ในวันที่อากาศไม่เป็นใจ จนทำให้เราไม่สามารถออกกำลังกายนอกบ้านได้ อาจทำให้เราไม่มีความสุข แต่ปัญหานี้จะหมดไป ถ้าเรามี ลู่วิ่งไฟฟ้า ไว้ที่บ้านครับ สำหรับใครที่เป็นสายออกกำลังกายที่ชอบการวิ่งเป็นชีวิตจิตใจ ถ้าวันไหนไม่ได้วิ่ง อาจจะรู้สึกหงุดหงิด แต่ถ้าวันนั้นฝนตก ยังไงก็ออกไปไม่ได้แน่นอน ทำให้ลู่วิ่งไฟฟ้าเป็นทางออกที่เหมาะสมสำหรับสถานการณ์นี้ ด้วยสิ่งนี้จะทำให้เราวิ่งได้ทุกเมื่อเท่าที่เราต้องการเลยครับ
โดยลู่วิ่งไฟฟ้าในท้องตลาดนั้น มีมากมายหลายแบรนด์ หลายรุ่นให้เลือกเลยนะ วันนี้ครับ ตังค์ทอน จะมาแนะนำ 10 อันดับ ลู่วิ่งไฟฟ้า ที่คุณภาพดี ฟังก์ชั่นครบ ให้เพื่อน ๆ ได้ทราบกัน ซึ่งแต่ลรุ่นเป็นรุ่นที่ทันสมัย และได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และจะมาแนะนำวิธีการเลือกซื้อให้ด้วย เรามาดูกันเลยครับว่าวันนี้ผมมีรุ่นไหนมาฝากกันบ้าง
อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ครับ
วิธีการเลือกซื้อลู่วิ่งไฟฟ้าควรพิจารณาจากอะไร?
ในการเลือกซื้อลู่วิ่งไฟฟ้ามาใช้งาน ควรพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ก่อนนะครับ เพื่อที่จะได้ลู่วิ่งที่ตรงกับความต้องการใช้งานมากที่สุด โดยรายละเอียดต่าง ๆ นั้นจะมีดังต่อไปนี้ครับ
1. พิจารณาจากกำลังแรงม้ามอเตอร์
อันดับแรกนะครับ ให้เพื่อน ๆ ดูว่าลู่วิ่งรุ่นนั้นมีมอเตอร์กี่แรงม้า ลู่วิ่งจะมีมอเตอร์หลายขนาดนะครับ มีตั้งแต่ 1 แรงม้าขึ้นไป แต่สำหรับรุ่นต่าง ๆ ที่ผลิตออกมา ลองดูได้ครับจะมีมอเตอร์อยู่ที่ประมาณ 2 – 3แรงม้าครับ ถามว่าทำไมต้องดูที่แรงม้าของมอเตอร์
นั่นก็เพราะว่า ยิ่งแรงม้ามากเท่าไร เพื่อน ๆ จะสามารถทำความเร็วได้มากขึ้น และวิ่งต่อเนื่องได้นานขึ้นด้วย ถ้าเพื่อน ๆ อึดมากต้องการวิ่งต่อเนื่องนาน ๆ 3 แรงม้าขึ้นไป จะเหมาะสมกับเพื่อน ๆ ครับ
2. ดูจากความเร็วสูงสุดที่ลู่วิ่งทำได้
ในส่วนของลู่วิ่งไฟฟ้าที่มีมอเตอร์กำลังแรงสูง ยิ่งแรงม้ามากเท่าไร ลู่วิ่งจะมีความสามารถในการทำความเร็วได้สูงมากตามไปด้วยนั่นเองครับ ตรงจุดนี้ให้เราดูอะไร ตรงจุดนี้เราต้องดูแรงม้าแต่ไม่จำเป็นต้องสูงมากก็ได้นะครับ เพื่อน ๆ เลือกลู่วิ่งที่เราสามารถรองรับความเร็วสูงสุดที่เราวิ่งไหวก็พอครับ แต่ละคนอาจจะไหวไม่เท่ากันนะ
เพื่อน ๆ เลือกแค่รุ่นที่เพื่อน ๆ ทำความเร็วสูงสุดได้ก็พอนะ ถ้าเลือกที่เร็วสูงสุดเกินไป ค่าใช้จ่ายก็จะสูงเกินจำเป็นครับ
3. ควรมาพร้อมกับระบบช่วยลดแรงกระแทก
เวลาที่เพื่อน ๆ วิ่ง บนลู่วิ่งนะครับ จะมีแรงกระแทกขึ้นมาที่บริเวณหัวเข่า เข่าจึงต้องรับน้ำหนักเพิ่มขึ้น ถ้ารับแรงกระแทกซ้ำ ๆ นาน ๆ ต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ จะทำให้หัวเข่าของเพื่อน ๆ เสียหายขึ้นได้ครับ ซึ่งต้องระวังอย่างยิ่ง
สิ่งที่พอจะช่วยได้เบื้องต้น คือ ต้องสวมรองเท้าวิ่งขณะทำการวิ่งด้วย รวมไปถึง ควรเลือกลู่วิ่งที่มีระบบช่วยลดแรงกระแทกได้ด้วย จะมีทั้งแบบโช๊ค สายพานยางนิ่ม และชั้นอากาศในสายพาน แต่เน้นย้ำว่าควรที่จะมีระบบนี้ครับ
4. พิจารณาจากการรับน้ำหนักได้สูงสุด
ลู่วิ่งไฟฟ้าที่รับน้ำหนักได้มาก ๆ ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ เลยนะครับ เพราะถ้าเพื่อน ๆ มีน้ำหนักตัวมาก แต่ลู่วิ่งรับน้ำหนักได้น้อย จะทำให้มอเตอร์ของลู่วิ่งทำงานหนักมากเกินไป จนอาจจะเสียหายได้นั่นเอง ซึ่งลู่วิ่งส่วนใหญ่จะสามารถรับน้ำหนักได้มากอยู่นะครับ รับได้ตั้งแต่ 100 กิโลกรัมขึ้นไปเลย
ทางที่ดีที่สุดเลยนะครับ เลือกลู่วิ่งที่สามารถรับน้ำหนักได้มากกว่าตัวเราเลยครับ เพื่อที่จะสามารถรอบรับน้ำหนักผู้ใช้งานได้แน่นอนครับ
5. ตรวจสอบสถานที่สำหรับติดตั้งเครื่อง
ก่อนที่เพื่อน ๆ จะซื้อลู่วิ่ง ต้องลองสำรวจก่อนนะครับว่า พื้นที่ที่เราต้องการติดตั้งลู่วิ่ง อยู่ตรงไหนของบ้าน กว้างหรือแคบเกินไปไหม จะสามารถจัดวางได้หรือเปล่า ถ้าพื้นที่มีน้อยเกินไป จนต้องซื้อแบบสายพานแคบ เพื่อน ๆ จะอึดอัดจนวิ่งลำบากเลยนะครับ ทางที่ดีให้เลือกที่ความกว้างสายพานมากกว่า 50 เซนติเมตรขึ้นไปจะดีกว่าครับ
เผื่อคนตัวใหญ่ ตัวสูงด้วย และถ้าจะให้ดีที่สุดจัดวางในที่ที่กว้างสักหน่อย เพื่อที่จะได้วิ่งได้อย่างสบายขึ้นครับ
6. ควรที่จะมีคุณสมบัติที่น่าสนใจเพิ่มเติม
ลู่วิ่งไฟฟ้ามีฟังก์ชั่นการวิ่งทุกรุ่นอยู่แล้ว แต่บางรุ่นอาจมีคุณสมบัติต่าง ๆ เพิ่มเติมซึ่งน่าสนใจมาก อย่างเช่น หน้าจอทัชกรีนเพื่อให้ใช้งานได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะมีในส่วนของการวัดค่าระยะทาง จับเวลา การเผาผลาญแคลอรี่ การวีดชีพจรของผู้วิ่ง และอื่น ๆ อีกหลายอย่าง เพื่อที่จะได้ประเมินการออกกำลังกายของเพื่อน ๆ ได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
10 อันดับ ลู่วิ่งไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี ปี 2024 เสียงเงียบ ใช้งานง่าย รองรับน้ำหนักดีเยี่ยม
1. FITEX ลู่วิ่งไฟฟ้า รุ่น F1
ราคา 25,990 บาท
มอเตอร์แรง ประสิทธิภาพยอดเยี่ยม สายพานกว้างวิ่งง่าย ใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง
FITEX ลู่วิ่งไฟฟ้า รุ่น F1 สำหรับลู่วิ่งไฟฟ้าจากแบรนด์ดัง FITEX รุ่นนี้นะครับ ถือได้ว่าเป็นลู่วิ่ง ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงมาก ๆ เลยในตอนนี้ มีคุณภาพดี ประสิทธิภาพยอดเยี่ยม
มาพร้อมกับ มอเตอร์ AC 5.0 แรงม้า (5.0 HP) สามารถใช้งานต่อเนื่องได้ มีความเร็วในการใช้งาน 1 -20 km/hr สามารถปรับความชันไฟฟ้าได้ถึง 20 ระดับ ตามความต้องการใช้งานของแต่ละคน
มีระบบ โช๊คใหญ่เป็นพิเศษ กับ ComfortTech 6-Point Commercial Grade Damping System ลิขสิทธิ์เฉพาะจาก USA ที่จะช่วยในเรื่องการลดแรงกระแทกตามข้อของผู้ใช้งานได้มากถึง 70% ซึ่งถือว่าเป็นข้อดีมาก ๆ
มีหน้าจอ LCD 7.5 นิ้ว แสดงหน้าจอ ความเร็ว ระยะทาง เวลา แคลลอรี่ และระดับชีพจร อย่างละเอียดเลย และมีลำโพงขนาดใหญ่ ช่วยให้ฟังเพลงได้อย่างสะดวก สำหรับลู่วิ่งรุ่นนี้ ต้องขอบอกว่าเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งเลยก็ว่าได้ครับ
2. MERRIRA ลู่วิ่งไฟฟ้า รุ่น MX-1000
ราคา 22,990 บาท
ฟังก์ชั่นการใช้งานครบครัน สะพานกว้าง รับน้ำหนักได้มาก สะดวกสบายต่อการใช้งาน
MERRIRA ลู่วิ่งไฟฟ้า 5 แรงม้า รุ่น MX-1000 สามารถเชื่อมต่อ ZWIFT ได้ ลู่วิ่งไฟฟ้าประสิทธิภาพดี มาพร้อมมอเตอร์ DC กำลังสูงสุดถึง 5 แรงม้า ในการใช้งาน สามารถปรับความเร็วได้ตั้งแต่ 1-22 กิโลเมตร/ชั่วโมง
มีขนาดสายพานอยู่ที่ 58 x 145 ซม. ในการใช้งานลู่วิ่งรุ่นนี้นะครับ สามารถปรับความชันอัตโนมัติ Auto-Incline ได้มากถึง 20 ระดับตามต้องการได้เลย การปรับก็เพียงกดปุ่มเท่านั้น ตัวลู่รับน้ำหนักได้สูงสุด 150 กิโลกรัม
คนตัวใหญ่สามารถใช้ลู่วิ่งนี้ได้เลยครับ ทนทาน แข็งแรงแน่นอน ต่อมา มี ระบบโช้คคู่ใหญ่พิเศษ Double-Cross Shock Absorption ช่วยในการปกป้องหัวเข่า และข้อเท้าได้อย่างดี โดยลดแรงกระแทกกว่า 70%
ปลอดภัยต่อร่างกาย มีหน้าจอ LED แสดงข้อมูลครบถ้วน ความเร็ว เวลา ระยะทาง แคลอรี ชีพจร และเมื่อใช้งานเสร็จสามารถพับเก็บได้ง่ายอีกด้วย ถ้าใครกำลังต้องการลู่วิ่งดี ๆ ปลอดภัย รุ่นนี้คือคำตอบครับ
3. ลู่วิ่งไฟฟ้า Amazfit Airrun Smart Treadmill
ราคา 15,990 บาท
ลู่วิ่งคุณภาพดี ดีไซน์แบบมินิมอล พับเก็บได้ง่าย วิ่งสบาย มีความปลอดภัยสูง
ลู่วิ่งไฟฟ้า Amazfit Airrun Smart Treadmill มาพร้อมสายพานวิ่งที่กว้างถึง 130X50 ซม. ช่วยให้ผู้วิ่งมีความรู้สึกมั่นคงในระหว่างวิ่ง และมีเสถียรภาพ บริเวณสายพานวิ่ง มีการเคลือยสารกันลื่นมาให้ด้วย
ช่วยให้รู้สึกปลอดภัย และวิ่งได้อย่างสบายมากยิ่งขึ้น ต่อมา บริเวณด้านหลังของตัวเครื่องนั้น ได้รับการออกแบบมาเพื่อ Build-in ลำโพงคุณภาพอย่าง JBL ได้ด้วย เพื่อใช้เปิดเพลงฟังในระหว่างที่วิ่ง
ช่วยให้เกิดความสนุกเพลิดเพลินเป็นอย่างมากเลยครับ สำหรับฟังก์ชั่นที่ลู่วิ่งรุ่นนี้มีให้ใช้งาน จะเป็นการตรวจสอบอัตราการเต้นของหัวใจและนาฬิกา Amazfit ที่จะมาช่วยประเมินร่างกายของผู้วิ่งได้
และยังช่วยในเรื่องของความปลอดภัยได้เป็นอย่างดีอีกด้วย การเก็บเมื่อเล่นเสร็จก็ง่ายมาก ใช้เวลาแค่ 5 วิ โดยจะมีปุ่มกดสั่งพับบริเวณด้านหลังที่วางแขน ง่ายมากเลย สำหรับลู่วิ่งรุ่นนี้ถือได้ว่าเหมาะสมกับผู้รักการออกกำลังกายครับ
4. Johnson ลู่วิ่งไฟฟ้า Horizon Treadmill T101
ราคา 34,830 บาท
ฟังก์ชั่นครบ ใช้งานง่าย พับเก็บได้สะดวก ตอบโจทย์การออกกำลังกายได้เป็นอย่างดี
Johnson ลู่วิ่งไฟฟ้า Horizon Treadmill T101 ลู่วิ่งไฟฟ้าฟังก์ชั่นการใช้งานหลากหลาย เหมาะกับทุกสไตล์ความต้องการออกกำลังกาย สำหรับลู่วิ้งรุ่นนี้ มีการใส่ใจในทุก ๆ รายละเอียด การใช้งานนั้น
สามารถใช้งานได้อย่างเรียบง่าย ไม่ยุ่งยาก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการออกกำลังกายเป็นประจำ ตัวเครื่องมีขนากที่กะทัดรัด พอเหมาะ กำลังดี สามารถจัดวางได้ง่าย ไม่กินเนื้อที่ภายในบ้าน รวมไปถึง
ยังมาพร้อมกับคุณสมบัติต่าง ๆ และมีฟีเจอร์มาให้ใช้อย่างอย่างครบครัน ตัวมอเตอร์มาพร้อมกับขนาด 2.5 แรงม้า แข็งแรงทนทานต่อการใช้งาน สามารถบอกระยะเวลา ระยะทาง ความเร็ว แคลอรี่ และรายละเอียดที่ครบถ้วน
มีลำโพง พอร์ต USB มาให้ด้วย เพื่อเปิดเพลงฟังในระหว่างการออกกำลังกาย ให้เกิดความเพลิดเพลิน ตัวเครื่องทนทานสูง มั่นใจได้ในคุณภาพได้เลยครับ ถ้าเพื่อน ๆ ยังลังเลไม่แน่ใจ มองมาที่รุ่นนี้ครับรับรองไม่ผิดหวัง
5. FITEX ลู่วิ่งไฟฟ้า รุ่น R800
ราคา 18,290 บาท
สายพานกว้าง วิ่งนุ่มสบาย รับน้ำหนักได้มาก รองรับแรกกระแทกได้เป็นอย่างดี
FITEX ลู่วิ่งไฟฟ้า รุ่น R800 สายพาน 55 cm ลู่วิ่งไฟฟ้าสุดแข็งแรง น่ามีไว้ใช้งาน ใช้งานได้หลากหลาย มีขนาดมอเตอร์ 4.8 แรงม้า สามารถทำความเร็วได้ตั้งแต่ 1 – 18 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
สำหรับลู่วิ่งรุ่นนี้ มีขนาดของสายพายอยู่ที่ 550 x 1400 มม. กว้างขวาง ช่วยให้ไม่รู้สึกอึดอัดเวลาวิ่งออกกำลังกาย มาพร้อมหน้าจอ LCD 7.5 นิ้ว แสดงรายละเอียดต่าง ๆ เช่น ความเร็ว ระยะทาง
เวลา แคลลอรี่ และระดับชีพจรให้ทราบ ตัวเครื่องสุดแข็งแรง สามารถรองรับน้ำหนักผู้วิ่งได้สูงสุด 160 กิโลกรัม ใช้ได้กับทุกคนเลย ฐานลู่วิ่ง 2 ชั้น ช่วยในการรองรับแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี ในเรื่องความปลอดภัย
จะมี Safety Key กุญแจนิรภัยป้องการอันตรายจากการใช้ลู่วิ่งมาให้ด้วย เมื่อใช้งานเสร็จแล้ว สามารถพับเก็บได้ง่าย ไม่เปลืองพื้นที่ในการเก็บเลย ถ้าเพื่อน ๆ ชอบลู่วิ่งที่ฟังก์ชั่นครบ ลู่วิ่งรุ่นนี้ตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี
6. MERRIRA ลู่วิ่งไฟฟ้า รุ่น MX-900
ราคา 15,990 บาท
ดีไซน์สวยงาม แข็งแรงทนทาน วิ่งสบาย ต่อบลูทูธได้ และ เล่น ZWIFT กับเพื่อน ๆ ทั่วโลกได้
MERRIRA ลู่วิ่งไฟฟ้า รุ่น MX-900 ต่อ ZWIFT ได้ มาพร้อมกับ มอเตอร์กำลังสูงสุด 4.8 แรงม้า ในส่วนของการใช้งานเครื่อง สามารถปรับความเร็วได้ 1-20 กม/ชม. และวิ่งได้ต่อเนื่องสูงสุด 4 ชั่วโมง
ทำให้สามารถวิ่งออกกำลังกายต่อเนื่องได้ยาวเลยทีเดียว ในลู่วิ่งมาพร้อมระบบสปริงรองรับแรงกระแทก 8 จุด ช่วยในเรื่องการรับแรงกระแทกหัวเข่า และข้อเท้าได้อย่างยอดเยี่ยม มีความปลอดภัยสูง
สามารถปรับความชันอัตโนมัติ Auto-Incline 20 ระดับตามความต้องการใช้งาน และสามารถเปลี่ยนระดับได้ง่าย ๆ เพียงแค่กดปุ่มเท่านั้นเอง มีโปรแกรมการออกกำลังกาย 16 โปรแกรม เลือกได้ตามใจชอบ
ตัวกระดานวิ่ง จะเป็นแบบ 2 ชั้น Double Layer กระจายแรงกระแทกได้ดียิ่งขึ้น และการสามารถพับเก็บได้อย่างง่ายด้วย ด้วย Hydraulic System สะดวกอย่างยิ่ง สำหรับลู่วิ่ง MERRIRA ถือว่าดีมากน่ามีไว้ใช้งานครับ
7. FITEX ลู่วิ่งไฟฟ้า รุ่น R500
ราคา 13,090 บาท
สายพานกว้าง ฐานลู่วิ่ง 2 ชั้น รองรับแรงกระแทกได้ดี พร้อมจอแสดงผล LED มีข้อมูลครบครัน
FITEX ลู่วิ่งไฟฟ้า รุ่น R500 ลู่วิ่งคุณภาพดีจากแบรนด์ดัง FITEX ที่มาในรุ่น R500 ที่มีกำลังมอเตอร์แรง 4.5 แรงม้า มีขนาดสายพานอยู่ที่ 480 x 1350 มม. วิ่งออกกำลังกายสบายไม่อึดอัด
สามารถปรับความชันไฟฟ้า (อัตโนมัติ) ได้18 ระดับ 18 องศา ปรับได้ตามความต้องการของแต่ละคนเลย ลู่วิ่งรุ่นนี้มีระบบ ComfortTech 6-Point Commercial Grade Damping System ช่วยลดแรงกระแทกตามข้อได้ถึง 70%
มีระบบ Safety Key กุญแจนิรภัย ที่จะช่วยป้องกันอันตรายของผู้ใช้งานในขณะทำการวิ่ง มีโปรแกรมออกกำลังกายมาให้เลือกใช้ 15 โปรแกรม ตัวลู่วิ่งมีความสามารถในการรับน้ำหนักได้สูงถึง 140 กิโลกรัม
มีหน้าจอ หน้าจอ LCD 5.5 นิ้ว ที่จะแสดงรายละเอียดต่าง ๆ และการเก็บก็ทำได้ง่าย โดยระบบไฮดรอลิก HSS พร้อมป้องกันแรงกระแทกด้วย ถ้าเพื่อน ๆ กำลังมองหาลู่วิ่งคุณภาพดีไว้ใช้งานที่บ้าน ลู่วิ่งรุ่นนี้น่าสนใจทีเดียวครับ
8. MERRIRA ลู่วิ่งไฟฟ้า รุ่น MX-850
ราคา 13,990 บาท
ผลิตจากวัสดุคุณภาพดี แข็งแรงทนทาน วิ่งนุ่มเท้า ปรับความชันไฟฟ้าได้ 20 ระดับ
MERRIRA ลู่วิ่งไฟฟ้า รุ่น MX-850 ต่อ ZWIFT ได้ ลู่วิ่งมอเตอร์กำลังแรง มาพร้อมกับ มอเตอร์กำลังสูงสุด 4.5 แรงม้า สามารถปรับความเร็วได้ตั้งแต่ 1-20 กม/ชม. มีขนาดสายพานอยู่ที่ 48 x 135 ซม.
สำหรับลู่วิ่งไฟฟ้ารุ่นนี้ สามารถรองรับน้ำฟนักของผู้วิ่งได้สูงสุด 140 กิโลกรัม ในการใช้งานเครื่อง จะสามาถปรับความชันอัตโนมัติ Auto-Incline ได้ถึง 20 ระดับ ตามความต้องการของแต่ละคน สามารถปรับระดับได้ง่าย
เพียงแค่กดปุ่มที่ตัวลู่วิ่ง ก็สามารถใช้งานได้ทันที มีหน้าจอแสดงผลต่าง ๆ เป็นจอ LCD ขนาด 5 นิ้ว แสดงข้อมูลได้อย่างครบถ้วน ทั้งความเร็ว เวลา ระยะทาง แคลอรี ชีพจร และรายละเอียดต่าง ๆ อีกหลายอย่าง
มีโปรแกรมการออกกำลังกายมาให้ทั้งหมด 15 โปรแกรม P1 – P12 และ H1 – H3 และมีกระดานที่รองรับแรงกระแทกได้อย่างปลอดภัยด้วย ในการจัดเก็บก็สามารถทำได้ง่ายด้วยระบบไฮดรอลิคที่สะดวกมาก ๆ เลยครับ
9. ลู่วิ่งไฟฟ้า King Fitness รุ่น DK32AT
ราคา 8,990 บาท
มีระบบโช๊คคู่ ช่วยรับแรงกระแทกได้ดี ใช้งานง่าย สะดวกสบาย มีฟังก์ชั่นให้ใช้งานอย่างครบครัน
ลู่วิ่งไฟฟ้า King Fitness รุ่น DK32AT ลู่วิ่งไฟฟ้าประสิทธิภาพเยี่ยม ฟังก์ชั่นครบครันในทุก ๆ การใช้งาน มาพร้อมกับมอเตอร์กำลังแรง 3.5 แรงม้า สามารถปรับความเร็วได้ตั้งแต่ 1 – 16 กม./ชม.
ในการใช้งานเครื่องลู่วิ่งนี้ สามารถปรับความชันอัตโนมัติ 18 องศา เพียงแค่เพื่อน ๆ กดปุ่ม Auto-Incline ที่หน้าจอ จะมีปุ่ม + หรือ- ก็สามารถปรับระดับได้ในทันที ลู่วิ่งรุ่นนี้มาพร้อมApp เทรนเนอร์การวิ่งบนมือถือ
ที่ทำการเชื่อมต่อด้วย Bluetooth เมื่อเชื่อมต่อแล้ว สามารถจัดโปรแกรมการวิ่ง ข้อมูลการออกกำลังกายได้อย่างง่าย เหมือนกับมีเทรนเนอร์ส่วนตัวมาดูแลเราเลยครับ มีระบบโช้คคู่ ช่วยในการลดแรงกระแทกที่ เข่า และ ข้อเท้าได้ดี
มีหน้าจอแสดงผล แบบ LCD แสดงข้อมูลครบถ้วน ระยะทาง แคลอรี ชีพจร ความเร็ว เวลา และจัดเก็บง่ายด้วยระบบไฮโดรลิก Hydraulic Folding รวมทั้งฟังก์ชั่นอื่น ๆ อีกมากมาย ถือว่าเป็นลู่วิ่งที่เพียบพร้อมทุกอย่างครับ
10. FITEX ลู่วิ่งไฟฟ้า รุ่น R100M
ราคา 10,990 บาท
มีโปรแกรมออกกำลังกายมากมาย สายพานกว้างวิ่งได้ไม่อึดอัด ตัวเครื่องทนทานรับน้ำหนักได้มาก
FITEX ลู่วิ่งไฟฟ้า รุ่น R100M ลู่วิ่งไฟฟ้าประสิทธิภาพน่าใช้งาน ที่สามารถทำความเร็วได้ 0.8 – 16 กม./ชม. มีขนาดมอเตอร์ 3 แรงม้า ขนาดของสายพาน 420 x 1260 มม.
ในส่วนของการใช้งานลู่วิ่งจากแบรนด์ FITEX รุ่นนี้นะครับ สามารถปรับความชันแมนนวลได้สามระดับ 0, 3, 5 องศา ตามความต้องการใช้งาน ว่าอยากได้ระดับใด ก็สามารถปรับใช้ได้เลย ในส่วนของฐานลู่วิ่ง
ฐานจะเป็นแบบ 2 ชั้น ช่วยในเการรองรับแรกกระแทกเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังมาพร้อมระบบ ระบบ ComfortTech 6-Point Commercial Grade Damping System ที่ช่วยลดแรงกระแทกตามข้อของผู้ที่กำลังวิ่ง ได้มากถึง 70% เลยครับ
การใช้งาน จะมีโปรแกรมมาให้โปรแกรมการออกกำลังกายมาให้ 15 Program จะมาจากโiงงาน 15 โปรแกรม และเพื่อน ๆ ตั้งเองอีก 3 โปรแกรมด้วยกัน รวมทั้งยังมีระบบ Stereo สามารถฟังเพลง MP3 จากมือถือและ USB ได้อีกด้วยครับ
เหตุผลดี ๆ ที่เราควรวิ่งออกกำลังกาย
1. การวิ่งช่วยให้เรามีความสุขมากขึ้น
มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งระบุว่า การออกเดินบนลู่วิ่งเป็นระยะเวลา 30 นาที จะช่วยบรรเทาอาการซึมเศร้าได้ในทันที และยิ่งถ้าได้ออกไปวิ่งที่สวนสาธรณะ ที่มีต้นไม้ร่มรื่น วิวสวยงาม อากาศบรสุทธิ์อีก ก็จะยิ่งทำให้เรามีความสุขเพิ่มขึ้นไปอีก ซึ่งถือว่ามีประโยชน์กับเรามาก ร่างกายแข็งแรง จิตใจก็เข้มแข็งด้วย
2. วิ่งออกกำลังกายช่วยให้ร่างกายฟิตเฟิร์ม
การที่เราวิ่งนั้น จะช่วยให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรี่ได้เป็นอย่างดี ยิ่งถ้าวิ่งได้อย่างต่อเนื่อง สม่ำเสมอ เป็นระยะเวลานาน ๆ จะยิ่งเป็นการเผาผลาญแคลอรี่ออกไปได้อย่างมหาศาลเลยทีเดียว อีกทั้งยังช่วยให้อวัยวะภายในอย่าง หัวใจ ปอด และหลอดเลือดแข็งแรงขึ้นอีกด้วย รวมทั้งยังช่วยให้ร่างกายเฟิร์มมากขึ้นด้วยครับ
3. ช่วยเสริมข้อต่อและกระดูกให้แข็งแรง
เวลาที่เราวิ่งเราต้องใช้งานอวัยวะและระบบต่าง ๆ ในร่างกายเพื่อช่วยควบคุมการเคลื่อนไว และรับน้ำหนัก ตรงที่ใช้งานคือข้อต่อและกล้ามเนื้อ เวลาเราวิ่งจะมีแรงกด ทำการเพิ่มการไหลเวียนของน้ำบริเวณข้อต่อ ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณขาแข็งแรงมากขึ้น ตลอดจนช่วยเพิ่มมวลกระดูก และป้องกันการสูญเสียมวลกระดูกได้อีกด้วย
บทส่งท้าย
จะเห็นได้ว่า ลู่วิ่งไฟฟ้า มีประโยชน์ต่อการออกกำลังกายมาก ๆ นะครับ เมื่อใดก็ตามที่เราต้องการวิ่ง เราก็สามารถวิ่งบนลู่วิ่งไฟฟ้าได้ทันที ไม่ว่าเราจะเลือกงานช้าแค่ไหน จะไปสวนสาธารณะไม่ทันก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะเรามีลู่วิ่งติดตั้งไว้ที่บ้านแล้ว ยิ่งถ้าได้วิ่งอย่างสม่ำเสมอทุกวัน ร่างกายก็จะแข็งแรง จิตใจแจ่มใส และมีร่างกายที่ฟิตแอนด์เฟิร์ม หวังว่าเพื่อน ๆ จะชอบลู่วิ่งไฟฟ้าที่เรานำมาฝากนะครับ