สวัสดีครับเพื่อน ๆ ต้องยอมรับจริง ๆ ครับ ว่าทุกวันนี้เทรนด์ในการรักษาสุขภาพนั้น มาแรงมากจริง ๆ ครับ นั่นอาจจะเป็นเพราะว่าถ้าไม่ดูแลร่างกายให้ดี ๆ ความเจ็บป่วยก็จะมาหาเราได้นั่นเอง หนึ่งในการออกกำลังกายที่น่าสนใจอย่างนึงคือ การวิ่งครับ
การวิ่งนั้นได้รับความนิยมมากจริง ๆ เพราะสามารถทำได้ทันที ง่าย ๆ ไม่มีอะไรยุ่งยาก แค่มี รองเท้าวิ่ง 1 คู่ ก็สามารถเริ่มวิ่งได้แล้ว ง่าย ๆ ไม่มีต้องลงทุนอะไรมากมายครับ โดยในการวิ่งคุณจะได้ในเรื่องของการบริหารกล้ามเนื้อและบริหารหัวใจไปพร้อม ๆ กัน และถ้าเกิดว่าเพื่อน ๆ ได้ไปวิ่งที่สวนสาธารณะอากาศดี ๆ จะทำให้แบบฟินมาก ๆ ได้สูดอากาศบริสุทธิ์เข้าอย่างเต็มปอด สุขภาพของเราก็จะดีขึ้นได้นั่นเอง
รองเท้าวิ่งยี่ห้อไหนดี ในปัจจุบัน “รองเท้าวิ่ง” ในท้องตลาดมีแบรนด์ดัง ๆ วางขายมากมายหลายยี่ห้อ ให้เราได้เลือกซื้อกันตามกำลังทรัพย์ของแต่ละคน อันนี้ตามสบายเลย สำหรับแบรนด์ดัง ๆ ที่มีขายอยู่ เช่น รองเท้าวิ่ง nike, รองเท้าวิ่ง adidas, รองเท้าวิ่ง asics และ รองเท้าวิ่ง reebok เป็นต้น
ไม่เพียงแต่รูปทรงเท่านั้น แต่เพื่อน ๆ ต้องคำนึกถึงประสิทธิภาพของรองเท้า การรองรับน้ำหนักที่ดี และความปลอดภัยด้วย ซึ่งคุณสมบัติต่าง ๆ เหล่านี้จะแตกต่างกันตามระดับของนักวิ่งครับ
เพื่อน ๆ คงมีคำถามในหัวกันอยู่แน่น ๆ ว่า เราจะเลือก รองเท้าวิ่งยี่ห้อไหนดี 2019 ไม่ต้องตกใจครับ วันนี้ผมจะมาแนะนำรองเท้าวิ่ง 10 อันดับ ว่าจะมีรุ่นไหนที่น่าสนใจบ้าง ซึ่งรุ่นที่จะแนะนำนี้สามารถหาซื้อได้ง่าย ๆ ทางออนไลน์ครับ ไม่ต้องลำบากออกไปซื้อเอง รออยู่ที่บ้านได้เลยนะครับ
วิธีการเลือกรองเท้าวิ่ง และรองเท้ากีฬา
ในการเลือกซื้อรองเท้าวิ่งควรเลือกอย่างรอบคอบ พิถีพิถันครับ โดยไม่ควรเลือกจากดีไซน์ที่เราสนใจเพียงเท่านั้น แต่เราต้องลงลึกเพื่อดูรายละเอียดโครงสร้างและวัสดุที่ใช้ด้วยครับ
1. เลือกขนาดให้เหมาะกับความกว้างยาวของฝ่าเท้า
ขนาดเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ เลยครับสำหรับการเลือกรองเท้าวิ่ง เพื่อน ๆ จึงจำเป็นต้องเลือกให้ดี ๆ ด้วยหลักการดังนี้ครับ แล้วเพื่อน ๆ จะได้ตัดสินใจได้ว่าจะซื้อ รองเท้าวิ่งยี่ห้อไหนดี
– เมื่อสวมใส่ไปแล้ว ต้องมีพื้นที่เหลือให้ “นิ้วโป้งมือ” สามารถสอดลงไปได้
สำหรับการเลือก รองเท้าวิ่ง จะแตกต่างสำหรับการเลือกซื้อรองเท้าสำหรับใส่ทั่วไปครับ ต่างกันตรงที่เราต้องเลือกซื้อขนาดของรองเท้าไม่ให้พอดีและต้องไม่หลวมจนเกินไป เมื่อใส่แล้วต้องให้มีพื้นที่สำหรับ สอดนิ้วโป้งมือลงไปได้ อย่างนี้เรียกว่าเหมาะสมครับ เพราะเรื่องนึงที่ต้องบอกคือ เมื่อเราทำการวิ่งออกไปสักพัก เท้าของเราจะบวมขึ้นครับ ทำให้เราต้องเผื่อพื้นที่รองเท้าไว้หน่อยนึง เท้าของเราจะได้ไม่เสียดสีกับรองเท้ามากจนเกินไป อาจทำให้บาดเจ็บได้ครับ
– ระวังเรื่องขนาดของรองเท้าที่ผลิตจากในแต่ละประเทศ
ถึงแม้ว่าส่วนใหญ่แล้ว รองเท้ายี่ห้อต่าง ๆ จะมีมาตรวัดสากลอยู่แล้ว แต่การเลือกขนาด รองเท้าวิ่ง เราก็ต้องระมัดระวังให้มาก ๆ ครับ โดยเฉพาะในยุคปัจจุบัน ที่เราสามารถซื้อสินค้าออนไลน์ได้ง่าย ๆ และสะดวกรวดเร็ว อาจจะเกิดการผิดพลาดได้ครับ ถ้าเราไม่ทำการตรวจสอบให้ดีคงแย่แน่
รองเท้าวิ่งที่ผลิตในแต่ละประเทศ อาจจะมีขนาดที่ต่างกันอยู่เล็กน้อยนะครับ เช่น รองเท้าวิ่งที่ผลิตจากยุโรป ขนาดอาจใหญ่กว่ารองเท้าวิ่งที่ผลิตในเอเซียบ้านเรา ถึงแม้ว่าเบอร์อาจจะเป็นเบอร์เดียวกันก็เถอะ นั่นเป็นเพราะว่ามาตรฐานของคนในแต่ละประเทศมีความแตกต่างกันครับ
นอกจากนี้แล้ว หน่วยวัดของแต่ละประเทศก็อาจจะมีความแตกต่างกันด้วย ยกตัวอย่างเช่น ถ้าผลิตจากญี่ปุ่นจะเป็นขนาดเป็นเซนติเมตร ในขณะที่ถ้ามาจากยุโรป (EU), สหรัฐอเมริกา (US) และ สหราชอาณาจักร (UK) จะมีความแตกต่างออกไปครับ เช่น ถ้าความยาวเท้า 26 เซนติเมตร จะเทียบได้กับเบอร์ 8 ของ US หรือเทียบเท่ากับเบอร์ 7 ของ UK ดังนั้นครับ เพื่อน ๆ ต้องตรวจสอบประเทศผู้ผลิตรองเท้าวิ่งให้ดีก่อนทำการตัดสินใจซื้อครับ
– ความสำคัญของการวัดขนาดความกว้างของเท้า
ในการเลือกรองเท้าวิ่งนะครับ เพื่อน ๆ ควรที่จะใส่ใจในเรื่องขนาดความกว้างของหน้าเท้า หรือเส้นรอบวงของเท้าเพื่อน ๆ ด้วยนะครับ เพราะว่าถ้าเราเลือกรองเท้าที่มีหน้าแคบไป จะทำให้นิ้วเท้าถูกบีบรัดจนเจ็บได้นั่นเอง ซึ่งวิธีการวัดความกว้างของเท้านั้น ทำได้โดยใช้สายวัดพันรอบ ตั้งแต่ส่วนของด้านข้างที่ยื่นมากที่สุดของนิ้วโป้งไปจนถึงนิ้วก้อยของเราครับ
ในส่วนของตารางความกว้างเท้าที่เราใช้อ้างอิง โดยพื้นฐานแล้วจะกำหนดด้วยอักษรภาษาอังกฤษครับ เช่น B, D, E, 2E, 3E และ 4E โดยขนาดปกติของผู้ชายจะอยู่ที่ D ครับ และในส่วนของผู้หญิงนั้น โดยทั่วไปจะอยู่ที่ขนาด B ครับ เพื่อน ๆ สามารถสังเกตอักษรภาษาอังกฤษเหล่านี้ได้บริเวณด้านในครับ
2. ควรสวมใส่รองเท้าวิ่งด้วยตนเอง เพื่อความมั่นใจ
รองเท้าวิ่งยี่ห้อไหนดี ก่อนที่เพื่อน ๆ จะตัดสินใจหยิบรองเท้าวิ่งที่ต้องการใส่ตะกร้า แล้วจ่ายเงินนั้น เพื่อน ๆ ควรตรวจสอบให้แน่ใจก่อนนะครับ ว่าเพื่อน ๆ ต้องการคู่นี้แล้วจริง ๆ
– ตรวจสอบให้แน่ใจว่ารองเท้าวิ่งรุ่นนี้รองรับสนเท้าได้ดีหรือไม่?
สำหรับรองเท้าวิ่งที่ดีนั้น ควรที่จะกระชับและพอดีกับส้นเท้า ซึ่งจะทำให้เวลาวิ่งเราจะทรงตัวได้ดี และปลอดภัยต่อข้อเท้าของเราด้วยครับ เพราะอย่างนี้ผมถึงแนะนำว่า ควรทดลองใส่แล้ววิ่งเบา ๆ ดู เพื่อให้มั่นใจว่าใส่แล้วสบายเท้า รวมทั้งไม่กว้างหรือหลวมจนเกินไป จนทำให้เวลาวิ่งรองเท้าอาจหลุดจากเท้าครับ
– ช่วงเวลาที่เราทดลองใส่ก็สำคัญนะครับ
เพื่อน ๆ หลายคนอาจจะคิดถึงถึงว่า ขนาดเท้าของเราจะเปลี่ยนได้ตลอดเวลา มันคือความจริงครับ ในตอนเย็นของวันเท้าของเราจะมีการขยายตัวครับ เช่น ตอนเช้าอาจวัดได้ 25 ซม. แต่พอประมาณสี่โมงเย็น เท้าของเราอาจจะขยายอออกเป็น 26 ซม.ก้เป็นได้นะครับ
ดังนั้นแล้ว ก่อนที่เราจะทำการซื้อรองเท้าวิ่ง ควรคิดซักนิดครับว่าเราจะใช้วิ่งในช่วงเวลาไหน เช่น ถ้าเพื่อน ๆ ชอบวิ่งมาราธอน ให้ไปลองรองเท้าวิ่งในช่วงเช้าครับ เพราะโดยส่วนใหญ่งานวิ่งมาราธอนจะจัดขึ้นในช่วงเช้ามืดถึงสาย ๆ นั่นเองครับ จะทำให้เราสามารถเลือกรองเท้าให้พอดีกับเท้าครับ
– ก้มดูรองเท้าวิ่งของเราจากมุมสูงขณะทำการลองรองเท้าวิ่ง เพื่อดูว่าทรงตัวได้ดีและสมดุลหรือไม่
สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่ต้องการรองเท้าวิ่งที่ช่วยในเรื่องของการทรงตัวที่ดี สมดุล และมั่นคง ให้ลองก้มมองดูเท้าจากมุมสูงดูครับ เพราะรูปเท้าของแต่ละคน จะมีความแตกต่างกัน ถ้ามองแล้วเห็นว่าฝ่าเท้าใหญ่กว่าส่วนบน แสดงว่าฐานเท้ามีความกว้างจะช่วยในการทรงตัวได้ดีครับ
และนอกจากความกว้างของฐานรองเท้าแล้ว ในส่วนของความแข็งแรงทนทาน ก็สำคัยเช่นกันครับ บางคนอาจคิดว่ารองเท้าวิ่งพื้นนิ่ม ๆ ไว้ก่อนจะดี วิ่งสบาย แต่จริง ๆ แล้วนั้น จะทำให้เราเจ็บปวดได้นะครับ ในระยะยาว ดังนั้นควรที่จะเลือกพื้นรองเท้าที่แข็งขึ้นมาสักนิด เพื่อให้เกิดความสมดุ,ในขณะวิ่งนั่นเองครับ
– ความหนาของถุงเท้าก็ควรคำนึงถึง
สำหรับการวิ่งที่ดีและมีความปลอดภัย เราควรที่จะคำนึงถึงเรื่องรองเท้าและถุงเท้าควบคู่กันไปด้วยนะครับ เพราะความหนาบางของถุงเท้าจะส่งผลต่อรองเท้าวิ่งที่เราสวมด้วยเช่นกัน ผมขอแนะนำว่าให้ซื้อถุงเท้าสำหรับวิ่งมาใช้ดีกว่าถุงเท้าธรรมดา และลองสวมควบคู่กับเราเท้าวิ่งด้วยว่าเข้าที่มั้ย เพื่อการวิ่งของเราจะได้ดีและปลอดภัยด้วยครับ
3. เลือกรองเท้าวิ่งจากส่วนหลังเท้า ที่ทำจากวัสดุที่ยืดหยุ่นได้ดี
บริเวณหลังเท้าก็เป็นอีกจุดหนึ่งนะครับ ที่เราต้องเอาใจใส่ดี ๆ เพราะการเกิดรองเท้ากัดมักมีสาเหตุมาจากส่วนหลังเท้าที่แข็งมากจนเกินไป โดยรองเท้าวิ่งที่ดีเหมาะสมนั้นต้องกระชีบบริเวณหลังเท้าได้ดี ในขณะเดียวกันก็ต้องมีความนุ่มและยืดหยุ่นด้วย รวมทั้งต้องมีการระบายอากาศที่ดี เวลาสวมใส่แล้วรู้สึกสบาย
ดังนั้นคุณควรซื้อรองเท้าวิ่งที่ทำมาจากวัสดุที่มีความยืดขยาย และคดกลับได้อย่างมีประสิทธิภาพ กระชับกับเท้าของเราได้อย่างเหมาะสม ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ครับ แบรนด์บางแบรนด์ได้ผลิตรองเท้าวิ่งที่ทำให้ส่วนหลังเท้ายืดหยุ่นได้ดี โดยการใช้ผ้าใยมาถักทอ แทนการใช้หนังที่มีความแข็งเกินไป ผู้ใช้จึงใส่ได้สบายเท้ามาก ๆ ครับ
4. เลือกพื้นรองเท้า และน้ำหนักให้ตรงกับระดับความชำนาญของเรา
รองเท้าวิ่งสำหรับนักวิ่งหน้าใหม่กับนักวิ่งอาชีพ จะมีน้ำหนักและลักษณะตัวรองรับฝ่าเท้าที่แตกต่างกัน ให้เพื่อน ๆ ลองตรวจสอบดูครับว่า รองเท้าที่เพื่อน ๆ ซื้อนั้น ช่วยรับแรงกระแทกได้ดีหรือไม่ และเหมาะสมกับรูปแบบการวิ่งของเราด้วยหรือเปล่าครับ
– ข้อแนะนำ รองเท้าวิ่งสำหรับนักวิ่งหน้าใหม่ ควรมีน้ำหนัก 250–280 กรัม และควรมีตัวรองรับฝ่าเท้าที่หนา
ถ้าเราไม่รู้ว่าจะเลือก รองเท้าวิ่งยี่ห้อไหนดี ตามหลักแล้วนะครับ รองเท้าวิ่ง ถ้ายิ่งเบา ก็จะยิ่งดี ซึ่งน้ำหนักของรองเท้านั้นขึ้นอยู่กับวัสดุที่นำมาผลิตครับ แต่สำหรับนักวิ่งหน้าใหม่ ควรเลือกที่มีน้ำหนักประมาณ 250 – 280 กรัม และมีตัวรองรับฝ่าเท้า (Cushion) ที่มีความหนาเพียงพอต่อการรับแรงกระแทกระหว่างการวิ่งนะครับ
ซึ่งรองเท้าวิ่งบางรุ่นนั้น ถูกออกแบบให้พื้นรองเท้า และในส่วนของฝ่าเท้ามีความหนามากขึ้น ทั้งนี้เพื่อที่จะได้เพิ่มประสิทธิภาพในการรับน้ำหนัก และรับแรงกระแทกได้ ทำให้เรามั่นใจได้ครับว่า มันจะช่วยป้องกันเท้าและข้อเท้าได้อย่างแน่นอนครับ
– นักวิ่งระดับกลาง ไปจนถึงระดับโปร ควรเลือกรองเท้าที่เบาลง แต่สามารถรับแรงกระแทกได้ดีเยี่ยม
สำหรับนักวิ่งระดับกลาง ไปจนถึงระดับโปร ควรที่จะเลือกรองเท้าที่มีฝ่าเท้าบาง แต่มีน้ำหนักเบาลงกว่ารุ่นทั่วไป แต่ก็ยังคงสามารถรับน้ำหนักได้ดี และลดแรงกระแทกได้ดีเยี่ยมอีกด้วย
อย่างไรก็ดีครับ ผู้เชี่ยวชาญได้แนะนำไว้ว่า ถ้าคุณไม่ได้ต้องการรองเท้าวิ่ง สำหรับแข่งขันกันด้วยความเร็ว ก็ไม่ต้องซื้อรองเท้าที่มีน้ำหนักเบาเสมอไปก็ได้ แต่ควรเน้นในเรื่องของการรับน้ำหนักมากกว่า โดยเมื่อต้องใช้สำหรับการวิ่งมาราธอนระยะไกล
5. เลือกซื้อรองเท้าวิ่งตามคุณลักษณะพิเศษของแต่ละแบรนด์
เมื่อเพื่อน ๆ ต้องการเลือกซื้อรองเท้าวิ่งนั้น ควรเลือกจากคุณสมบัติเด่น ๆ ที่แต่ละแบรนด์มีนะครับ วันนี้ผมได้นำคุณสมบัติเด่น ๆ ของแต่ละแบรนด์มาฝากเพื่อน ๆ ประกอบการตัดสินใจในการเลือกซื้อนะครับ
Nike: รองเท้าวิ่งที่เหมาะกับนักวิ่งขั้นสูง (Advanced runners)
Nike ถือว่าได้เป็นแบรนด์ที่โด่งดังและมีชื่อเสียงมาก ประสบความสำเร็จในการผลิตรองเท้าวิ่งสำหรับนักวิ่งชั้นสูง และนักวิ่งมืออาชีพทั้งหลาย และในแต่ละรุ่นที่ Nike ผลิตออกมา ก็มีรุ่นสำหรับนักวิ่งหน้าใหม่ด้วย น่าสนใจมากจริง ๆ ครับ ถ้าอย่างไรเพื่อน ๆ ก็สามารถไปหาซื้อ รองเท้าวิ่ง Nike มาใช้ได้นะครับ
Adidas: ออกแบบถูกใจคนรุ่นใหม่ สามารถใช้ในชีวิตประจำวันได้ดี
ในส่วนของ รองเท้าวิ่ง Adidas เทคโนโลยีที่โดดเด่นและถูกนำมาใช้ในรองเท้ากีฬา คือ “Boost” หรือตัวพื้นโฟมนั่งเอง ในส่วนนี้ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระมาก รองรับส้นเท้าและรับน้ำหนักได้เป็นอย่างดีเลย ช่วยให้ฝ่าเท้าของเราไม่ได้รับบาดเจ็บจากการวิ่ง มาพร้อมกับดีไซน์สวยงาม ทันสมัย ซึ่งมีหลายรุ่นเลยนะครับ ตั้งแต่ลำลอง ไปจนถึงเข้าแข่งขันมาราธอนได้เลย
อย่างไรก็ดี ถ้าเพื่อน ๆ สนใจซื้อเพื่อใส่ลำลอง ไม่จำเป็นต้องซื้อระดับ Booost ก้ได้นะครับ เพราะทาง Adidas เขามีรองเท้าแบบลำลอง (Sneakers) หลากหลายรุ่นให้เพื่อน ๆ หาซื้อเป็นเจ้าของอยู่แล้วครับ
อย่างไรก็ตาม ใครที่ต้องการแค่รองเท้าผ้าใบลำลองก็ไม่ต้องเลือกรุ่น Boost ก็ได้ค่ะ เพราะเขามีรองเท้าผ้าใบลำลอง (Sneakers) หลากหลายสไตล์ให้คุณเลือกซื้อเป็นเจ้าของอยู่
ASICS และ MIZUNO: รองเท้าเพื่อนักวิ่งมาราธอน
สำหรับ รองเท้าวิ่ง ASICS และ รองเท้าวิ่ง MIZUNO สองแบรนด์นี้ มาจากประเทศญี่ปุ่นครับ เหมาะกับคนญี่ปุ่นและคนเอเชียส่วนใหญ่ มีหน่วยวัดเป็น ซม. สำหรับสองแบรนด์นี้ เหมาะมากกับการวิ่งแข่งมาราธอนครับ แต่รองเท้ารุ่นใหม่ ๆ ที่ออกมาหลายรุ่น มาเพื่อใช้ในชีวิตประจำวันด้วยครับ
New Balance: รองเท้าวิ่งที่เหมาะกับการใส่ลำลองจนไปถึงการวิ่งในหลายระดับ
รองเท้าวิ่ง New Balance นับว่าเป็นรองเท้าที่อยู่ในระดับระหว่าง Adidas กับ Nike โดยรองเท้า New Balance นี้ผลิตรองเท้าออกมาเพื่อคนหลาย ๆ กลุ่มตั้งแต่นั่งวิ่งระดับอาชีพที่ใส่ใจในคุณสมบัติที่ดีของรองเท้า ไปจนถึงนักออกกำลังกายธรรมดา หรือคนทั่วไปที่ชื่นชอบในแบรนด์นี้จึงซื้อมาใส่ลำลองปกติในชีวิตประจำวัน
อย่างไรก็ดี เพื่อน ๆ ก็อาจจะมีความสนใจในแบรนด์อื่น ๆ อยู่ด้วย และผมก้ไม่พูดถึง เช่น Reebok, Under Armour ต้องบอกครับว่า แบรนด์เหล่านั้นอาจจะไม่ได้ออกแบบมาเพื่อการวิ่งมากนัก จะเป็นแนวอื่น ๆ มากกว่า เช่น คาร์ดิโอ, เวทเทรนนิ่ง รวมถึงการวิ่ง Jogging นั่นเองครับ
10 อันดับ รองเท้ากีฬาสำหรับวิ่ง ยี่ห้อไหนดี ที่สามารถซื้อออนไลน์ได้ อย่างสะดวกสบายและรวดเร็ว
มาถึงตรงนี้เพื่อน ๆ คงได้รู้จักรองเท้าวิ่ง และวิธีการเลือกซื้อรองเท้าวิ่งให้เหมาะสมกับตัวเราไปแล้วนะครับ และจากนี้ไป ผมจะขอแนะนำ 10 อันดับรองเท้ากีฬาสำหรับวิ่ง เพื่อให้เป็นข้อมูลกับเพื่อน ๆ สำหรับการตัดสินใจเลือกซื้อรองเท้าวิ่งให้เหมาะสมกับตัวเพื่อน ๆ เองนะครับ จะมีรุ่นไหนที่น่าสนใจบ้าง ไปชมกันเลยยยยย
10. Mizuno : รุ่น Wave Mujin 3
ราคา : 4,800 บาท
Mizuno รุ่น Wave Mujin 3 สามารถรับแรงกระแทกได้ดี ทั้งด้านในและด้านนอก พื้นยางรองเท้าเกาะยึดดีมาก ทนทาน แข็งแรงสุด ๆ
รองเท้าวิ่ง Mizuno ได้รับความนิยมจากผู้ใช้มากมายหลายคนครับ ดูได้จากการรีวิวในโลกออนไลน์ในปัจจุบันนี้ รองเท้าวิ่ง Mizuno ออกแบบด้วยยาง Michelin ทำให้ยึดเกาะพื้นถนน และลู่วิ่งทุกสภาพผิวได้เป็นอย่างดี
เพื่อน ๆ สามารถวิ่งออกกำลังกายในเวลาที่ฝนตก พื้นเปียกได้อย่างสบายหายห่วง ในส่วนของฝ่าเท้านั้น มีตัวรับแรงกระแทกที่ยอดเยี่ยม ประกอบกับในส่วนของด้านบนทำมาจากผ้าตาข่าย ทำให้มีความยืดหยุ่นเข้ากับเท้าทุกคน และช่วยในการระบายอากาศได้เป็นอย่างดี ทำให้ใส่แล้ววิ่งสบายมาก ๆ เลยล่ะครับ
นอกจากนี้แล้ว ยังมีความโดดเด่นในเรื่องของความแข็งแรง ทนทาน เหมาะกับนักวิ่งที่ต้องการรองเท้าคุณภาพสูง และทนทานสามารถใช้ได้นาน การลงทุนกับ รองเท้าวิ่ง Mizuno คุ้มค่าแน่นอนครับ
9. Mizuno : รุ่น Maximizer 19
ราคา 2,590 บาท
รองเท้าวิ่ง Mizuno รุ่น Maximizer 19 เป็นรองเท้าวิ่งที่มีหน้ากว้าง สามารถรองรับ และกระจายแรงกระแทกได้ดี พื้นยางมีความแข็งแรง เพิ่มความมั่นคงในการวิ่ง
รองเท้าวิ่ง Mizuno ออกแบบมาได้อย่างมีความคลาสสิค สวยงาม สีสันสะอาด สีไม่ดูฉูดฉาดมากเกินไป บริเวณส่วนบนเป็นตาข่าย ช่วยในเรื่องการระบายอากาศ ทำให้เท้าไม่เกิดการอับชื้นจากความร้อนในขณะวิ่ง ใส่แล้วรู้สึกเบาสบาย ทำให้วิ่งได้นานและไกลขึ้น น้ำหนักเบา เกิดความคล่องตัวในขณะทำความเร็ว
สำหรับรุ่น Maximizer 19 มีพื้นรองเท้าด้านนอกที่ขยายกว้างออก นอกจากนี้ยังทำมาจากวัสดุที่แข็งแรง ทำให้ที่ความมั่นคง และเกิดความสมดุลในการวิ่ง และช่วยในการรับและกระจายแรงกระแทกได้ดี รวมทั้งยังช่วยในการกระจายน้ำหนักที่ลงสู่พื้นได้อีกด้วย
เหมาะมากกับนักวิ่งหน้าใหม่จนไปถึงระดับโปร รวมทั้งคนที่ชอบวิ่งจ๊อกกิ้งและเต้นแอโรบิคด้วย
8. Nike : รุ่น LunarEpic Low Flyknit 2
ราคา 5,200 บาท
รองเท้าวิ่ง Nike รุ่น LunarEpic Low Flyknit 2 มีน้ำหนักเบา สวมใส่สบาย เป็นได้ทั้งรองเท้าใส่ลำลอง และออกกำลังกายครับ
รองเท้าวิ่งแบรนด์ดังอย่าง Nike รุ่นนี้ มีน้ำหนักเบากว่าอีกหลาย ๆ แบรนด์ที่ราคาใกล้ ๆ กัน ทำให้ความรู้สึกของผู้สวมใส่ประหนึ่งว่าเดินอยู่บนปุยเมฆนุ่ม ๆ มาพร้อมกับการรองรับแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี เหมาะมากกับการวิ่งในระยะไกล ๆ ฝึกวิ่งต่อเนื่องไปจนถึงวิ่งแบบมาราธอน และนอกจากนี้ยังสามารถใส่เป็นรองเท้าลำลองเวลาใช้ชีวิตประจำวันอีกด้วย
สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนกังวลว่ารองเท้าของ Nike จะมีส่วนด้านหน้าเท้าที่แคบเหมือนกับหลาย ๆ รุ่น ที่เคยออกมาก่อนหน้านี้ ไม่ต้องกังวลครับ เพราะรุ่นนี้เขาผลิตออกมาให้มีหน้าเท้าที่กว้างขึ้น วัสดุที่ใช้ก็มีความยืดหยุ่นกระชับเท้าได้ดี วัสดุที่ใช้สามารถระบายอากาศเป็นเยี่ยม มีให้เลือกทั้งแบบผู้ชาย และแบบผู้หญิงเลยครับ
7. New Balance : รุ่น 1080v6 Fresh Foam Running Shoes
ราคา 3,944 บาท
รองเท้าวิ่ง New Balance รุ่น 1080v6 Fresh Foam Running Shoes รุ่นนี้สำหรับผู้ชายครับ มีน้ำหนักเบา มีแผ่นรองฝ่าเท้าช่วยเสริมการทรงตัว และพื้นยางด้านนอกสามารถยึดเกาะได้อย่างดี
New Balance คือรองเท้าสัญชาติอเมริกันครับ รู้จักดีในแง่ของการเป็นรองเท้าที่มีคุณภาพมาตรฐานสูง สำหรับรุ่นนี้เหมาะมากกับการวิ่งครับ ตัวรองรับฝ่าเท้าทำมาจาก OrthoLite Foam ช่วยในเรื่องการทรงตัวที่ดี และมีพื้นผิวที่นุ่ม ใส่แล้วสบายเท้ามาก สามารถรองรับแรงกระแทกได้ดี ในส่วนของหลังเท้า ทำมาจากวัสดุระบายอากาศ ทำให้ไม่อับชื้นในการวิ่งครับ
ในส่วนของด้านหน้าของรองเท้า ออกแบบให้มีพื้นที่หน้ากว้าง เพื่อให้นิ้วเท้าได้อยู่ในตำแหน่งที่ปกติ ไม่ถูกบีบรัดมากจนเกินไป เป็นรองเท้าที่เหมาะกับการวิ่งในระยะไกล ๆ แต่ไม่เหมาะกับการวิ่งแบบจับความเร็ว เพราะมีความแข็งแรง ทนทาน แต่มีน้ำหนักมากกว่ารุ่นอื่น ๆ อยู่เล็กน้อย
6. Adidas : รุ่น ALPHABOUNCE BEYOND SHOES
ราคา 4,000 บาท
รองเท้าวิ่ง Adidas รุ่น ALPHABOUNCE BEYOND SHOES รุ่นนี้สำหรับผู้ชาย มีความยืดหยุ่นสูงมาก หลังเท้าถักทอได้อย่างสวยงาม การออกแบบก็ดูหราหรา ทันสมัย
ถ้าพูดถึงสินค้าด้านกีฬาต่าง ๆ แบรนด์แรก ๆ ที่คนส่วนใหญ่จะพูดถึงคงหนีไม่พ้น Adidas อย่างแน่นอน สำหรับรองเท้าวิ่งรุ่นนี้ครับ เป็นรุ่นที่ฮอตฮิตรุ่นหนึ่งที่กำลังขายดีในโลกออนไลน์ในปัจจุบัน
รุ่นนี้มีความพิเศษตรงที่ ส่วนที่รองรับฝ่าเท้า เขาทำออกมาให้มีความนุ่ม และยืดหยุ่นสูง ทำให้รับแรงกระแทกได้หลายระดับ เหมาะมาก ๆ กับการวิ่งและการออกกำลังกายในรูปแบบต่าง ๆ นอกจากนี้ยีงช่วยเสริมการเคลื่อนไหวของผู้สวมใส่ ให้เป็นไปตามธรรมชาติอีกด้วย
ในส่วนของด้านบนหลังเท้า ถักทอออกมาด้วยเทคโนโลยีแบบไร้ตะเข็บ ทำให้มีดีไซน์ที่สวยงาม แลดูทันสมัย อารมณ์ประมาณนักกีฬาที่เท่มาก ไม่เพียงเท่านั้นนะครับ นวัตกรรมนี้ยังทำให้รองเท้ามีความยืดหยุ่นที่ดี สวมใส่แล้วสบายเท้ายิ่งนัก พื้นยางของรองเท้า ทำจากวัสดุยางที่มีความเกาะพื้นเป็นเยี่ยม ไม่ต้องกลัวเรื่องการลื่นล้มเลยครับ สบายหายห่วง สำหรับรุ่นนี้มีแต่รุ่นผู้ชายครับ ไม่มีรุ่นผู้หญิง
5. ASICS : รุ่น GEL-Kayano 23
ราคา 6,500 บาท
รองเท้า ASICS รุ่น GEL-Kayano 23 มีเทคโนโลยีความสมดุล รองรับแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี และช่วยเสริมแรงให้วิ่งได้ดียิ่งขึ้น
สำหรับรุ่น GEL-Kayano 23 นี้ มีจุดเด่นตรงที่ เทคโนโลยี FlyteFoam หรือเทคโนโลยีการใช้เส้นใยธรรมชาติที่มีน้ำหนักเบาในการผลิตพื้นรองเท้า ทำให้เกิดแรงส่งที่ดีมาก ช่วยให้ในตอนออกตัวสามารถออกตัวได้ดี และวิ่งได้อย่างราบรื่นขึ้น
ในส่วนของพื้นรองเท้า ก็ยังถูกออกแบบมาให้เหมาะสมกับคนที่มีปัญหาเท้าบิดใน (Overpronate) มาพร้อมกับตัวรับแรงกระแทก (Cushioning) ที่นุ่มสบายเท้า มีประสิทธิภาพสูง เหมาะอย่างยิ่งกับการวิ่งในระยะยาว ส่วนบนหลังเท้าก็มีการถักทอไร้รอยต่อ และเสริมเท้าด้านหน้าได้เป็นอย่างดี
สำหรับเพื่อน ๆ ท่านใดที่เป็นนักวิ่งมืออาชีพ และกำลังสนใจจะเป็นเจ้าของรองเท้าคู่ใหม่ รีบช็อปเป็นเจ้าของได้เลยครับ
4. Adidas : รุ่น EDGE LUXE SHOES
ราคา 3,390 บาท
รองเท้าวิ่ง Adidas รุ่น EDGE LUXE SHOES เป็นรุ่นที่รองรับฝ่าเท้าได้เป็นอย่างดี ออกแบบมาเพื่อกระชับเท้าส่วนหลัง
สำหรับรุ่น EDGE LUXE SHOES นี้ เป็นรุ่นที่ผลิตออกมาเพื่อเอาใจผู้หญิงโดยเฉพาะครับ เพราะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการวิ่ง โดยการออกแบบแผ่นรองรับฝ่าเท้าให้มีความนุ่มสบาย ทำให้วิ่งได้ไกลมากขึ้น ส่วนหลังเท้าทำจากผ้าถักทอไร้รอยต่อ ทำให้ระบายอากาศได้ดี มีความยืดหยุ่นสูง ทำให้กระชับหลังเท้ามีประสิทธิภาพ
ยิ่งไปกว่านั้น ตัวรองเท้า (size 7) มีน้ำหนักเบาเพียงแค่ 240 กรัมเท่านั้นเอง ทำให้เกิดความคล่องตัวสูงในการวิ่ง สามารถใส่แบบลำลองได้ด้วย วิ่งระยะสั้นก็ได้ด้วย สามารถใส่ในโอกาสต่าง ๆ ได้มากมาย
3. Adidas : รุ่น Duramo 8
ราคา 2,300 บาท
รองเท้าวิ่ง Adidas รุ่น Duramo 8 มีดีไซน์ที่สวยงาม สามารถรองรับฝ่าเท้าส่วนกลางได้เป็นอย่างดี ใส่สบาย ทนทาน แข็งแรง
สำหรับรุ่น รุ่น Duramo 8 นี้ บอกได้คำเดียวครับว่า ได้รวมทุกคุณสมบัติที่คุณต้องการไว้ในคู่เดียว ไล่ตั้งแต่ รูปทรงทันสมัย สวยงาม บริเวณส่วนบนทำจากผ้าตาข่าย ช่วยในการระบายอากาศได้ดีเยี่ยม นอกจากใส่ออกกำลังกายแล้ว ยังสวมใส่แบบลำลองได้อีกด้วย หรือจะนำไปใช้เทรนนิ่งก็สามารถทำได้เช่นกัน
ความพิเศษของรุ่นนี้อีกข้อหนึ่งก็คือ มี TPU เป็นเสมือนเกราะหลักช่วยรองรับแรงกระแทกช่วงกลางเท้า และมี แผ่นรองพื้นเท้าแบบ OrthoLite รวมทั้งพื้นรองเท้าได้ผลิตมาจาก วัสดุคลาวด์โฟมเสริมความนุ่มนวลขณะสวมใส่
ในส่วนของพื้นรองเท้าด้านนอก ก็ยังก็มีเทคโนโลยีที่ช่วยให้รองเท้ามีความทนทานเป็นพิเศษด้วย เหมาะกับนักวิ่งหน้าใหม่ไปจนถึงระดับกลาง ๆ และผู้ที่ออกกำลังกายแบบง่าย ๆ ที่ไม่ต้องการซื้อรองเท้าไว้หลาย ๆ คู่ และคู่นี้ก็เอาอยู่ในทุกสถานการณ์แล้วครับ
2. Mizuno : รุ่น WAVE RIDER 20 (Fuji)
ราคา 5,490 บาท
รองเท้าวิ่ง Mizuno รุ่น WAVE RIDER 20 (Fuji) มีน้ำหนักเบาสบาย เพิ่มประสิทธิภาพในการวิ่ง และรองรับแรงกระแทกที่ฝ่าเท้าได้อย่างดี
รองเท้าแบรนด์ Mizuno เป็นแบรนด์ที่ผลิตอุปกรณ์กีฬาจากประเทศญี่ปุ่น กำเนิดมาแล้วกว่า 110 ปี สำหรับรองเท้าวิ่ง Mizuno รุ่น WAVE RIDER 20 (Fuji) นี้ ได้ถูกพัฒนาให้เหมาะแก่การวิ่งมาขึ้นกว่าเมื่อก่อน โดยมีคอนเซป์ว่า “The speed meets comfort runOne of its kind”
โดยในรุ่นนี้ให้ความสำคัญกับการสวมใส่ที่เบาสบาย มาพร้อมกับความรวดเร็วอีกด้วย บอกได้คำเดียวเลยครับว่าเขาใส่คุณสมบัติสำคัญสำหรับการวิ่งไว้ได้อย่างครบถ้วนทีเดียว
ในส่วนของรองเท้าวิ่งรุ่นนี้ มีน้ำหนักที่เบากว่าเดิม เหมาะมากกับการวิ่งบนพื้นราบ เน้นในเรื่องการรองรับแรงกระแทก และยังทำให้รองรับฝ่าเท้าได้นุ่มนวลขึ้น โดยการติดตั้ง U4icX เอาไว้
ในส่วนของบริเวณส้นเท้า ส่วนของด้าบนถักทอไว้เป็นตาข่าย เพื่อช่วยในการระบายอากาศ และลดความอับชื้นในขณะวิ่ง เหมาะกับนักวิ่งระดับกลางไปจนถึงระดับโปรที่ต้องการความเร็วมาก ๆ ครับ
1. ASICS : รุ่น GEL-Noosa Tri 11
ราคา 5,500 บาท
รองเท้าวิ่ง ASICS รุ่น GEL-Noosa Tri 11 สามารถระบายอากาศได้ดีขึ้น น้ำหนักเบาสบาย เชือกรองเท้าเป็นแบบยางยืดไม่ต้องผูกเชือกเอง สามารถใช้แข่งความเร็วได้ดี
รองเท้ารุ่น GEL-Noosa Tri 11 ของแบรนด์ Asics นี้ มาจากประเทศญี่ปุ่นครับ ออกแบบมาสำหรับการวิ่งแข่งขันจนถึงระดับโปรโดยเฉพาะ ในส่วนของรองเท้าใช้เส้นใยตาข่ายมาถักทออย่างดี ไร้ตะเข็บรอยต่อด้วยเทคนิคพิเศษ ขอบนิ่ม ผู้ผลิตแจ้งว่าก็ถึงขั้นไม่ต้องใส่ถุงเท้ายังได้เลยครับ นอกจากนี้ในส่วนของส้นเท้า ยังสามารถรับแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี พื้นยางมีความสามารถในการยึดเกาะถนน ไม่ต้องกังวลเรื่องการลื่นเด็ดขาด
สำหรับรุ่นนี้ ออกแบบมาให้มีน้ำหนักเบา ใส่สบาย ด้วยเทคโนโลยีการซัพพอร์ตแรงซึ่งเสริมการเคลื่อนไหวเท้าทำให้วิ่งเร็วได้ดีเยี่ยมและยังมี DYNAMIC DUOMAX SUPPORT SYSTEM ช่วยเสริมเรื่องการทรงตัวได้อย่างมั่นคง เหมาะกับนักกีฬาที่เข้าแข่งไตรกีฬา อีกทั้งยังมี Elastic laces หรือเชือกรองเท้าแบบยางยืด ซึ่งอำนวยความสะดวกให้เราไม่ต้องผูกเชือกเองอีกด้วยครับ
ระยะทางการวิ่งกับเวลาที่ใช้ มีผลต่ออายุการใช้งานของรองเท้า…
เป็นเรื่องยากมาก ๆ เลยนะครับ ถ้ารองเท้าของเราที่คู่ทุกข์คู่ยากมานาน ได้พังลง ทำให้ต้องตัดใจทิ้งไปแม้ว่าดูภายนอกจะยังดูดีอยู่ แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรล่ะ ว่ารองเท้าของเราหมดอายุการใช้งาน ไม่เหมาะแก่การนำมาใส่วิ่งแล้ว?
1. รองเท้าจะเริ่มเสื่อมสภาพ เมื่อเราวิ่งไปได้ประมาณ 800 กิโลเมตรขึ้นไป
ตามปกทั่วไปแล้ว เราสามารถประมาณการอายุของรองเท้าวิ่งได้จากระยะทางที่เราวิ่งไป ตามปกติจะเริ่มเสื่อมสภาพเมื่อวิ่งครบ 800 – 1000 กม. อย่างเช่น ถ้าคุณใช้รองเท้าวิ่งคู่นี้วิ่ง 10 กม.ในทุกวัน หมายความว่า ภายใน 2 เดือนครึ่ง ถึง 3 เดือนข้างหน้า คุณก็ต้องมองหารองเท้าวิ่งคู่ใหม่มาแทนแล้ว
อย่างไรก็ตาม คุณก็อาจจะหลง ๆ ลืม ๆ ได้ว่าแท้ที่จริงแล้ว คุณวิ่งไปได้กี่กิโลเมตรแล้ว จึงมีความจำเป็นครับที่ต้องนำ GPS มาช่วยจับระยะทางอีกทางครับ
2. ดูความสึกที่เกิดบริเวณพื้นรองเท้า
สิ่งสำคัญมาก ๆ ของรองเท้าวิ่ง คือ ประสิทธิภาพการรองรับแรงกระแทก และสภาพของพื้นรองเท้าวิ่ง รองเท้าที่พื้นรองเท้าสึกแล้ว จะทำให้ประสิทธิภาพการยึดเกาะพื้นถนนไม่ดี และก็อาจจะส่งผลในเรื่องการรับแรงกระแทกขณะวิ่ง ซึ่งมีความจำเป็นต่อการรับน้ำหนักอีกด้วย
ดังนั้นครับ เราควรหมั่นตรวจดูรองเท้าวิ่งครับ ว่าตอนนี้พื้นรองเท้าสึกแล้วหรือยัง ถ้าสึกแล้วควรซื้อคู่มาใหม่ทดแทนดีกว่าครับ เพื่อประสิทธิภาพในการวิ่ง และความปลอดภัยของตัวเราเอง
สรุป
กับคำถามที่ว่า รองเท้าวิ่งยี่ห้อไหนดี มาถึงจุดนี้ในการเลือกรองเท้าวิ่งของเรานะครับ เป็นสิ่งที่ต้องพิถีพิถัน และต้องรอบคอบให้มาก เพราะการเคลื่อนไหวของเท้าของเรา ระหว่างการวิ่งและการเดินจะไม่เหมือนกัน ต้องคำนึงถึงรูปทรงของรองเท้า ไม่ให้มีการบีบรัดหน้าเท้า และปลายนิ้วมากเกินไป และต้องมีคุณสมบัติในการรับแรงกระแทกในขณะวิ่งได้ดีด้วย
สำหรับในการวิ่งแข่งระดับโปร ยิ่งต้องใช้รองเท้าวิ่งที่น้ำหนักเบา เพื่อเพิ่มความเร็วและความคล่องตัวให้มากขึ้น รวมทั้งเทคโนโลยีแรงส่งในการเคลื่อนตัวของเท้าอีกด้วย
ครับสุดท้ายนี้ เพื่อน ๆ ก็คงได้รับทราบข้อมูลที่สำคัญในการเลือกรองเท้าวิ่ง รวมทั้งได้ทราบถึง 10 อันดับ รองเท้าวิ่งรุ่นไหนดี 2019 กันแล้ว เพื่อน ๆ ก็คงมีความมั่นใจในการเลือกรองเท้าแล้วนะครับ หวังว่าเพื่อน ๆ จะได้ออกกำลังกายกันอย่างมีความสุขนะครับ โอกาสหน้าผมจะเอาอะไรมาแนะนำอีกโปรดติดตามนะครับ
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://my-best.in.th
