตรฐาน สากล สามารถปรับระดับได้ และปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วยระบบ Double Lock เข็มขัดนิรภัยในขณะติดตั้ง สำหรับคาร์ซีทรุ่นนี้ถือได้ว่าดีเยี่ยมน่าใช้งานครับ

จุดเด่น

  • คาร์ซีทเด็กใช้ได้ แรกเกิด-7 ปี
  • สามารถปรับใช้งานได้ 3 รูปแบบตามช่วงวัยที่เหมาะสม
  • ติดตั้งสามารถทำได้ง่ายดายด้วยเข็มขัดนิรภัย
  • เบาะรองรับสรีระเด็กแรกเกิด ระบายอากาศ ได้ดี
  • ปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วยระบบ Double Lockเข็มขัดนิรภัยในขณะติดตั้ง
  • มีเครื่องหมายบอกวิธีการติดตั้งอยู่ด้านข้าง
  • มาพร้อมกับสายคาดนิรภัยแบบ 5 จุด ตามมาตรฐาน สากล สามารถปรับระดับได้

คาร์ซีท คืออะไร

คาร์ซีท คือ ที่นั่งในรถสำหรับเด็ก ที่เสริมเข้าไปเพื่อให้เด็กนั่ง โดยคาร์ซีทนี้ จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับเด็ก และยังช่วยลดความรุนแรงเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดทางรถยนต์ได้ ที่ต้องให้เด็กนั่งคาร์ซีท

ก็เพราะว่า เด็กนั้นร่างกายยังเล็กอยู่ ทำให้เข็มขัดนิรภัยไม่สามารถปกป้องเด็กเมื่อเกิดอุบัติเหตุได้ ทำให้ต้องใช้คาร์ซีทสำหรับเด็ก โดยตัวคาร์ซีท มาพร้อมกับคุณสมบัติในการลดแรงเหวี่ยงกระแทกต่อศีรษะบริเวณท้ายทอย

และกระดูกสันหลังได้ รวมทั้งคาร์ซีทยังช่วยให้เด็กทารกนั่งได้อย่างเหมาะสม โดยช่วยพยุงคอและหลังของเด็กให้อยู่ในท่าตรงได้อย่างเหมาะสมด้วย ในส่วนของการใช้งานคาร์ซีทนั้น จะเหมาะแก่การใช้งาน

ตั้งแต่เป็นเด็กทารกเลย ไปจนถึงอายุ 8 ปี ทำให้เด็กสามารถนั่งในท่าที่เหมาะสม และนั่งได้อย่างสบาย เพราะตัวคาร์ซีทได้รับการออกแบบมาให้มีความสูงที่เหมาะสม สำหรับให้เด็กนั่ง ช่วยให้เด็กสามารถนั่งห้อยขาได้พอดี

และสามารถคาดเข็มขัดนิรภัยของตัวคาร์ซีทได้อย่างลงตัวด้วย ทำให้เด็ก ๆ ได้รับความปลอดภัยสูงสุดในระหว่างการเดินทาง และไม่ว่าคุณพ่อคุณแม่จะไปที่ไหน คาร์ซีทนี้ จะช่วยดูแลลูก ๆ ได้อย่างยอดเยี่ยมเลยครับ

คาร์ซีทนั้นมีความสำคัญหรือไม่

ในชีวิตของพ่อแม่นั้น ไม่มีอะไรจะสำคัญไปกว่าลูกน้อยอยู่แล้ว ดังนั้นความปลอดภัยในชีวิตของลูก ๆ เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ และคาร์ซีทที่เป็นผู้ช่วยดูแลความปลอดภัยของลูกน้อย ย่อมสำคัญอย่างแน่นอนครับ

ในการเดินทางแต่ละครั้งนะครับ เวลาที่พ่อแม่ต้องพาลูก ๆ ไปด้วย เมื่อต้องเดินทางไกล ๆ แน่นอนครับ เด็ก ๆ ก็คงจะเบื่อที่ต้องนั่งอยู่เฉย ๆ ทำให้พวกเด็ก ๆ อาจจะอยากย้ายที่นั่งบ้าง นอนยาวบ้าง

ขยับไปมาขอมานั่งกับแม่บ้าง หรือถ้าเบื่อมาก ๆ อาจจะกระโดดเล่นในรถกันเลยทีเดียวเชียว ทำให้ผู้เป็นพ่ออาจจะไม่สบายใจ เพราะถ้าเกิดเหตุฉุกเฉิน หรือต้องเหยียบเบรคแรง ๆ ลูกอาจจะล้มกระแทกภายในรถได้

จนอาจเป็นสาเหตุให้ลูกบาดเจ็บนั่นเองครับ แบบนั้นไม่ดีอย่างแน่นอนครับ ทีนี้ครับ ถ้าเราให้เด็ก ๆ คาดเข็มขัดนิรภัยปกติล่ะ ดีไหม คำตอบคือ ไม่ค่อยดีครับ ยังอันตรายอยู่ เพราะว่าเด็ก ๆ นั้นความสูงยังไม่เพียงพอ

เข็มขัดนิรภัย จะสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพก็ต่อเมื่อ ทำการคาดไว้ที่บริเวณตำแหน่งหน้าอก ไปจนถึงบริเวณหัวไหล่ นั่นแหละครับ เข็มขัดนิรภัยจะสามารถป้องกันอันตรายได้เต็มประสิทธิภาพ

แต่กับเด็ก ๆ ไม่ใช้วิธีการแก้ปัญหาที่ดีครับ ทำให้ต้องใช้คาร์ซีทสำหรับเด็กเท่านั้น ถึงจะดีที่สุด รวมไปถึงในหลาย ๆ ประเทศยังมีกฎหมายให้ต้องใช้คาร์ซีทออกมาด้วย อย่างเช่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์

อเมริกา อังกฤษ และ ญี่ปุ่น ที่ต้องให้เด็กนั่งคาร์ซีทกันตั้งแต่เด็กเล็ก ๆ เลยครับ รวมไปถึง นอกจากจะช่วยให้เกิดความปลอดภัยต่อเด็ก ๆ แล้ว ก็ยังมีส่วนช่วยให้เด็ก ๆ สามารถนั่งรถได้อย่างสบายด้วยนะ

เพราะคาร์ซีทจะช่วยให้เด็ก ๆ นั่งในระดับที่สูงขึ้น ทำให้มองเห็นวิวสวย ๆ นอกรถได้อย่างสบายใจ ถ้าเกิดง่วงนอน ก็ไม่มีปัญหาครับ สามารถนอนหลับได้เลย เพราะตัวคาร์ซีทจะมีที่รองคอมาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว

ช่วยให้คุณพ่อสามารถขับรถทางไกลได้อย่างสบายใจหายห่วง ไร้กังวลเรื่องลูกได้เลย และสุดท้ายก็อย่าลืมเปลี่ยนปรับประตูให้เป็นระบบ Child Lock ตรงตำแหน่งที่ติดตั้งคาร์ซีทไว้ด้วยนะครับ เพื่อความปลอดภัยมากยิ่งขึ้นครับ

ต้องรู้! ในประเทศไทยกฎหมายบังคับให้ใช้คาร์ซีทแล้วนะ

ในต่างประเทศนั้น เขาบังคับใช้กฎหมายคาร์ซีทกันไปแล้ว ในปัจจุบันประเทศไทยของเรา ก็เริ่มที่จะตระหนักถึงความปลอดภัยสำหรับเด็กมากยิ่งขึ้นแล้ว โดยเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2565 นั้นนะครับ

ได้มีการแก้ไขข้อกฎหมายจราจรทางบก ในเรื่องที่เกี่ยวกับการใช้งานคาร์ซีท สำหรับเด็กที่มีอายุไม่เกิน 6 ขวบ หรือเด็กที่มีความสูงไม่เกิน 135 ซม. ในส่วนนี้ก็เพื่อป้องกันเด็กให้ไม่ได้รับอันตรายและบาดเจ็บ

ที่เกิดจากอุบัติเหตุในการใช้รถใช้ถนน ในเวลาต่อมา วันที่ 5 กันยายน 2565 เป็นต้นไป กฎหมายนี้ก็ได้นำมาบังคับใช้เรียบร้อยแล้วนะครับ ถ้าผู้ใดไม่ปฏิบัติตาม หรือ ฝ่าฝืนกฎจะมีโทษจะปรับไม่เกิน 2,000 บาท

แต่ว่าในระยะแรก ๆ จะเป็นในรูปของการว่ากล่าวตักเตือนก่อน เพื่อให้ผู้ใช้รถใช้ถนน ได้รับทราบ ทำความเข้าใจ แล้วนำไปปฏิบัติเพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อเด็ก หลังจากนั้นก็อาจจะเริ่มมีการปรับขึ้นก็เป็นได้ครับ

ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ พ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2565

เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคมที่ผ่านมานะครับ ทางเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้ทำการเผยแพร่ พ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2565 โดยบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 120 วันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

โดยในราชกิจจานุเบกษามีสาระสำคัญ ดังนี้ครับ

มาตรา 7 ให้ยกเลิกความในมาตรา 123 แห่งพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 14/2560 เรื่อง มาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมาย

ว่าด้วยการจราจรทางบก ลงวันที่ 21 มีนาคม พุทธศักราช 2560 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทนมาตรา 123 ภายใต้บังคับมาตรา 123/1 ในขณะขับรถยนต์ ผู้ที่อยู่ในรถยนต์ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข ดังต่อไปนี้

(1) ผู้ขับขี่ ต้องรัดร่างกายด้วยเข็มขัดนิรภัยไว้กับที่นั่งตลอดเวลาในขณะขับรถยนต์

(2) คนโดยสาร

(ก) คนโดยสารที่นั่งแถวตอนหน้าและที่นั่งแถวตอนอื่น ต้องรัดร่างกายด้วยเข็มขัดนิรภัยไว้กับที่นั่งตลอดเวลาในขณะโดยสารรถยนต์

(ข) คนโดยสารที่เป็นเด็กอายุไม่เกิน 6 ปี ต้องจัดให้นั่งในที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก หรือนั่งในที่นั่งพิเศษสำหรับเด็กเพื่อป้องกันอันตราย หรือมีวิธีการป้องกันอันตรายในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ

(ค) คนโดยสารที่มีความสูงไม่เกิน 135 เซนติเมตร ต้องรัดร่างกายด้วยเข็มขัดนิรภัยไว้กับที่นั่ง หรือมีวิธีการป้องกันอันตรายในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะนั่งแถวตอนใด

ในกรณีที่ผู้ขับขี่หรือคนโดยสารมีเหตุผลทางสุขภาพอันไม่สามารถรัดร่างกายด้วยเข็มขัดนิรภัยไว้กับที่นั่งได้ ให้ได้รับยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามวรรคหนึ่ง แต่บุคคลนั้นต้องมีวิธีการป้องกันอันตรายในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ

ที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กและที่นั่งพิเศษสำหรับเด็กเพื่อป้องกันอันตรายตาม (2) (ข) และวิธีการป้องกันอันตรายในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุตามที่บัญญัติไว้ในมาตรานี้ ให้เป็นไปตามที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติประกาศกำหนด

พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า ‘พระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2565’ มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 120 วันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

ทั้งนี้ หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท

วิธีการเลือกซื้อคาร์ซีท

1. เลือกตามประเภทของคาร์ซีทที่ต้องการใช้งาน

อันดับแรกเลยนะครับ ควรเลือกจากประเภทของ คาร์ซีท ที่ตรงกับความต้องการของเราครับ เพื่อให้เหมาะสำหรับแต่ละช่วงอายุของลูกนั่นเอง โดยจะมีทั้งหมด 3 ประเภทด้วยกันครับ ดังต่อไปนี้

1.1 คาร์ซีทแบบกระเช้าหรือแบบหันเข้าหาเบาะ

แบบแรกนี้จะเป็นคาร์ซีทที่เหมาะสำหรับเด็กเล็กครับ ที่ได้รับการออกแบบดีไซน์มาเพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับเด็กอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถแบ่งได้ 2 ประเภท คือ Infant Carrier Seats หรือคาร์ซีทแบบกระเช้า

ใช้สำหรับ เด็กแรกเกิด ไปจนถึงอายุ 1 ขวบ ที่น้ำหนักไม่เกิน 10 กิโลกรัม และแบบ Rear-Facing Convertible Seats ที่สามารถหันหน้าเข้าหาเบาะได้ แบบนี้จะเหมาะกับเด็กเล็กที่มีอายุ 9 เดือน ถึง 4 ขวบ

และมีน้ำหนักประมาณ 9 – 18 กิโลกรัมครับ ในส่วนของคารืซีทแบบนี้ เข็มขัดต้องล็อกตัวเด็กอย่างกระชับ และขอบเบาะจะต้องพอดีหรืออยู่สูงกว่าหัวเด็กประมาณเล็กน้อย เพื่อที่จะได้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพครับ

1.2 คาร์ซีทแบบมีพนักพิงด้านหลัง

สำหรับคาร์ซีทแบบนี้ ผลิตมาเพื่อเด็กโตนะครับ เป็นคาร์ซีทแบบเบาะพร้อมพนักพิงหลังแบบสูง ที่พบเจอได้บ่อย ๆ สามารถปรับใช้ได้กับเด็ก ๆ ได้หลายช่วงอายุ มีความปลอดภัยสูง เพราะว่ามีระบบเข็มขัดนิรภัยในเบาะตั้งแต่ 3 จุดขึ้นไป

มีพนักพิงใหญ่ บริเวณด้านข้างก็ยืนออกมา สามารถป้องกันทั้งตัวเด็กได้อย่างยอดเยี่ยม ตัวคาร์ซีทก็แข็งแรงทนทานมาก ๆ ทำให้ปลอดภัยสูงนั่นเอง เหมาะสำหรับเด็กที่มีอายุประมาณ 4 – 12 ขวบ น้ำหนักไม่เกิน 22 -36 กิโลกรัม

และส่วนสูงไม่เกิน 140 เซนติเมตร สำหรับคาร์ซีทประเภทนี้ ค่อนข้างที่จะสามารถใช้งานได้อย่างหลากหลาย คุ้มค่าคุ้มราคามาก แม้ว่าราคาอาจจะสูงไปนิด แต่ใช้งานได้อย่างครอบคลุม ก็ถือว่าดีมาก ๆ แล้วครับ

1.3 คาร์ซีทแบบเบาะนั่งเสริมความสูง

เบาะประเภทนี้ จะเป็นเบาะนั่งเสริม (Booster) ครับ มีลักษระเป็นเบาะแบบชิ้นเดียว ไว้ใช้สำหรับเสริมระดับให้เด็กนั่ง เพื่อให้ได้ระดับที่เพียงพอในการคาดเข็มขัดนิรภัยในรถได้ โดยจะใช้กับเด็กที่มีอายุ 3 ขวบขึ้นไป

มีน้ำหนักไม่เกิน 36 กิโลกรัมครับ แต่ก็ต้องบอกตามตรงว่า เบาะแบบเสริมนนี้ จะมีความปลอดภัยน้อยกว่าแบบแรก ๆ ที่ได้กล่าวไปแล้ว เพราะไม่ได้มีการปกกันได้อย่างรอบด้าน แต่เดินทางไม่ไกล ก็ถือว่ามีประโยชน์อยู่ครับ

2. ควรตรวจสอบให้ดีว่าคาร์ซีทรุ่นที่ต้องการใช้งานสามารถติดตั้งในระยนต์ได้

คุณพ่อคุณแม่ต้องตรวจดูให้ดีนะครับ ว่าคาร์ซีทที่ต้องการใช้งาน สามารถติดรถยนต์ได้หรือไม่ เพระว่าบางรุ่นนั้นมีข้อจำกัดอยู่เหมือนกัน อาจจะไม่สามารถติดตั้งได้กับรถบางรุ่น รวมไปถึงไม่ควรที่ติดตั้งยากด้วยนะครับ

ถ้าต้องการใช้งานแต่ติดตั้งยากมาก ติดผิดติดถูก ถ้าต้องลำบากแบบนี้ ไม่ควรใช้งานเลยครับ ซึ่งตามปกติกแล้วนั้น วิธีการติดตั้งจะมี 2 ระบบด้วยกัน คือ ระบบใช้เข็มขัดนิรภัย (Seat Belt) และ ระบบไอโซฟิกซ์ (ISOFIX) รายละเอียดดังนี้

-ระบบใช้เข็มขัดนิรภัย (Seat Belt) : ส่วนใหญ่เลยที่พบนะครับ หลาย ๆ คนติดตั้งไม่ถูกวิธี ทำให้ไม่สามารถช่วยให้เด็กได้รับความปลอดภัย บางรุ่นก็ยุ่งยาก ติดตั้งนานก็มี ข้อดีราคาถูกว่าระบบ ISOFIX และใช้งานได้กับรถหลายแบรนด์

– ระบบ ISOFIX : ระบบนี้ได้รับความนิยมอย่างสูง ติดตั้งง่าย ไม่ยุ่งยาก มีความปลอดภัยสูง สามารถป้องกันเบาะลื่นไหลได้เป้นอย่างดี แต่มีข้อสังเกตคือราคาค่อนข้างสูงไปนิด และใช้งานได้กับรถบางแบรนด์บางรุ่นเท่านั้นครับ

3. ต้องได้มาตรฐานความปลอดภัย

คาร์ซีทในท้องตลาดบ้านเราขณะนี้ มีหลายแบรนด์ หลายรุ่น มีทั้งผลิตในประเทศ และต่างประเทศ ราคาก็จะแตกต่างกันไป แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่า ตัวไหนได้มาตรฐาน ตัวไหนน่าเชื่อถือ วิธีการตรวจสอบก็คือ

มองหาข้อความ “ECE R44/04” ที่ระบุไว้บนฉลาก นั่นเองครับ เพราะข้อมูลแบบนี้ มีความหายว่า ได้ผ่านมาตรฐานด้านความปลอดภัยของสหภาพของยุโรปมาเรียบร้อยแล้วนั่นเอง นอกจากตรา “ECE R44/04” แล้วนะครับ

บางรุ่นก็ยังได้ผ่านการทดสอบความปลอดภัยอย่างเข้มงวดโดย ADAC หรือสมาคมรถยนต์เยอรมันมาอีกด้วยนะ ถ้าเห็นข้อความเหล่านี้ มั่นใจได้เลยครับว่า ได้มาตรฐานที่ดีแน่นอน ส่งผลให้เกิดความปลอดภัยต่อลูก ๆ สูงมากด้วยครับ

4. ถ้าตัวคาร์ซ๊ทสามารถพับเก็บหรือแยกส่วนได้จะดีมาก

ตามหลักแล้ว ตัวคาร์ซีทจะมีขนาดที่ใหญ่ มีความทนทานแข็งแรงสูง มีน้ำหนักมาก ทั้งนี้ก็เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดนั่นเอง ทำให้อาจจะลำบากในการเคลื่อนย้าย และการติดตั้งก็อาจใช้เวลานาน

ถ้าจะให้ดีนะครับ ควรเลือกตัวที่สามารถพับเก็บหรือแยกชิ้นส่วนออกจากกันได้ ถ้าทำได้นั้น จะช่วยให้เกิดความสะดวกสบายเป็นอย่างมาก และไม่หนักแรงอีกด้วย ดีกว่าตัวเดียวใหญ่ ๆ หนัก ๆ มากเลยครับ

5. ดูที่สามารถระบายอากาศได้เป็นอย่างดี และถอดซักได้ง่าย

เมื่อใช้งานไปสักระยะหนึ่งแล้วนะครับ เราจะพบว่าบริเวณตัวเบาะ จะมีคราบไคลติดอยู่ หรือพบกับเศษขนม เศษอาหารที่เด็ก ๆ อาจจะกินหล่นไว้ จนกลายเป็นแหล่งรวมของเชื้อโรคได้ ทางที่ดีนะครับ

ควรเลือกเบาะที่ทำมาจากวัสดุที่สามารถระบายอากาศได้ดี เช่น ผ้าตาข่าย ที่ไม่สะสมความชื้น ไม่มีการเหม็นอับ รวมไปถึงควรถอดซักทำความสะอาดได้ง่าย ๆ ด้วย เพื่อที่จะได้ทำความสะอาดเอาเศษขนมหรืออาหารออกไปให้หมดครับ

6. ควรมีฟังก์ชั่นอื่น ๆ ที่มีประโยชน์เสริมเพิ่มเติมมาให้ด้วย

หน้าที่หลัก ๆ ของคาร์ซีทนั้น คือคุณสมบัติด้านความปลอดภัย แต่ถ้ามีฟังก์ชั่นอื่น ๆ เสริมเข้ามาด้วย ก็จะยิ่งดีมากยิ่งขึ้นครับ ฟังก์ชั่นต่าง ๆ นั้นจะมีอะไรบ้างนั้น ไปดูรายละเอียดกันได้เลยครับ

6.1 สามารถปรับระดับและปรับความกระชับได้ด้วยปุ่มเดียว

เนื่องจากเด็กแต่ละคนนั้น จะมีรูปร่าง ความสูง ไม่เหมือนกัน เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควรที่จะสามารถปรับระดับได้อย่างสะดวก เพื่อให้สามารถนั่งได้กระชับ พอดีตัว และมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

6.2 มีคุชชั่นที่หนานุ่มสำหรับการเดินทางไกล ๆ

การนั่งนาน ๆ ไกล ๆ ย่อมเกิดการเมื่อยล้าขึ้น เบาะจึงควรที่จะหนานุ่มสักหน่อย เพื่อลดอาการปวดเมื่อย แต่ก็ไม่ควรที่จะหนานุ่มมากจนเกินไป เพราะจะกระจายน้ำหนักได้ไม่ดี ดังนั้นเลือกให้เหมาะสมคือไม่หนานุ่มมากไปนั่นเองครับ

6.3 มาพร้อมกับฟังก์ชั่นการปรับนอนได้

ในการเดินทางไกล ๆ นั้น แน่นอนว่าเด็ก ๆ ย่อมง่วงนอนเป็นธรรมดา ถ้าต้องหลับในท่านั่งคออาจพับไปด้านหน้า จนหายใจลำบากได้ ดังนั้น ควรที่จะสามารถปรับให้อยู่ในลักษณะนอนได้ด้วย เพื่อให้เด็กได้นอนในท่าที่เหมาะสมที่สุด

6.4 ควรเลือกที่ระบายอากาศได้ดีและสามารถถอดออกมาทำความสะอาดได้

เนื่องจากเบาะอาจจะเลือกนม น้ำลาย เหงื่อไคล หรือปัสสาวะ จนเกิดการอับชื้นขึ้น รวมไปถึงอาจจะเปื้อนอาหาร ขนมได้ จนกลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค เพื่อแก้ปัญหาที่กล่าวมา ควรถอดออกมาทำความสะอาดได้สะดวกง่ายดายครับ

6.5 มีช่องสำหรับใส่ขวดน้ำมาให้ด้วย

ฟังก์ชั่นนี้ถือว่ามีประโยชน์มาก ๆ เลยครับ เพราะไม่ต้องลำบากถือขวดนมเองเลย ลดภาระได้เป็นอย่างดี เอาเสียบ ๆ ไว้ในช่องพอดื่มเสร็จก็สามารถเก็บได้อย่างเรียบร้อยเลย รวมทั้ง ถ้าเด็กโตสามารถหยิบเองได้ พ่อแม่ไม่ต้องลำบากด้วยครับ

ใช้คาร์ซีทอย่างไรเพื่อให้เกิดความปลอดภัยมากที่สุด

ในการเลือกใช้งานคาร์ซีท คุณพ่อคุณแม่ควรเลือกซื้อรุ่นที่ได้มาตรฐาน และมีความทนทานแข็งแรง เพื่อที่จะได้เกิดความปลอดภัยสูงสุด แต่ว่า ต่อให้ดีเพียงใดก็ตาม ถ้าใช้ไม่ถูกวิธี ก็ไร้ประโยชน์ ดังนั้นเรามาดูข้อควรระวังกันนะครับ

  1. ควรเลือกใช้งานขนาดของคาร์ซีทที่เหมาะสมกับสรีระของลูก และตัวคาร์ซีทต้องได้มาตรฐานด้วยนะครับ
  2. ตรวจสอบคาร์ซีทว่าสามารถมีขนาดที่เหมาะสมกับขนาดเบาะรถยนต์หรือไม่ ถ้าคาร์ซีทเป็นระบบ ISOFIX ด้วยแล้วล่ะก็ ก็ต้องตรวจสอบว่ารถยนต์มีระบบ ISOFIX ด้วยหรือเปล่า เพื่อที่จะได้ใช้งานได้
  3. ศึกษาข้อมูลวิธีการติดตั้งจากคู่มืออย่างละเอียด เพื่อที่จะได้ติดตั้งได้อย่างถูกต้อง และเพื่อให้ใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
  4. ควรติดตั้งไว้ที่เบาะหลังจะดีที่สุด และก่อนทำการติดตั้งต้องตรวจสอบว่า ต้องติดตั้งคาร์ซีทแบบไหน หันหน้าเข้าเบาะ หรือ หันออกนอกเบาะ เพื่อที่จะได้ติดตั้งได้อย่างถูกต้อง
  5. ขั้นสุดท้ายคาดเข็มขัดนิรภัยให้เด็กให้ถูกต้อง ไม่ควรแน่นเกินไป หรือ หลวมเกินไปจน

สรุป

สุดท้ายนี้ครับ เพื่อความปลอดภัยของลูกน้อย เมื่อต้องเดินทางด้วยรถยนต์ เราจำเป็นต้องใช้งานคาร์ซีทครับ เพื่อที่จะได้ในเด็กได้นั่งได้อย่างปลอดภัย และข้อแนะนำอีกอย่างหนึ่งก็คือ ไม่ควรซื้อของมือสองมาใช้นะครับ

เพราะว่าของมือสอง อาจจะมีบางจุดที่เสียหาย หรือขัดข้องโดยที่เราไม่รู้ก็เป็นได้ ถ้านำมาใช้งาน แล้วเกิดอุบัติเหตุขึ้น ของมือสองอาจจะไม่สามารถช่วยให้ลูกปลอดภัยได้นั่นเองครับ มาถึงตรงนี้

ถ้าเพื่อน ๆ ต้องการมีไว้ใช้งาน สามารถเลือกจาก 10 อันดับ คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี คุณภาพดี แข็งแรง ปลอดภัย ได้มาตรฐานกสากล ได้เลยนะครับ เพราะเป็นรุ่นที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้เลย

รวมทั้ง นอกจากจะให้เด็ก ๆ นั่งคาร์ซีทอย่างปลอดภัยแล้ว กฎหมายก็ได้ออกมาว่า ทุกคนต้องคาดเข็มขัดนิรภัยด้วยนะครับ ทั้งนั่งหน้า และนั่งหลังเลย คาดเถอะครับ เพื่อความปลอดภัยของทุก ๆ คนครับ

About the Author: Tangthon

สวัสดีครับ ผมตังค์ทอนครับ ยินดีต้อนรับสู่ Blog Tangthon.com นะครับ บล็อกนี้ผมตั้งใจนำเสนอบทความต่าง ๆ ที่น่าสนใจ และเป็นประโยชน์ต่อเพื่อน ๆ ครับ ไม่ว่าจะเป็น แนะนำที่พักที่ได้รับความนิยม, แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ รวมทั้งบทความในเรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกหลายหัวข้อครับ อยากให้ติดตามกันนะครับ แค่แวะมาก็ดีใจแล้วครับ

You might like